มหากาพย์อีเลียดและโอดีสซีย์

โดย ไอรยา เกื้อหนองขุ่น

มหากาพย์อีเลียดและมหากาพย์โอดีสซีย์ ทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของกวีที่ชื่อว่า โฮเมอร์  ประพันธ์ขึ้นในราว 800 ปีก่อนคริสตกาล มหากาพย์อีเลียดเป็นเรื่องราวของสงครามระหว่างชาวกรีกกับชาวเมืองทรอย เป็นระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี ผลจบลงโดยชาวกรีกเป็นฝ่ายชนะ โดยอาศัยกลศึกม้าไม้ และมหากาพย์โอดีสซีย์ เป็นเรื่องราวต่อจากมหากาพย์อีเลียด  เป็นผจญภัยของ ยูลิซิส ซึ่งเดินทางกลับบ้านทางทะเลภายหลังจากกรุงทรอยพินาศ


มหากาพย์อีเลียด

เอริส เทพีแห่งการทะเลาะวิวาท โกรธแค้นที่ไม่ได้รับเชิญไปร่วมงานอภิเษกสมรสระหว่างเทพีเธทิสและกษัตริย์เพลีอุสแห่งพาเธีย ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในสรวงสวรรค์ นางแอบเอาแอ๊ปเปิ้ลทองคำไปวางไว้หน้างาน ซึ่งจารึกข้อความว่า แด่ผู้ที่สวยที่สุดในสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เทพีที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุด 3 องค์ ได้แก่ เทพีเฮรา เทพีอเธน่า และเทพีอะโฟไดท์  ต่างก็แย่งกันเป็นเจ้าของแอ๊ปเปิ้ลลูกนั้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถตัดสินได้ แม้แต่ซุสผู้เป็นราชาแห่งทวยเทพ จึงให้มนุษย์เป็นผู้ตัดสินใจแทน ซึ่งก็คือ เจ้าชายปารีส โอรสองค์เล็กของพระเจ้าเปรียมแห่งกรุงทรอย เฮราให้สัญญาว่าหากปารีสเลือกนาง นางจะบัลดาลให้มีอำนาจเกรียงไกรและมั่งคั่งมหาศาลที่สุดในโลก ในขณะที่เอเธน่ารับปากจะให้เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดที่สุดในโลก แต่อะโฟไดท์ ติดสินบนด้วยการจะให้ได้หญิงที่สวยที่สุดมาครอบครอง

ซึ่งชายหนุ่มอย่างปารีสย่อมยินดีในของรางวัลจากอะโฟไดท์มากกว่าความมั่งคั่งร่ำรวยหรือความรอบรู้ ปารีสจึงตัดสินให้เทพีอะโฟไดท์ได้ครอบครองผลแอ๊ปเปิ้ลทองคำเพราะเขาอยากครองคู่กับเฮเลน สตรีที่งดงามที่สุดบนโลกมนุษย์ และในต่อมาปารีสได้พบกับเฮเลนชายาของกษัตริย์เมเนลาอุสแห่งสปาร์ตา สตรีที่เขาหมายปองเทพีอะโฟไดท์ได้ทำตามสัญญานั้น และทำให้เฮเลนตกหลุมรักปารีสในทันใด จึงตัดสินใจหนีตามปารีสกลับเมืองทรอย เป็นเหตุให้กษัตริย์เมเน ลาอุส กษัตริย์อกาเมมนอนและเจ้าชายทุกเมืองแห่งกรีก ได้รวบรวมกำลังพลและพันธมิตรเข้าทำสงครามกับเมืองทรอยเพื่อชิงตัวนางเฮเลนกลับคืน อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้สงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างกรีกและทรอยเกิดขึ้น

สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อชาวกรีกได้จับตัวนางไครเซอีส ลูกสาวของไครลีสเจ้าพิธีของอพอลโลมาแล้ว และยกนางให้เป็นรางวัลแก่อักกะเมมนอน เทพอพอลโลจึงทำให้เกิดโรคระบาดในกองทัพกรีก เพื่อบีบบังคับให้อักกะเมมนอนคืนตัวนางไครเซอีสให้แก่เขา อักกะเมมนอนจึงไปบังคับเอาตัวนางไบรเซอีสมาแทน ซึ่งนางไบรเซอีสเป็นทาสชาวเอเคียนที่ยกให้เป็นรางวัลแก่อคิลลีสนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค อคิลลีสจึงได้ถอนตัวออกจากการรบ ฝ่ายเมื่องทรอยมีเจ้าชายเฮกเตอร์ ลูกชายของท้าวเพรียม เป็นแม่ทัพนำศึกป้องกันเมืองและปกป้องครอบครัวของตนเอง เมื่ออคิลลีสไม่ได้รบด้วย เฮกเตอร์จึงสามารถเอาชนะกองทัพกรีกได้ นักรบกรีกที่เหลืออยู่รวมถึงโอดิซูสและดิโอมีดีสต่างได้รับบาดเจ็บ ปวงเทพต่างเข้าข้างเมืองทรอย ปโตรกลัสได้ปลอมตัวเป็นอคิลลีสโดยนำเสื้อเกราะของเขามาสวม และได้นำทัพชาวเมอร์มิดอนกลับเข้าร่วมรบเพื่อช่วยป้องกันเรือของพวกกรีกไม่ให้โดนเผาทำลาย ต่อมาปโตรกลัสได้ถูกเฮกเตอร์ฆ่า อคิลลีสจึงกลับเข้าร่วมรบเพื่อที่จะแก้แค้นให้ปโตรกลัส เขาประลองตัวต่อตัวกับเฮกเตอร์และฆ่าเฮกเตอร์ได้สำเร็จ แล้วเอาร่างของเฮกเตอร์กลับไปค่ายด้วย เท้าเพรียมซึ่งเป็นพ่อของเฮกเตอร์ ได้ลอบเข้าค่ายทัพกรีกเพื่อไถ่ร่างของลูกชายคืน อคิลลิสเกิดความสงสารจึงคืนร่างของเฮกเตอร์ให้แก่เขา และก็ได้จบลงที่การทำพิธีศพของเฮกเตอร์

การเสียชีวิตของวีรบุรุษแต่ละคนนั้นส่งผลให้สงครามรุนแรงหนักยิ่งขึ้น ทัพทั้งสองฝ่ายต่างเข้าแย่งชิงเสื้อเกราะอาวุธ และแก้แค้นต่อผู้ที่ฆ่าคนของฝ่ายตนเอง นักรบที่รอดชีวิตมาจากฝีมือขับรถของสารถี หรือด้วยการช่วยเหลือของเหล่าเทพ มหากาพย์อีเลียดเป็นสงครามที่โหดเหี้ยมและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด


มหากาพย์โอดีสซีย์

นักรบกรีกที่รอดชีวิตจากสงครามโทรจัน ต่างพากันเดินทางกลับบ้าน ยกเว้นโอดิสซีอุสที่ถูกเทพเจ้าโพเซดอนกักขังไว้เพราะบังอาจติเตียนเจ้าสมุทร โอดิสซีอุสต้องไปเฝ้าจอมเทพซีอุสที่เขาโอลิมปัส ขอให้เขาช่วยให้ได้กลับบ้านที่อิตากา ขณะเดียวกันนั้นเทวีอเธนาได้เดินทางไปพบลูกชายของโอดิสซีอุส คือ เทเลมาชัสที่อิตากา นางได้บอกเรื่องที่พ่อของเขายังไม่ตายให้เขาไปพบพ่อให้ได้ เทเลมาชัสกับลูกเรือจึงออกเดินทางทางเรือไปถึงเมืองไพลอส เขาได้เข้าเฝ้ากษัตริย์เนสเตอร์และถามเรื่องพ่อของเขา เนสเตอร์ได้บอกให้เขาเดินทางไปลาซิเดมอนเพื่อสอบถามจากกษัตริย์แห่งสปาร์ตาคือเมเนลอส และพระนางเฮเลนผู้เป็นต้นเหตุแห่งสงครามกรุงทรอย ซึ่งในที่สุดเทเลมาซัสก็รู้ว่าพ่อของตนตกอยู่ในเงื้อมมือของธิดาแห่งทะเลชื่อกาลิปโซ ที่เกาะโอจิเจียในทะเลเมดิเตอร์เนียน

