เหตุระเบิด ฮิโรชิม่า ค.ศ. 1945

โดย ศรราม ไพศาลพงษ์

สงคราม ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายไว้ว่า การรบใหญ่ที่มีคนจำนวนมากต่อสู้ฆ่าฟันกัน และไม่ว่าจะเป็นสงครามประเภทใดก็ตาม ก็ไม่มีสิ่งที่ดี น่าภูมิใจ หรือน่าชื่นชมเกิดขึ้น ไม่ว่าใครหรือประเทศใดที่จะต้องพบเจอกับสงครามเมื่อเกิดสงครามย่อมต้องมีการสูญเสียในสิ่งต่างๆไม่มากก็น้อย ประเทศญี่ปุ่นก็เช่นกันที่ต้องประสบเหตุการณ์สูญเสียอย่างหนัก จากเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมณู ที่เมืองฮิโรชิม่า ในสงครามโลกครั้งที่สอง

ก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำขั้นหนัก จนก่อความเดือนร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก ในปีค.ศ. 1920  แนวคิดเรื่องการปกครองแบบเผด็จการมีอิทธิพลในเหล่าทหารญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพราะตกอยู่ในสภาวะอับจนทางเศรษฐกิจด้วย เกิดการแยกตัวเป็นอิสระของกองทัพไม่อยู่ในบังคับของรัฐบาล ต่อมา กองทัพญี่ปุ่นก็เข้ายึดแมนจูเรียของจีน โดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ทราบเรื่อง เพราะแบบนั้นถือเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากองทัพไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล


นายพลฮิเดกิ โตโจ

นายทหารคนสำคัญที่ชื่อ นายพลฮิเดกิ โตโจ ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในปี ค.ศ. 1941  และนับตั้งแต่นั้นมาประเทศญี่ปุ่น มีรูปแบบการบริหารจัดการประเทศ แบบเผด็จการเหมือนยุโรป ข้ามมาทางยุโรปเกิดสงครามรุกรานกันในฝั่งยุโรป พร้อมทั้งมีเหตุสถานการณ์ทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ในเอเชียเริ่มตึงเครียด เพราะญี่ปุ่นหาเหตุรุกรานเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน ประธานาธิบดี รูสเวลต์ ทราบเหตุจึงได้ออกกฎหมายห้ามส่งออกสินค้าที่เป็นยุทธ์ปัจจัยพื้นฐานให้ประเทศญี่ปุ่น เพื่อยับยั้งการก่อสงครามของญี่ปุ่น และต่อมาก็ได้อายัดทรัพย์สินของชาวญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดการกระทำเช่นนี้ญี่ปุ่นต้องไม่พอใจอยู่เป็นแน่

เหตุการณ์หนึ่งที่ทูตญี่ปุ่นกำลังดำเนินการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหากับสหรัฐฯอยู่นั้น ได้มีเหตุการณ์อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นซึ่งกองทัพญี่ปุ่นก็ได้บุกเข้าตีฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่เกาะเพิร์ลฮาร์เบอร์ซึ่งเกาะเล็กๆของหมู่เกาะฮาวาย เป็นฐานทัพใหญ่ของสหรัฐฯที่คุมกำลังด้านแปซิฟิก โดยที่สหรัฐฯเองไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ยกกำลังอีกทางหนึ่งเข้าบุกประเทศแถบเอเชีย อาคเนย์ การที่ญี่ปุ่นเข้าโจมตีเกาะเพร์ลฮาร์เบอร์ในครั้งนั้นเอง สหรัฐอเมริกาก็ไม่พอใจเช่นกัน จึงเป็นการดันให้ทั้ง ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ สอง ที่สำคัญก่อนการโจมตีเกาะเพร์ลฮาร์เบอร์ เพียงวันเดียว สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติเงินก้อนใหญ่เพื่อการวิจัยเรื่อง พลังงานนิวเคลียร์ มันคือว่าที่หายนะของเมืองฮิโรชิม่าที่จะเล่าต่อไป



