โดย กุลธิดา หมุนสุข
สถาปัตยกรรมของไบแซนไทน์นั้นมีลักษณะพิเศษคือ มีการสร้างโดมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ เพื่อช่วยรับน้ำหนักสิ่งก่อสร้าง โบสถ์เซนต์มาร์โคนีหรือมหาวิหารซันมาร์โก นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญที่แสดงให้เห็นลักษณะโดดเด่นตามแบบของศิลปะไบแซนไทน์ได้อย่างชัดเจน
โบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก คือโบสถ์ประจำเมืองของเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซันมาร์โก ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และ ความมั่งคั่งของเวนิส
จุดกำเนิดของโบสถ์แห่งนี้มาจากการที่พ่อค้าชาวเวนิส ได้ขโมยศพของนักบุญมาร์ก (St. Mark) ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิสในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ มาจากเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ.828 แล้วนำมาถวายเจ้าผู้ครองเมืองเวนิสในขณะนั้น ซึ่งเจ้าผู้ครองเมืองก็ได้สร้างโบสถ์นี้ไว้เก็บศพของนักบุญมาร์กเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
จุดเด่นของโบสถ์ คือ ด้านหน้าโบสถ์ที่ทำเป็นซุ้มประตูโค้ง 5 ช่อง แต่ละช่องประดับด้วยโมเสกสีทองจากกรีซ และมีภาพการเชิญศพนักบุญมาร์กมาเวนิส ม้าทั้งสี่ตัวก็ถูกนำกลับคืนมาเวนิส ปัจจุบันม้าทั้งสี่ ตัวจริงเก็บอยู่ภายในโบสถ์ ส่วนที่เห็นด้านนอกในปัจจุบันเป็นม้าที่จำลองขึ้นแทน
และจุดที่น่าสนใจอยู่ที่เพดาน กำแพง ซึ่งมีภาพจิตรกรรมที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองประดับด้วยหินสีมีค่า ครอบคลุมเป็นระยะกว่า 4,000 ตารางเมตร แสดงเรื่องราวการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของนักบุญมาร์คและเรื่องราวในพระคัมภีร์
จากข้างต้นที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า โบสถ์เซนต์มาร์โคนีหรือมหาวิหารซันมาร์โก เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของคริสต์ศาสนา และความเจริญในด้านศิลปะขั้นสูงของชาวเมืองเวนิส ที่นำโครงสร้างรูปโดมมารองรับน้ำหนักในการก่อสร้างสถาปัตยกรรมได้อย่างชาญฉลาดและในขณะเดียวกันก็มีรูปทรงสง่างาม อีกทั้งยังมีการนำกระจกสีและโมเสกมาประดับภายในได้อย่างวิจิตรงดงามอีกด้วย
อ้างอิง
Thanapon. (2554). โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco). สืบค้นเมื่อ 7 ม.ค. 2557, จาก http://thanapon-basilicadisanmarco.blogspot.com/
Amnika. (2554). โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco) หรือ Saint Mark's Basilica. สืบค้นเมื่อ 9 ม.ค. 2557, จาก http://amnika-san-marco.blogspot.com/
ชนิษฐา เหมยเมืองแก้วและสิราวรรณ ใจกล้า. (2551). มหาวิหารและจัตุรัสซานมาร์โก้. สืบค้นเมื่อ 9 ม.ค. 2555, จาก https://sites.google.com/site/webnamjoy/index2/mha-wihar-laea-ctu-ras-sa-nmar-ko
สถาปัตยกรรมของไบแซนไทน์นั้นมีลักษณะพิเศษคือ มีการสร้างโดมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ เพื่อช่วยรับน้ำหนักสิ่งก่อสร้าง โบสถ์เซนต์มาร์โคนีหรือมหาวิหารซันมาร์โก นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญที่แสดงให้เห็นลักษณะโดดเด่นตามแบบของศิลปะไบแซนไทน์ได้อย่างชัดเจน
โบสถ์ซานมาร์โค หรือ โบสถ์เซนต์มาร์ก คือโบสถ์ประจำเมืองของเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซันมาร์โก ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และ ความมั่งคั่งของเวนิส
จุดกำเนิดของโบสถ์แห่งนี้มาจากการที่พ่อค้าชาวเวนิส ได้ขโมยศพของนักบุญมาร์ก (St. Mark) ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิสในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ มาจากเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ.828 แล้วนำมาถวายเจ้าผู้ครองเมืองเวนิสในขณะนั้น ซึ่งเจ้าผู้ครองเมืองก็ได้สร้างโบสถ์นี้ไว้เก็บศพของนักบุญมาร์กเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
จุดเด่นของโบสถ์ คือ ด้านหน้าโบสถ์ที่ทำเป็นซุ้มประตูโค้ง 5 ช่อง แต่ละช่องประดับด้วยโมเสกสีทองจากกรีซ และมีภาพการเชิญศพนักบุญมาร์กมาเวนิส ม้าทั้งสี่ตัวก็ถูกนำกลับคืนมาเวนิส ปัจจุบันม้าทั้งสี่ ตัวจริงเก็บอยู่ภายในโบสถ์ ส่วนที่เห็นด้านนอกในปัจจุบันเป็นม้าที่จำลองขึ้นแทน
และจุดที่น่าสนใจอยู่ที่เพดาน กำแพง ซึ่งมีภาพจิตรกรรมที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองประดับด้วยหินสีมีค่า ครอบคลุมเป็นระยะกว่า 4,000 ตารางเมตร แสดงเรื่องราวการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของนักบุญมาร์คและเรื่องราวในพระคัมภีร์
จากข้างต้นที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า โบสถ์เซนต์มาร์โคนีหรือมหาวิหารซันมาร์โก เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของคริสต์ศาสนา และความเจริญในด้านศิลปะขั้นสูงของชาวเมืองเวนิส ที่นำโครงสร้างรูปโดมมารองรับน้ำหนักในการก่อสร้างสถาปัตยกรรมได้อย่างชาญฉลาดและในขณะเดียวกันก็มีรูปทรงสง่างาม อีกทั้งยังมีการนำกระจกสีและโมเสกมาประดับภายในได้อย่างวิจิตรงดงามอีกด้วย
อ้างอิง
Thanapon. (2554). โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco). สืบค้นเมื่อ 7 ม.ค. 2557, จาก http://thanapon-basilicadisanmarco.blogspot.com/
Amnika. (2554). โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco) หรือ Saint Mark's Basilica. สืบค้นเมื่อ 9 ม.ค. 2557, จาก http://amnika-san-marco.blogspot.com/
ชนิษฐา เหมยเมืองแก้วและสิราวรรณ ใจกล้า. (2551). มหาวิหารและจัตุรัสซานมาร์โก้. สืบค้นเมื่อ 9 ม.ค. 2555, จาก https://sites.google.com/site/webnamjoy/index2/mha-wihar-laea-ctu-ras-sa-nmar-ko
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น