ฝ่ายซีอุสได้รู้ว่าโอดิสซีอุสถูกจับจึงได้ส่งเฮอร์มีสไปที่โอจิเจีย บังคับให้ธิดาทะเลปล่อยโอดิสซีอุส โอดิสซีอุสจึงรีบต่อเรือเสร็จใน4วันและแล่นออกจากเกาะไป ฝ่ายโพซิดอนที่ยังไม่หายโกรธแค้นโอดิสซีอุสจึงได้ทำให้เกิดลมพายุพัดเรือแตก สายน้ำพัดพาโอดิสซีอุสไปติดที่ชายฝั่งทะเลเฟเซียน ลูกสาวของกษัตริย์อัลซิโนสคือนางนอสิกาได้พบโอดิสซีอุสที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ทั้งสองนางตกใจแต่สุดท้ายก็ได้ช่วยเหลือโอดิสซีอุส ให้สวมเสื้อผ้าให้ดื่มน้ำและรับประทานอาหารและพาไปพบพ่อของนางและสัญญาว่าจะส่งโอดิสซีอุสกลับบ้านเมืองโดยที่ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ในงานเลี้ยงมีการร้องเพลง พูดถึงสงครามโทรจันและความทุกข์ยากในการเดินทางกลับกรีซ

อัลซิโนสสังเกตว่าโอดิสซีอุสร้องไห้ระหว่างที่ฟังเพลงนั้น เพื่อให้หายสงสัยเมื่อเพลงจบลง กษัตริย์จึงได้จัดให้มีการเล่นเกมส์ โอดิสซีอุสได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ด้วยพละกำลังของเขาทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร โอดิสซีอุสจึงได้เล่าเรื่องของเขาให้ทุกคนฟังว่า เมื่อเดินทางออกจากกรุงทรอยนั้น เรือของเขาได้ลอยตามกระแสลมถึงเมืองอิสมารัสและต่อไปถึงเมืองกินบัวที่ทำให้คนของเขาที่มาด้วย เกิดความเกียจคร้านเขาจึงได้พยายามแก้ไขจนเดินทางต่อไปถึงดินแดนของไซคลอป อสุรกายตาเดียวได้จับคนของเขากินทีละคนส่วนโอดิสซีอุสนั้นเจ้ายักษ์เก็บไว้กินคนสุดท้าย เขาจึงมอมเหล้าเจ้ายักษ์ เอาเสาทิ่มตาจนตาบอดและหนีกลับไปลงเรือได้

ฝ่ายโอดิสซีอุสแล่นเรือไปถึงเอโอเลียที่อยู่ของเอโอลัส คือ เทพเจ้าแห่งลม พระองค์ได้ให้ถุงลมแก่เขา แต่ลูกเรือคิดว่าเป็นถุงสมบัติจึงเปิดถุงปล่อยให้ลมพัดออกไปหมด ลมพัดพาเรือไปถึงดินแดนเลสติโกเนียน มนุษย์ครึ่งคนครึ่งยักษ์ก็จับเอาลูกเรือไปกิน ส่วนที่เหลือต้องพากันรีบแล่นเรือหนีมาถึงเอเอียดินแดนของนักร้องเซอร์ชีได้สาปให้ลูกเรือกลายเป็นหมู แต่ด้วยโมลีที่เฮอร์มิสให้มาสามารถบังคับให้เซอร์ชีถอนคำสาปและกลับมาเป็นคนตามเดิม โอดิสซีอุสแล่นเรือต่อไปถึงเกาะไซเรน ผู้มีเสียงหวานดึงดูดให้ชายหลงเข้าไปสู่ความตายที่โขดหินมรณะ โอดิสซีอุสจึงเอาขี้ผึ้งอุดหูลูกเรือไว้และผูกตัวติดเสากระโดงเรือทำให้ออกมาจากเกาะนั้นอย่างปลอดภัย จนมาถึงช่องแคบในทะเลที่มีสัตว์ร้ายดูแลอยู่คือ สกิลากับชาริบดีสมนุษย์หกหัว สกิลาได้จับลูกเรือ 6 คน แต่เรือก็สามาถแล่นผ่านช่องแคบไปได้ และมาถึงเกาะสุริยเทพ ลูกเรือผู้หิวโหยได้แอบไปฆ่าวัวศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ฟังคำเตือนของโอดิสซีอุส สุริยเทพจึงทำให้เรือแตกต้องผจญกับวังน้ำวนคาริบดีส ซึ่งดูดทุกอย่างลูกเรือจมหายหมดเหลือแต่โอดิสซีอุสที่ลอยตัวตามกระแสคลื่นมาเกยฝั่งเกาะโอจิเจีย

