ในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (西漢) (ก่อนคริสต์กาล 206 – หลังคริสต์ศักราช 25) เป็นช่วงยุคสมัยต่อจากราชวงศ์ฉิน (秦朝) (ก่อนคริสตกาล 221 – 206) ในช่วงสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกมีขุนพลชาวจีนท่านหนึ่ง มีฝีมือการรบ มีความสามารถในการนำทัพ และนำชัยชนะมาสู่ประเทศจีนในยุคนั้น และที่สำคัญเขามีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เขามีนามว่า หลี่กวง (李廣) และมีเหตุการณ์ที่สำคัญ อย่างเช่น การสู้รบระหว่างชาวซ้งหนู (匈奴) กับชาวฮั่น เป็นต้น
หลี่กวง เกิดที่หลงซีเฉิงจี้ ปัจจุบันคือ มณฑลกานซูเมืองเทียนสุ่ย อำเภอฉินอัน (甘肅省,天水市,秦安縣) มีความสามารถโดดเด่นในทักษะด้านการยิงธนูและเขาได้เข้ารับราชกาลทหารในปีที่ 14 ในรัชกาลของพระเจ้าหลิวเหิง (漢文帝十四年) (ก่อนคริสตกาล 165) ในตำแหน่งนายพลในช่วงชีวิตของเขา ได้สู้รบกับชาวซ้งหนูกว่า 40 ปี และผ่านศึกสงครามน้อยใหญ่กว่า 70 ครั้ง จนศัตรูให้ฉายาเขาว่า ขุนพลเฟย (飛將軍) และด้วยความกล้าหาญเด็ดเดียวของหลี่กวงนั้นจึงได้รับการยกย่องจากศัตรูเป็นอย่างมาก เมื่อศัตรูแค่ได้ยินชื่อ หลี่กวง หรือ ขุนพลเฟย ศัตรูก็เกิดความกลัว และขวัญหนีไม่อยากทำการสู้รบด้วย
ฉายชี่อู่ชวง (才氣無雙) เป็นเหตุการณ์ในตอนที่ 7 ก๊กกำลังระส่ำระส่าย ซึ่งมีขุนนางกล่าวกลับจักรพรรดิหลิวฉี่ (漢景帝) กษัตริย์ฮั่น ว่าหลี่กวงมีฝีมือเป็นอันดับหนึ่ง ไม่มีใครจะสามารถมาเทียบเคียงเขา ทุกครั้งที่หลี่กวงออกรบนั้นเขาสามารถจับเชลยศึกได้มากโดยมือเปล่า ข้าศึกต่างหวาดหลัวการที่ถูก หลี่กวงจับไปเป็นเชลยศึก ชื่อเสียงของหลีกวงดังขจรไปทั่วสารทิศ ไม่มีที่ใดที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงของหลี่กวง
เวลานั้นชาวซ้งหนูได้ยกทัพใหญ่เข้าประชิดชายแดน ขันทีคนสนิทของจักรพรรดิหลิวฉี่ได้ให้ หลี่กวงทำการฝึกทหารเตรียมพร้อมรบกับชาวซ้งหนู ครั้งหนึ่งขันทีคนสนิทของจักรพรรดิได้นำเหล่าทหารม้า 10 กว่านาย ควบม้าอย่างรวดเร็วไปจับทหารซ้งหนู 3 คน และพวกเขาก็ทำการสู้รบกัน ทหารซ้งหนู 3 คนนั้น ได้กลับตัวยิงธนู ทำให้ขันทีนั้นได้รับบาดเจ็บ และทหารม้า 10 กว่านายตายเพราะถูกธนูยิงใส่ ขันทีคนนั้นได้หนีและเข้าไปพบกับหลี่กวง หลี่กวงได้พูดกับขันทีว่า “พวกนั้นเป็นนักแม่นธนู” จากนั้นหลี่กวงจึงนำกองร้อยทหารม้าร้อยนาย จะไปสู้รบกับทหารซ้งหนู 3 คน โดยทหารซ้งหนูนั้นไม่มีม้า พึ่งจะเดินทัพไปประมาณ 10 ลี้ หลี่กวงสั่งการให้กองร้อยทหารม้ากระจายกำลัง แบ่งเป็นทางซ้ายขวาออกเป็น 2 รูปขบวนรบ เพื่อทำการค้นนักแม่นธนูของซ้งหนูทั้ง 3 คนนั้น ในที่สุดทหารซ้งหนูถูกยิงไปตาย 2 คน และอีก 1 คนยังมีชีวิตอยู่ ทหารได้จับทหารซ้งหนูคนนั้นมาเป็นเชลย เชลยผู้นั้นได้ปั่นป่วนกองทหารของหลี่กวงตื่นตระหนกและหวาดกลัว จากนั้นหลี่กวงบอกกองทหารว่าที่ที่เราอยู่นี้มันห่างจากทัพใหญ่กว่า 10 ลี้ ในขณะนั้นทหารซ้งหนูกำลังยกกองทัพเข้าประชิด สถาการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แน่นอนว่าซ้งหนูต้องยกทัพใหญ่เข้าโจมตีแน่นอน หลี่กวงบอกทหารม้าของเขาว่าต้อง “เดินหน้า” ซึ่งกองทัพของซ้งหนูห่างจากกองทหารของหลี่กวงเพียง 2 ลี้เท่านั้น หลี่กวงสั่งให้ทหารลงจากม้ามาเดินเท้า