โดย ณฐกร จันทเขต
เมื่อพูดถึง ราชาเพลงป็อป หรือ " King of Pop " ต้องนึกถึง ไมเคิล แจ็กสัน ที่มีท่าเต้น "มูน วอล์ค" และ "ลูบเป้า" อันเป็นเอกลักษณ์สร้างชื่อของเขา ไมเคิล ได้เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตทั่วโลก รวมทั้งที่ประเทศไทยด้วย โดยเป็นที่รู้จักของคนไทยส่วนหนึ่งขึ้นมาจากมีชื่อถูกอ้างถึงในเพลง ทับหลัง ของคาราบาว ในปี พ.ศ. 2531 ที่มีเนื้อร้องในท่อนแยกว่า “เอาไมเคิล แจ็กสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา” ซึ่งเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมจากกระแสเรียกร้องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสหรัฐอเมริกา
ไมเคิล แจ็คสัน (อังกฤษ: Michael Jackson) มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน (Michael Joseph Jackson) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เอ็มเจ (MJ) หรือแจ็คโก้ (Jacko) เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2501 เป็นนักร้องชาวอเมริกัน เป็นบุตรชายครอบครัวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน บิดาชื่อโจเซฟ วอลเตอร์ "โจ" แจ็กสัน และมารดาชื่อแคเทอรีน เอสเตอร์ (สกุลเดิม สคริวส์) เขาเป็นลูกคนที่ 7 มีพี่น้องจำนวน 9 คน โดยมีพี่น้องคือ รีบี แจ็กกี ติโต เจอร์เมน ลา โทยา มาร์ลอน แรนดี และเจเน็ต พ่อของพวกเขาโจเซฟเป็นลูกจ้างโรงงานเหล็กที่แสดงในวงอาร์แอนด์บีที่ชื่อ "เดอะฟอลคอนส์" กับพี่ชายเขา ลูเธอร์ แจ็กสันโตมากับความเชื่อ "พยานพระยะโฮวา" จากแม่ของเขา
ไมเคิลแจ็คสันปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเดอะแจ็คสันไฟฟ์ ในปี 1969 เดอะแจ็คสันไฟฟ์ บันทึกเพลงหลายเพลง รวมถึงเพลง "Big Boy" ภายใต้สังกัดท้องถิ่นที่ชื่อสตีลทาวน์ (ปี 1967) และได้เซ็นสัญญากับค่ายโมทาวน์ในปี 1968 นิตยสารโรลลิงสโตน อธิบายถึงแจ็กสันตอนเด็กไว้ว่า "เป็นเด็กอัจฉริยะ" กับ "พรสวรรค์ทางด้านดนตรีอย่างเต็มเปี่ยม" และยังพูดว่าแจ็กสัน "เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วที่เป็นตัวหลักในฐานะนักร้องนำ" หลังจากที่เขาเริ่มเต้นและร้องเพลงกับพี่ ๆ ของเขา วงสร้างสถิติบนอันดับเพลงโดยการมี 4 ซิงเกิ้ลแรก ("I Want You Back", "ABC", "The Love You Save" และ "I'll Be There") ขึ้นสูงสุดอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮ็อต 100 อีกด้วย
เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ในปี 1982 มีผลงานอัลบั้มที่ชื่อ Thriller ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลและสี่อัลบั้มเดี่ยวที่เหลือก็ยังถือว่าเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอัลบั้มหนึ่ง อันประกอบด้วยชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HiStory (1995)
ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขาเริ่มมีผลงานที่โดดเด่นในวงการเพลงป็อป และถือเป็นชาวแอฟริกัน- อเมริกัน คนแรกที่มีแฟนเพลงมากมายผ่านทางช่องเอ็มทีวี ความนิยมของเขามาจากการออกอากาศมิวสิกวิดีโอทางช่องเอ็มทีวี อย่างเช่นเพลง "Beat It", "Billie Jean" และ "Thriller" เพลงนี้ได้รับเอ่ยถึงว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของศิลปะ มิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่องที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น วิดีโอเพลง "Black or White" และ "Scream" ก็ยังคงเปิดบ่อยทางช่องเอ็มทีวีในคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วย ลีลาบนเวทีของแจ็กสันและมิวสิกวิดีโอ แจ็กสัน สร้างความโด่งดังกับท่าเต้นซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลาย ๆ ท่า อย่างเช่นท่าเต้น "หุ่นยนต์" และท่าเต้น "มูน วอล์ค" ส่วนเอกลักษณ์ด้านดนตรีและเสียงร้องของเขายังเป็นอิทธิพลให้กับศิลปินแนวฮิปฮอป ป็อป และอาร์แอนด์บี ให้อีกหลายคน อิทธิพลเพลงของเขามีแพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่น
เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่ออยู่ใน ร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม ถึงสองครั้ง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จได้รับสถิติหลายครั้งจากกินเนสบุ๊ค รวมถึงในหัวข้อ เป็นหนึ่งใน "ศิลปินบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล" เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ 13 ครั้ง มี 13 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะนักร้องเดี่ยว และมียอดขายรวมกว่า 750 ล้านชุดทั่วโลก เขาถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรม เพลงป็อปมากว่า 4 ทศวรรษ
จากนั้นหลายๆคนคงสงสัยเรื่องสีผิวทีเปลี่ยนไปของเขา ซึ่งมีเพลง Black or White ในปี 1991 เนื้อหา (ที่แท้จริง) ของเพลงนี้เกี่ยวกับความรัก ความสมานฉันท์ของคนที่ไม่ว่าสีผิวไหนก็รักกันได้ ซึ่งชื่อเพลงดันไปคล้องกับจุดสนใจเรื่องสีผิวของ ไมเคิล แจ็คสัน พอดิบพอดี
เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Oprah Winfrey เจ้าแม่ทอล์กโชว์เมื่อ 1993 ว่าผมไม่ได้ฟอกสีผิว มีคนบอกว่าผมเกลียดสิ่งที่ผมเป็น ซึ่งมันไม่ใช่ ผมไม่คิดว่ามีการฟอกสีผิวในโลกนี้ได้ ผมเป็นโรคผิวหนังที่เรียกว่า Vitiligo ต่างหากซึ่งในการสนทนา Oprah บอกว่า ฉันได้ยินว่ามีครีมฟอกผิวนะ แต่ไมเคิล คุณคงอาบครีมนี้มากกว่า 3000 แกลลอนแน่ๆ
ต่อมาไมเคิล แจ็คสันก็ได้รับรางวัล "ตำนานที่ยังคงอยู่" ในงานแจกรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 35 ในลอสแอนเจลิส เพลง "Black or White" ถูกเสนอชื่อรางวัลแกรมมี่ในสาขาร้องยอดเยี่ยม ส่วนเพลง "Jam" ถูกเสนอเข้าชิง 2 รางวัลในสาขาแสดงเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมและเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมอีกด้วย
จากความสำเร็จของเขาทำให้ได้รับฉายา "King of Pop" หรือ ราชาเพลงป็อป จากนักแสดงหญิงที่ตั้งชื่อให้เขาคือเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ เธอยังเชิญรางวัล "ศิลปินแห่งทศวรรษ" ให้กับเขาในปี 1989 โดยพูดว่า "ราชาแห่งป็อป ร็อกและโซลตัวจริง" ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ยังเชิญรางวัล "ศิลปินแห่งทศวรรษ" ให้เขาเป็นพิเศษที่ทำเนียบขาว เพื่อเป็นการสดุดีให้กับอิทธิพลทางด้านดนตรีตลอดคริสต์ทศวรรษ 1980 จากปี 1985 ถึง 1990 แจ็กสันบริจาคเงิน 500,000 เหรียญสหรัฐให้กับ United Negro College Fund และผลกำไรจากซิงเกิ้ล "Man in the Mirror" ทั้งหมดก็เข้าการกุศล
จากนั้นไมเคิล แจ็คสันก็มีมีข่าวอื้อฉาว กรณีล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กครั้งแรก และแจ็กสันให้บทสัมภาษณ์ในรายการยาว 90 นาทีของโอปราห์ วินฟรีย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 ถือเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งที่ 2 ของเขาตั้งแต่ปี 1979 เขาทำหน้าบูดบึ้งขณะพูดถึงชีวิตที่ถูกทารุณด้วยน้ำมือพ่อของเขาในวัยเด็ก เขาเชื่อว่าเขาพลาดความสนุกสนานในชีวิตวัยเด็ก และยอมรับว่าเขามักจะร้องไห้เมื่อโดดเดี่ยว เขาปฏิเสธข่าวลือจากแท็ปลอยด์ที่ว่าเขาซื้อกระดูกมนุษย์ช้างหรือนอนในตู้ออกซิเจน เขาปฏิเสธข่าวที่เขาฟอกสีผิว และยังพูดครั้งแรกว่าเขาเป็นโรคด่างขาว การสัมภาษณ์ครั้งนี้มีผู้ชมอเมริกันถึง 90 ล้านคน ถือเป็นรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ที่ไม่ใช่รายการประเภทกีฬา ในประวัติศาสตร์อเมริกา และถือเป็นการให้ความรู้เรื่องโรคด่างขาวที่ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไหร่ อัลบั้ม เดนเจอรัส กลับมาเข้าชาร์ทท็อป 10 อีกครั้ง หลังจากที่ออกขายมากกว่า 1 ปี