เขาได้พบกับนางไม้อีกคนชื่อ คาลิปโซ่ นางอาศัยอยู่ในเกาะแห่งความฝัน เขาหลงรักโอดิสซีอุสจนจับเขามัดด้วยเล่ห์ เสน่หา อยู่กับนางถึง7ปี และหากเขาตกลงจะอยู่กับเทพธิดานี้ตลอดไป โอดิสซีอุสก็จะได้รับชีวิตนิรันดร์ มีความสุขบนเกาะแห่งความฝันแต่โอดิสซีอุสไม่ยอมตกลง เทวดาลงมาช่วยเจรจาให้นางปล่อยโอดิสซีอุสไปหาลูกเมีย คาลิปโซ่จึงปล่อยให้ไปพบกับชาวเฟอีเซียส์ซึ่งต่อเรือเก่งที่สุดในโลก และเขาก็ได้กลับนครอิธาคาของเขา ส่วนคาลิโซ่ก็ตายหลังจากที่โอดีสซีอุสออกจากเกาะไปไม่นาน

เมื่อมาถึงนครธิอาคาแล้วโอดิสซีอุสนำสมบัติที่ได้ทั้งหมดไปซ่อนไว้ในถ้ำ เทวีอธีนาแปลงให้โอดิสซีอุสเป็นชายแก่เดินทางไปลาซิโดมอนเพื่อรอการกลับมาของลูกชายที่เดินทางไปเฝ้าเมเนลอสกับพระนางเฮเลน ระหว่างนั้นโอดิสซีอุสก็ไปที่กระท่อมของคนรับใช้เก่าคือยูเมอุส ได้เล่าให้โอดิสซีอุสฟังว่า บรรดาผู้ดูแลทรัพย์สินได้ใช้จ่ายเงินทองอย่างฟุ่มเฟือยจนแทบจะไม่เหลือ เมื่อลูกของเขากลับมาถึงทั้งสองพ่อลูกก็ได้พบกัน ยูเมอุสและโอดิสซีอุสได้แปลงตัวเป็นคนขอทานไปยังบ้านของโอดิสซีอุส ทั้งสองถูกพวกผู้ดูแลขับไล่และด่าว่าอย่างรุนแรงแถมแอนติโนสยังเหวี่ยงม้านั่งมาโดนไหล่ของโอดิสซีอุสอีกด้วย โอดิสซีอุสสั่งให้ลูกของเขาเก็บอาวุธทั้งหมด กักผู้หญิงรับใช้ไปที่มุมหนึ่ง เพเนโลปจำเค้าหน้าของโอดิสซีอุสได้ แต่โอดิสซีอุสไม่ยอมรับว่าเขาเป็นใคร คงมีแต่นางยูริแคลอดีตนางกำนัลในวังที่จำนายเก่าได้ ขณะที่ล้างเท้าให้ขอทาน เพราะเห็นรอยแผลเป็นเหนือเข่าแต่เธอไม่บอกใคร