และมีทหารของหลี่กวงคนหนึ่งพูดว่า “กองทัพของศัตรูอยู่ใกล้มาก ถ้าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะทำยังไงกันดี” หลี่กวงจึงตอบว่า “ในขณะที่เราลงเดินเท้านั้น จะทำให้พวกนั้นเข้าใจผิดว่าเรากำลังอยู่ในทัพใหญ่ และพวกนั้นก็จะได้ไม่ทำการเข้าโจมตีเรา” ในขณะมีนายพลชาวซ้งหนูควบม้าเข้าไปปกป้องเหล่าทหารของเขา หลี่กวงจึงนำกำลังทหารม้ากว่า 10 นายเข้าโจมตีและฆ่านายพลชาวซ้งหนูคนนั้น จากนั้นทหารม้าก็กลับเข้ากลุ่มและลงเดินเท้าต่อไป ขณะที่ฟ้าเริ่มมืดทหารซ้องหนูไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม พวกเขาจึงไม่กล้าเดินทัพหรือทำการใดๆ ในช่วงกลางดึก ทหารซ้งหนูเขาใจว่ากองร้อยทหารม้าของหลี่กวงจะต้องเข้าโจมตีเป็นแน่แท้ ทำให้พวกเขไม่กล้าเดินทัพในเวลากลางคืน ฟ้าสางหลี่กวงได้กลับมาสู้ทัพใหญ่ ทั้งที่ๆ กองทัพใหญ่ก็ไม่รู้ว่า หลี่กวงไปไหน และเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นกองทัพใหญ่จึงไม่ได้ส่งทหารไปลาดตระเวน หลี่กวงนั้นได้ช่วยไล่ข้าศึกเป็นกองทัพ ทั้งๆมีทหารเพียงแค่ กองร้อย และที่ไม่ได้เสียทหารแม้แต่คนเดียว
ส่วนยิงหิน (射石搏虎) เห็นว่าเป็นเสือ ขณะที่หลี่กวงเดินอยู่ป่าตอนกลางคืน หลี่กวงได้ยินเสียงเสือ หลี่กวง กวาดสายตามองหาเสือตัวนั้นในพงหญ้าระหว่างซอกหินตรงนั้น หลี่กวงจึงคาดการณ์ว่าตรงซอกหินตรงนั้นต้องเสืออย่างแน่นอน เขาจึงหยิบธนูและลูกธนูหนึ่งลูกยิงไปหินตรงนั้น ด้วยความกลัว เขาต้องการยิงเสือให้ตาย เช้าวันรุ่งขึ้นเขาเห็นว่าลูกธนูได้ทะลุหินออกเป็นเสี่ยงๆ เขาจึงลองยิงซ้ำอีกที แต่ลูกธนูไม่ทะลุหินและลูกธนูนั้นก็หักเป็นเสี่ยงๆ เขาจึงครุ่นคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะสมาธิและความกลัวที่ทำให้เขาได้จดจ่อกับสิ่งนั้นๆทำให้ลูกธนูทะลุหินจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้ เวลาผ่านไปเข้าได้ขึ้นไปพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยิงเสือ เพราะเสือตัวนั้นได้เข้ามาทำร้ายเขา แม้ว่าหลี่กวงจะได้รับบาดเจ็บจากการที่เสือทำร้ายเข้าในครั้งนั้น แต่เขาก็สามารถยิงเสือนั้นตายได้
วีรกรรมมากมายของหลีกวงที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ฮั่นตะวันตก แสดงถึงความเป็นผู้นำ ความกล้าหาญ ความเด็ดเดียว อย่าง 才氣無雙 ( ฉายชี่อู่ชวง ) หรือ 射石搏虎 ยิงหินคิดว่าเป็นเสือ และอื่นๆอีกมากมายตลอดการเข้ารับราชกาลทหารของหลี่กวง เขาได้เสียชีวิตอย่างสงบปีที่ 4 ในรัชกาล พระเจ้าหยวนโซ่ว (元狩四年) (ก่อนคริสกต์กาล 119) คุณงามความดีและวีรกรรมต่างๆ ยังคงถูกยกย่องมาถึงปัจจุบัน ในฐานะนักธนูที่ยิงแม่นที่สุดของประวัติศาสตร์จีน
อ้างอิง
Wikipedia.2015. 李广. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2558, จาก: http://zh.wikipedia.org/wiki/%E6%9D%8E%E5%B9%BF
Baike.2015. 李广. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2558, จาก: http://baike.baidu.com/subview/27015/5000528.htm
Baidu.2015.李广. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2558, จาก: http://www.baike.com/wiki/%E6%9D%8E%E5%B9%BF
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น