แจ็กสันถูกฟ้องร้องจากเรื่องละเมิดทางเพศจากเด็กชายอายุ 13 ปีที่ชื่อ จอร์แดน แชนด์เลอร์และพ่อของเขา อีแวน แชนด์เลอร์ อาชีพทันตแพทย์ หลังตรวจสอบและมีเด็กหลายคนรวมถึงครอบครัวต่างปฏิเสธว่าแจ็กสันไม่ใช่เป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก
ไมเคิล แจ็คสัน ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2552 ณโรงพยาบาล UCLA hospital (Ronald Reagan UCLA Medical Center) เวลาประมาณ บ่าย4โมง36นาที ตามเวลาท้องถิ่น และเวลาประมาณ ตี4ในประเทศไทย รวมอายุได้ 50 ปี ในขณะนั้น
เรื่องราวของเขานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราต้องนำจุดที่ดีของเขามาปรับใช้ในสังคมการกล้าแสดงออก การฝึกฝนในการร้องเพลงที่ดี และในสิ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีเราก็ควรตั้งไว้เป็นวิทยาทานเป็นตัวอย่าง ให้เยาวชนที่เห็นเขาเป็นต้นแบบหรือไอดอล ให้จดจำสิ่งที่เขาได้ทำไว้ในด้านที่ดีครับผม
อ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. ไมเคิล แจ็กสัน. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2558 , จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ไมเคิล_แจ๊กสัน
Hunsa fanclub . Michael Jackson แฟนคลับ ข้อมูล ประวัติ. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2558 , จาก : http://fanclub.hunsa.com/star/Michael_Jackson
MThai Men. ไมเคิล แจ็คสัน . สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2558 , จาก : http://men.mthai.com/infocus/33012.html
เมื่อพูดถึง ราชาเพลงป็อป หรือ " King of Pop " ต้องนึกถึง ไมเคิล แจ็กสัน ที่มีท่าเต้น "มูน วอล์ค" และ "ลูบเป้า" อันเป็นเอกลักษณ์สร้างชื่อของเขา ไมเคิล ได้เดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตทั่วโลก รวมทั้งที่ประเทศไทยด้วย โดยเป็นที่รู้จักของคนไทยส่วนหนึ่งขึ้นมาจากมีชื่อถูกอ้างถึงในเพลง ทับหลัง ของคาราบาว ในปี พ.ศ. 2531 ที่มีเนื้อร้องในท่อนแยกว่า “เอาไมเคิล แจ็กสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา” ซึ่งเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมจากกระแสเรียกร้องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสหรัฐอเมริกา
ไมเคิล แจ็คสัน (อังกฤษ: Michael Jackson) มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน (Michael Joseph Jackson) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เอ็มเจ (MJ) หรือแจ็คโก้ (Jacko) เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2501 เป็นนักร้องชาวอเมริกัน เป็นบุตรชายครอบครัวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน บิดาชื่อโจเซฟ วอลเตอร์ "โจ" แจ็กสัน และมารดาชื่อแคเทอรีน เอสเตอร์ (สกุลเดิม สคริวส์) เขาเป็นลูกคนที่ 7 มีพี่น้องจำนวน 9 คน โดยมีพี่น้องคือ รีบี แจ็กกี ติโต เจอร์เมน ลา โทยา มาร์ลอน แรนดี และเจเน็ต พ่อของพวกเขาโจเซฟเป็นลูกจ้างโรงงานเหล็กที่แสดงในวงอาร์แอนด์บีที่ชื่อ "เดอะฟอลคอนส์" กับพี่ชายเขา ลูเธอร์ แจ็กสันโตมากับความเชื่อ "พยานพระยะโฮวา" จากแม่ของเขา