ฝ่ายเพเนโลปวางแผนหาคนที่แข็งแรงเพื่อมาช่วยเธอจากพวกคนดูแล เธอประกาศใช้คนธนูและขวาน 12 ด้ามของยูริตัสมาใช้ในการแข่งขัน เธอบอกกับพวกดูแลว่าเธอยินดีแต่งงานกับคนที่สามารถยิงธนูทะลุขวาน 12 ด้ามได้ เทมาชัสจึงเข้าสนามประลอง แต่เขาทำไม่สำเร็จฝ่ายผู้ดูแลพยายามทีละคนก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดโอดิสซีอุสจึงขอเข้าร่วมการแข่งขัน ปรากกว่าโอดิสซีอุสทำสำเร็จ เขาแปลงร่างกลับเป็นโอดิสซีอุสคนเดิม และยิงพวกผู้ดูแลเริ่มจากแอนติโนสตามด้วยผู้ดูแลคนอื่นๆเกิดการสู้รบกันพักหนึ่ง พวกผู้หญิงที่จงรักภักดีต่อผู้ดูแลถูกจับแขวนคอที่สนามหญ้า ฝ่ายเพเนโลปที่รอผลการประลองอยู่ในห้องได้ออกมาพบสามีของเธอ ทั้งสองได้มีความสุขอยู่ด้วยกันอีกครั้ง หลังที่ต้องจากกันเป็นเวลานาน

โอดิสซีย์ ใช้เวลาเดินทางกลับบ้านนานถึง 10 ปี เขาได้เจอปัญหาและอุปสรรคมากมายกว่าจะเดินทางกลับถึงบ้าน แต่เขาก็ต่อสู้เพื่อจะกลับไปหาคนที่เขารักที่รออยู่บ้าน เรื่องนี้แสดงให้เห็นความซื่อสัตย์ต่อสามีของเพเนโลปที่ไม่หลงระเริงไปกับความหรูหราที่พวกผู้ดูแลประเคนให้ และโอดิสซีย์ วีรบุรุษที่มีความฉลาด มีไหวพริบดี

ม้าไม้ยักษ์แห่งทรอยนั้นมีจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตอบฟันธงลงไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่มีหลักฐานใดที่สามารถชี้ชัดได้ แต่ถ้าเมืองทรอยนั้นมีอยู่จริง เพราะว่ามีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าจะเป็นเมืองทรอย บริเวณที่ชื่อ ฮิซาร์ลิก ในเมืองคานัคเกล ทางตะวันตกของประเทศตุรกี ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วง 1,250 ปีก่อนคริสตกาล โดยเราสามารถเห็นซากกำแพงและหอคอยของเมืองทรอยได้ และปัจจุบันก็มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยอีกด้วย

สงครามกรุงทรอย ระหว่างชาวเมืองทรอยกับชาวกรีก ซึ่งยืดเยื้อยาวนานถึง 10 ปี ผลจบลงด้วยชัยชนะของชาวกรีกโดยอาศัยกลศึกม้าไม้ นอกจากจะเป็นการสู้รบของมนุษย์แล้ว ยังมีเรื่องราวของเทพเจ้าสอดแทรกอยู่ด้วย มหากาพย์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเทพเจ้าได้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และเทพเจ้าสามารถที่จะประทานความสำเร็จหรือความล้มเหลวให้แก่มนุษย์ก็ได้ และการผจญภัยของ ยูลิซิส ซึ่งเดินทางรอนแรมทางทะเลกลับบ้านเกิดเมืองนอนภายหลังจากกรุงทรอยพินาศ ชี้ให้เห็นถึงความรักการผจญภัยของชาวกรีก   มหากาพย์ทั้ง 2 เรื่องนี้ เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ของมนุษย์ ที่มีทั้งความรัก ความโกรธและศักดิ์ศรี

อ้างอิง 

เทพเจ้าราตรี. 2556. มหากาพย์โอดิสซีย์. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=79153.0

มหากาพย์อีเลียด. (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://www.thongkasem.com/news_view.php?newsID=70

Chanapat bourtang. 2555. มหากาพย์อีเลียด. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://gkmyth.blogspot.com/2012/12/blog-post_7269.html

Chanapat bourtang. 2555. มหากาพย์โอดิสซีย์. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://gkmyth.blogspot.com/2012/12/blog-post_8.html

Jansa. 2551. สงครามเมืองทรอย. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233766

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น