การทดลองบรรยากาศขั้นสูงของหมอนาซี

โดย อภิญญา หนูขยัน

ในระหว่างสงครามโลกที่สอง ขณะนั้นประเทศเยอรมนีมีผู้นำสูงสุด คือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้คิดค้นยุทธวิธีการรบโดยสร้างทหารหน่วยพลร่มขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่สอดแนม และโจมตีข้าศึก เวลาเดียวกันนี้ก็มีทหารพลร่มบาดเจ็บกันมากในขณะที่ร่อนตัวลงจากเครื่องบิน เนื่องจากเกิดแรงปะทะจากความกดอากาศรอบตัวอย่างแรงในขณะที่โรยตัวลงมาด้วยความสูงมากๆ ในแต่ละพื้นที่ พลร่มบางคนต้องกระโดดลงใน ทุ่งน้ำแข็งที่หนาวจัดอย่างไม่มีทางเลือกเพื่อให้รอดพ้นจากสายตาศัตรู เมื่อฮิตเลอร์ทราบข่าวนี้จึงได้มีการแต่งตั้งหน่วยแพทย์ทหาร หรือที่เราเรียกกันติดปากโดยทั่วไปว่าหมอนาซี ทำการทดลองลับโดยการจับชาวยิวและเชลยสงคราม มาเป็นเหยื่อการทดลอง ซึ่งการทดลองนี้ให้ผลสรุปที่น่าพอใจแก่หมอนาซีในระดับหนึ่ง    


ภาพ นายแพทย์ซิกมุนด์ ราเชอร์

การทดลองบรรยากาศขั้นสูงนั้น มีนายแพทย์ซิกมุนด์ ราเชอร์ ผู้เป็นหัวหน้าการทดลองนี้ เขาได้แบ่งการทดลองเป็น 4 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ
1. การร่อนลงเชื่องช้าโดยไม่มีออกซิเจน (จำลองตอนมีร่มชูชีพกาง)
2. การร่อนลงเชื่องช้าโดยมีออกซิเจน (จำลองตอนมีร่มชูชีพกาง)      
3. การตกดิ่งโดยไม่มีออกซิเจน (จำลองการตกอิสระก่อนร่มกาง)    
4. การตกดิ่งโดยมีออกซิเจน (จำลองการตกอิสระก่อนร่มกาง)
โดยเขาได้สร้างห้องโลหะทรงกลมที่สามารถปรับลดความดันของบรรยากาศขึ้นมา แล้วสูบอากาศออกไป ทั้งยังกำหนดความกดอากาศที่ความสูง 68,000 ฟุต เพื่อจำลองเหตุการณ์ให้สมจริงที่สุด และได้มีการนำเหยื่อการทดลอง คือ ชาวยิว ยิปซี โปแลนด์ รัสเซีย และเชลยสงคราม  มาทดลองราวๆ 200 คน โดยหลอกพวกเหยื่อว่าหากเข้าร่วมการทดลองจะได้รับการปล่อยให้เป็นอิสระ ด้วยสภาพค่ายกักกันดาเชาที่คับแคบ อดมื้อกินมื้อ  ใช้แรงงานพวกเขาเยี่ยงทาส กอปรกับสุขอนามัยในค่ายกักกันก็แย่เสียเหลือเกิน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาจึงตอบตกลงที่จะเข้ามาเป็นเหยื่อในการทดลองนี้

นายแพทย์ราเชอร์ได้สรุปผลการทดลองนี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 78 คน จากเหยื่อการทดลอง 200 คน ส่วนคนที่รอดก็ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขไม่ได้ เพราะถูกตามฆ่าปิดปากเพื่อไม่ให้การทดลองลับนี้เผยแพร่ออกไป หรือเหยื่อบางคนก็ถูกนำไปทดลองในการทดลองอื่นๆ จากผลการชันสูตรศพนั้นพบว่า ช่องเยื่อหุ้มหัวใจมีของเหลวอยู่เต็ม และหลอดเลือดในสมองก็มีฟองอากาศมากขึ้นอย่างชัดเจน



หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองจบลงเยอรมนีเป็นผู้พ่ายแพ้ในสงคราม โครงการทดลองลับของพวกหมอนาซีก็ถูกเปิดโปง โดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้ามามีส่วนร่วม และตั้งศาลในการพิพากษาคดีที่ห้องพิพากษาคดีที่เมืองนูเรมเบิร์ก จากบันทึกของวิเวียน ชปิตซ์ ผู้มีหน้าที่จดบันทึกคำพิพากษาคดีของนายแพทย์นาซีทั้งหมดกล่าวว่าในการพิพากษาคดีนี้มีโจทก์คือ เหยื่อการทดลองที่รอดชีวิต และจำเลยคือพวกหมอนาซีทั้งหลาย