ไมเคิลแจ็คสันปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเดอะแจ็คสันไฟฟ์ ในปี 1969 เดอะแจ็คสันไฟฟ์ บันทึกเพลงหลายเพลง รวมถึงเพลง "Big Boy" ภายใต้สังกัดท้องถิ่นที่ชื่อสตีลทาวน์ (ปี 1967) และได้เซ็นสัญญากับค่ายโมทาวน์ในปี 1968 นิตยสารโรลลิงสโตน อธิบายถึงแจ็กสันตอนเด็กไว้ว่า "เป็นเด็กอัจฉริยะ" กับ "พรสวรรค์ทางด้านดนตรีอย่างเต็มเปี่ยม" และยังพูดว่าแจ็กสัน "เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วที่เป็นตัวหลักในฐานะนักร้องนำ" หลังจากที่เขาเริ่มเต้นและร้องเพลงกับพี่ ๆ ของเขา วงสร้างสถิติบนอันดับเพลงโดยการมี 4 ซิงเกิ้ลแรก ("I Want You Back", "ABC", "The Love You Save" และ "I'll Be There") ขึ้นสูงสุดอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮ็อต 100 อีกด้วย
เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ในปี 1982 มีผลงานอัลบั้มที่ชื่อ Thriller ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลและสี่อัลบั้มเดี่ยวที่เหลือก็ยังถือว่าเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอัลบั้มหนึ่ง อันประกอบด้วยชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HiStory (1995)
ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขาเริ่มมีผลงานที่โดดเด่นในวงการเพลงป็อป และถือเป็นชาวแอฟริกัน- อเมริกัน คนแรกที่มีแฟนเพลงมากมายผ่านทางช่องเอ็มทีวี ความนิยมของเขามาจากการออกอากาศมิวสิกวิดีโอทางช่องเอ็มทีวี อย่างเช่นเพลง "Beat It", "Billie Jean" และ "Thriller" เพลงนี้ได้รับเอ่ยถึงว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของศิลปะ มิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่องที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น วิดีโอเพลง "Black or White" และ "Scream" ก็ยังคงเปิดบ่อยทางช่องเอ็มทีวีในคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วย ลีลาบนเวทีของแจ็กสันและมิวสิกวิดีโอ แจ็กสัน สร้างความโด่งดังกับท่าเต้นซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลาย ๆ ท่า อย่างเช่นท่าเต้น "หุ่นยนต์" และท่าเต้น "มูน วอล์ค" ส่วนเอกลักษณ์ด้านดนตรีและเสียงร้องของเขายังเป็นอิทธิพลให้กับศิลปินแนวฮิปฮอป ป็อป และอาร์แอนด์บี ให้อีกหลายคน อิทธิพลเพลงของเขามีแพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่น
เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่ออยู่ใน ร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม ถึงสองครั้ง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จได้รับสถิติหลายครั้งจากกินเนสบุ๊ค รวมถึงในหัวข้อ เป็นหนึ่งใน "ศิลปินบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล" เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ 13 ครั้ง มี 13 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะนักร้องเดี่ยว และมียอดขายรวมกว่า 750 ล้านชุดทั่วโลก เขาถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรม เพลงป็อปมากว่า 4 ทศวรรษ
จากนั้นหลายๆคนคงสงสัยเรื่องสีผิวทีเปลี่ยนไปของเขา ซึ่งมีเพลง Black or White ในปี 1991 เนื้อหา (ที่แท้จริง) ของเพลงนี้เกี่ยวกับความรัก ความสมานฉันท์ของคนที่ไม่ว่าสีผิวไหนก็รักกันได้ ซึ่งชื่อเพลงดันไปคล้องกับจุดสนใจเรื่องสีผิวของ ไมเคิล แจ็คสัน พอดิบพอดี
เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Oprah Winfrey เจ้าแม่ทอล์กโชว์เมื่อ 1993 ว่าผมไม่ได้ฟอกสีผิว มีคนบอกว่าผมเกลียดสิ่งที่ผมเป็น ซึ่งมันไม่ใช่ ผมไม่คิดว่ามีการฟอกสีผิวในโลกนี้ได้ ผมเป็นโรคผิวหนังที่เรียกว่า Vitiligo ต่างหากซึ่งในการสนทนา Oprah บอกว่า ฉันได้ยินว่ามีครีมฟอกผิวนะ แต่ไมเคิล คุณคงอาบครีมนี้มากกว่า 3000 แกลลอนแน่ๆ