สถานการณ์สงครามโลกเริ่มคลี่คลายไปมากถึงปี ค.ศ. 1944  ปี ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาทำการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ประสบความสำเร็จจึงเตรียมที่จะใช้อาวุธนี้จัดการกับประเทศญี่ปุ่นจึงได้ยื่นคำขาดให้ญี่ปุ่นยอมจำนน แต่ด้วยความเป็นญี่ปุ่นไม่สนใจอะไร ไม่ยอมให้แก่ใครในแบบของญี่ปุ่น และแล้วในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เครื่องบิน บี-29 ของสหรัฐอเมริกาชื่อ "เอนอลาเกย์" ได้สร้างประวัติศาสตร์คือการนำระเบิดชื่อว่า "ลิตเติลบอย"ปรมาณูไปถล่มเมือง ฮิโรชิมา  แรงระเบิดขนาด 15 กิโลตัน หรือเทียบเท่ากับดินระเบิด ทีเอ็นที 15000 ตัน ระเบิดเหนือพื้นดิน 500 เมตร ปล่อยอานุภาพทำลายล้างออกมาทีละขั้น ประกายไฟที่ออกมาจากลูกไฟยักษ์ที่กว้างถึง 300 เมตร ทำให้อุณหภูมิที่อยู่ด้านล่างลูกไฟนั้นสูงถึง 4,000 องศาเซลเซียส รังสีความร้อนหลอมละลายทุกอย่างที่อยู่ในที่โล่งถ้าไม่ระเหยกลายเป็นไอ ก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปภารกิจครั้งนั้นเอาชีวิตคนไปราว 200,000 คน ถึงกระนั้นญี่ปุ่นยังไม่ยอมจำนนสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกที่สองใส่ญี่ปุ่นที่นางาซากิอีกนั้นถึงเป็นการยุติสงครามโดยสิ้นเชิง

ฮิโรชิม่า เป็นเมืองเป้าหมายที่ถูกเลือกเป็นแห่งแรกเนื่องมาจาก 1.เป้าหมายต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ไมล์และเป็นเขตชุมชุนที่สำคัญขนาดใหญ่ เมื่อระเบิดต้องสามารถทำลายล้างและสร้างความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.เป้าหมายมียุทโธปกรณ์และที่ตั้งของทหารต้องได้รับการระบุที่ตั้งแน่นอน เพื่อป้องกันหากการทิ้งระเบิดเกิดข้อผิดพลาด เมื่อมีการเลือกแบบนี้ทำให้ฮิโรชิม่าเหมาะแก่การทิ้งระเบิดเป็นอย่างยิ่ง

สงครามโลกครั้งที่สอง นับเป็นสงครามแห่งการสูญเสีย ของทุกประเทศที่เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งนี้และไม่เข้าร่วมแต่ได้รับความสูญเสียไปด้วย แต่ประวัติศาสตร์ของคนญี่ปุ่นที่พบเจอเหตุการณ์นี้ที่น่ากลัวแบบนี้ ประสบกับการสูญเสียที่ไม่อาจลบเลือน ไม่เพียงแต่เมือง ฮิโรชิม่า ที่เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่มีหลายเมือง แค่เพียงไม่อาจนำมาเทียบเคียงกับเหตุระเบิดของเมือง ฮิโรชิม่า แห่งนี้ได้เท่านั้น


อ้างอิง : 

ฮิโรชิม่า ค.ศ. 1945 . ค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2558 จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Atomic_bombings_of_Hiroshima_and_Nagasaki

รำลึกถึงโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก. ค้นเมื่อ วันที่ 4 มีนาคม 2558 จาก http://www.unigang.com/Article/3286

6 สิงหาคม ย้อนรอยประวัติศาสตร์ เมืองฮิโรชิมา. ค้นเมื่อ วันที่ 4 มีนาคม 2558 จาก
http://www.vcharkarn.com/varticle/44012

ฮิโรชิม่า ค.ศ. 1945 . ค้นเมื่อ วันที่ 4 มีนาคม 2558 จาก
http://www.baanjomyut.com/library/hirochima1945/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น