ในคดีการทดลองบรรยากาศขั้นสูงนี้ มีหลักฐานที่แน่นหนาในการเอาผิดนายแพทย์ราเชอร์ก็คือ บันทึกที่เขาส่งมอบผลการทดลองของเหยื่อให้กับฮิตเลอร์ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการทดลองมนุษย์ทั้งหมด โดยผลการทดลองเขียนไว้ว่า
“เหยื่อทดลองชาวยิวอายุ 37 ปี รายหนึ่ง ได้ถูกทดสอบที่ความสูง 12 กิโลเมตร เมื่อผ่านไป 4 นาที สภาพของเหยื่อจะมีเหงื่อออกจนท่วมตัว และมีอาการหัวส่ายไปมา เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 5 เหยื่อทดลองจะเริ่มเป็นตะคริว และหลังจากผ่านนาทีที่ 6  ไปจนถึงนาทีที่10 การหายใจของเหยื่อ จะเริ่มถี่ขึ้น และหมดสติ จนผ่านนาทีที่ 11 ไปจนถึงนาทีที่ 30  การหายใจของเหยื่อทดลองก็จะช้าลงเหลือประมาณสามครั้งต่อนาที จนในที่สุดก็หยุดหายใจ โดยสภาพผิวของเหยื่อเริ่มเป็นจ้ำสีน้ำเงิน น้ำลายฟูมปาก และหัวใจจะหยุดเต้นภายในหนึ่งชั่วโมง” 
ด้วยหลักฐานนี้เองที่ทำให้นายแพทย์ซิกมุนด์ ราเชอร์ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากแต่เขาไม่ได้เข้าร่วมแค่การทดลองนี้เพียงการทดลองเดียว เขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตในที่สุด


ภาพ เหยื่อหมดสติในระหว่างการทดลองบรรยากาศขั้นสูง

จากการทดลองบรรยากาศขั้นสูงนี้สามารถมองได้หลายแง่มุม ด้านแรก คือ ฮิตเลอร์มีความต้องการที่จะช่วยชีวิตพวกพลทหารร่มของเขาจึงเป็นที่มาในการทำการทดลองนี้ขึ้น โดยให้นายแพทย์ราเชอร์เป็นหัวหน้าการทดลอง พวกเขาไม่มีจิตสำนึกที่ว่าคนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันเนื่องจากพวกเขามีความคิดว่าพวกใดที่ไม่ใช่เผ่าอารยันจะต้องถูกกำจัดทิ้ง พวกที่ว่าโดยส่วนมากก็คือ ชาวยิวนั่นเอง ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่ได้มองถึงเรื่องศีลธรรมแต่อย่างใด มองเพียงแต่ว่าได้ประโยชน์จากการทดลองนี้และยังได้กำจัดพวกยิวไปด้วย

ส่วนในด้านที่สองคือ ด้านคุณธรรม คงมองว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้าย ทารุณ ภายในจิตใจของพวกหมอนาซี ที่ขาดคุณธรรม ไม่มีความเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ และจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์หลงเหลือเลย แม้กระทั่งคำสัตย์สาบานของฮิปโปเครตีสที่พวกเขาได้กล่าวไว้เมื่อวันที่พวกเขารับปริญญาในวันสำเร็จการศึกษาจากสถาบัน ดังจะยกตัวอย่างคำสัตย์สาบานมาบางส่วน "จรรยาและข้อกำหนดที่ข้าพเจ้ายึดถือ และประกาศไว้นี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของผู้ป่วยในความดูแล ซึ่งข้าพเจ้าจะใช้พละกำลังของข้าพเจ้าช่วยเหลือผู้ป่วยจนสุดความสามารถ ข้าพเจ้าจะไม่ใช้ความรู้ของข้าพเจ้าให้เป็นอันตรายต่อผู้อื่น หรือรักษาผู้อื่นด้วยวิธีการที่ผิด” ทว่าน่าเสียใจยิ่งนักที่พวกเขาไม่สามารถทำตามคำสัตย์สาบานที่พวกเขากล่าวไว้ได้


อ้างอิง

วิเวียน  ชปิตซ์. นพดล เวชสวัสดิ์ แปล. 2557. หมออำมหิตจากนรก (Doctors from Hell). สำนักพิมพ์มติชน

สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.คำสัตย์สาบานฮิปโปเครตีส.[Online], สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2559,จาก  http://siweb.dss.go.th/Scientist/scientist/Hippocrates.html

Dachau High Altitude Medical Experiments.[Online],สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2559, จาก  http://www.jewishvirtuallibrary.org/jsource/Holocaust/dachauex1.html

El campo de concentración de Dachau.[Online],สืบค้นเมื่อ 2 กันยายน 2559, จาก http://es.slideshare.net/pequeni/el-campo-de-concentracin-de-dachau-38845705?next_slideshow=1


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น