ต่อมาไมเคิล แจ็คสันก็ได้รับรางวัล "ตำนานที่ยังคงอยู่" ในงานแจกรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 35 ในลอสแอนเจลิส เพลง "Black or White" ถูกเสนอชื่อรางวัลแกรมมี่ในสาขาร้องยอดเยี่ยม ส่วนเพลง "Jam" ถูกเสนอเข้าชิง 2 รางวัลในสาขาแสดงเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมและเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมอีกด้วย
จากความสำเร็จของเขาทำให้ได้รับฉายา "King of Pop" หรือ ราชาเพลงป็อป จากนักแสดงหญิงที่ตั้งชื่อให้เขาคือเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ เธอยังเชิญรางวัล "ศิลปินแห่งทศวรรษ" ให้กับเขาในปี 1989 โดยพูดว่า "ราชาแห่งป็อป ร็อกและโซลตัวจริง" ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ยังเชิญรางวัล "ศิลปินแห่งทศวรรษ" ให้เขาเป็นพิเศษที่ทำเนียบขาว เพื่อเป็นการสดุดีให้กับอิทธิพลทางด้านดนตรีตลอดคริสต์ทศวรรษ 1980 จากปี 1985 ถึง 1990 แจ็กสันบริจาคเงิน 500,000 เหรียญสหรัฐให้กับ United Negro College Fund และผลกำไรจากซิงเกิ้ล "Man in the Mirror" ทั้งหมดก็เข้าการกุศล
จากนั้นไมเคิล แจ็คสันก็มีมีข่าวอื้อฉาว กรณีล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กครั้งแรก และแจ็กสันให้บทสัมภาษณ์ในรายการยาว 90 นาทีของโอปราห์ วินฟรีย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 ถือเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งที่ 2 ของเขาตั้งแต่ปี 1979 เขาทำหน้าบูดบึ้งขณะพูดถึงชีวิตที่ถูกทารุณด้วยน้ำมือพ่อของเขาในวัยเด็ก เขาเชื่อว่าเขาพลาดความสนุกสนานในชีวิตวัยเด็ก และยอมรับว่าเขามักจะร้องไห้เมื่อโดดเดี่ยว เขาปฏิเสธข่าวลือจากแท็ปลอยด์ที่ว่าเขาซื้อกระดูกมนุษย์ช้างหรือนอนในตู้ออกซิเจน เขาปฏิเสธข่าวที่เขาฟอกสีผิว และยังพูดครั้งแรกว่าเขาเป็นโรคด่างขาว การสัมภาษณ์ครั้งนี้มีผู้ชมอเมริกันถึง 90 ล้านคน ถือเป็นรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ที่ไม่ใช่รายการประเภทกีฬา ในประวัติศาสตร์อเมริกา และถือเป็นการให้ความรู้เรื่องโรคด่างขาวที่ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไหร่ อัลบั้ม เดนเจอรัส กลับมาเข้าชาร์ทท็อป 10 อีกครั้ง หลังจากที่ออกขายมากกว่า 1 ปี
แจ็กสันถูกฟ้องร้องจากเรื่องละเมิดทางเพศจากเด็กชายอายุ 13 ปีที่ชื่อ จอร์แดน แชนด์เลอร์และพ่อของเขา อีแวน แชนด์เลอร์ อาชีพทันตแพทย์ หลังตรวจสอบและมีเด็กหลายคนรวมถึงครอบครัวต่างปฏิเสธว่าแจ็กสันไม่ใช่เป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก
ไมเคิล แจ็คสัน ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2552 ณโรงพยาบาล UCLA hospital (Ronald Reagan UCLA Medical Center) เวลาประมาณ บ่าย4โมง36นาที ตามเวลาท้องถิ่น และเวลาประมาณ ตี4ในประเทศไทย รวมอายุได้ 50 ปี ในขณะนั้น
เรื่องราวของเขานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราต้องนำจุดที่ดีของเขามาปรับใช้ในสังคมการกล้าแสดงออก การฝึกฝนในการร้องเพลงที่ดี และในสิ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีเราก็ควรตั้งไว้เป็นวิทยาทานเป็นตัวอย่าง ให้เยาวชนที่เห็นเขาเป็นต้นแบบหรือไอดอล ให้จดจำสิ่งที่เขาได้ทำไว้ในด้านที่ดีครับผม
อ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. ไมเคิล แจ็กสัน. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2558 , จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ไมเคิล_แจ๊กสัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น