เหมาเจ๋อตุง

โดย   ณัฐมณ  ขาวกุญชร

ในบรรดาบุคคลสำคัญต่างๆ มากมายในโลก เหมา เจ๋อ ตุง นับเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่หากกล่าวถึงหลายๆ คนคงจะพอทราบดีอยู่แล้วว่าเหมาเป็นทั้งผู้นำให้เกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน กุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเหมายังสถาปนา “สาธารณรัฐประชาชนจีน”



เหมา เจ๋อ ตุง เกิดที่ครอบครัวชาวนาเจ้าของที่ดินในอำเภอเซียงถัน  มณฑลหูเป่ย  เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.1839  เมื่ออายุ 8 ขวบ เข้าเรียนในโรงเรียนประถมในหมู่บ้านร่ำเรียนคำสอนหลักลัทธิขงจื้อ ปลูกฝังความคิดตามจารีตโบราณ แต่ไม่นานก็ต้องออกและต่อมาถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกับหญิงสาวที่อายุมากกว่าคือนางหลัว อีซิ่ว  ด้วยวัยเยาว์ทำให้ไม่ประสากับชีวิตครอบครัว อีกทั้งต้องการก้าวสู่โลกกว้างมากกว่ามีชีวิตปลูกพืช เลี้ยงสัตว์อยู่กับบ้านไปวันๆ ตัดสินใจขัดใจพ่อแล้วเดินทางออกจากบ้านเกิดเข้าตัวอำเภอฉางชา เรียนหนังสือในโรงเรียนตามหลักสูตรรัฐบาล เป็นนักเรียนโข่งร่วมชั้นกับเด็กเล็กๆ ต่อมาสอบเข้าเรียนต่อวิทยาลัยครูหูหนาน จากนั้นมุ่งหน้าเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง เรียนไปทำงานหน้าที่ผู้ช่วยบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยไปด้วยและห้องสมุดนั่นเองที่เป็นคลังความรู้ให้สะสมภูมิปัญญาทั้งแตกฉานทางอักษรศาสตร์ยอดเยี่ยม ว่ากันว่าความรู้ที่ได้จากห้องสมุดมหาวิทยาลัยปักกิ่งคือต้นทุนที่ทำให้เหมาปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีนได้สำเร็จ

เหมาจบการศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครูก่อนจะเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากถูกปราบปรามโดยนายพลเจียงไคเชก เหมาได้ขึ้นมาเป็นประธานของคณะโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ภายใต้การปกครองของเหมาเจ๋อตุงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้ชนะสงครามกลางเมืองจีนและปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ได้ เหมาเจ๋อตุงได้ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เหมาได้นำประเทศเข้าเป็นพันธมิตรกับสหภาพโซเวียต ก่อนจะแยกตัวมาภายหลัง และเหมายังเป็นผู้นำให้เกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม

เหมาได้รับการยกย่องให้รวมประเทศจีนเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง หลังจากตกอยู่ใต้อิทธิพลของต่างชาติตั้งแต่สงครามฝิ่น ในประเทศเขาถูกเรียกว่า ประธานเหมา (Chairman Mao) แต่เขาปกครองประเทศจีน และก็มีป้ายปรากฏคำวิพากษ์วิจารณ์ต่อพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นครั้งสุดท้ายที่เหมาจะขอความคิดเห็นกับประชาชนจีน ไม่ช้าหลังจากนั้นเขาก็กำจัดคนที่ออกมาพูดอย่างอำมหิต คนหลายแสนคนถูกระบุว่าเป็นพลเรือนฝ่ายขวา และถูกไล่ออกจากงานคน หลายหมื่นคนถูกส่งเข้าคุก แต่เหมาไม่สนใจอีกต่อไป เขาแวดล้อมด้วยลูกขุนพลอยพยักและมีอิสระที่จะดำเนินตามความคิด ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะคาดเดาปลายทางได้

เหมารวมพลคนใจเดียวกัน ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน ค.ศ.1921 และปีเดียวกัน เขาเป็นแกนนำหยุดงานประท้วงของคนงานเหมืองแร่ที่อันหยวน เขียนหนังสือ “พลังปฏิวัติเบ่งบานออกมาจากปากกระบอกปืน”แล้วก่อตั้งกองทัพแดงกรรมกรและชาวนา ตามด้วยกองทัพปลดแอกประชาชน ปฏิบัติการ “ป่าล้อมเมือง” จนมีชัยเหนือเจียงไคเชก เหมาเจ๋อตุง กุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เขาสถาปนา “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ดำรงตำแหน่งประธานสาธารณรัฐจนถึง ค.ศ.1969

หลักการของเหมาเจ๋อตุง 

หลักการของเหมาเจ๋อตุงนั้นเน้นการใช้อำนาจเด็ดขาด หรือวิธีการเผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์ เหมาเจ๋อตุงเห็นว่าอำนาจนั้นจะได้มาก็ด้วยการปฏิวัติ ดังคำกล่าวว่า “อำนาจรัฐเกิดจากกระบอกปืน” กล่าวคือ “หลักการของเราคือ พรรคบัญชาปืน จะยอมให้ปืนมาบัญชาพรรคไม่ได้เป็นอันขาด แต่เป็นความจริงที่เมื่อมีปืนแล้ว ก็สามารถสร้างพรรคขึ้นมาได้” เหมาเจ๋อตุงย้ำว่า การปฏิวัติเป็นการต่อสู้โดยไม่ต้องคำนึงหรือนำพาต่อคำคัดค้านใดๆ ทั้งสิ้น

จุดมุ่งหมายของเหมาเจ๋อตุง

1.ในด้านเศรษฐกิจ เหมาเจ๋อตุงเน้นความสำคัญ หรือความทุกข์ร้อนของชาวไร่ ชาวนามากยิ่งกว่าความทุกข์ร้อนของชนชั้นกรรมาชีพ ฉะนั้น เหมาเจ๋อตุงจึงมุ่งการปฏิวัติเพื่อชนบทโดยใช้กลยุทธ “ป่าล้อมเมือง” และใช้ระบบคอมมูน ซึ่งเป็นเขตการเกษตรกรรม อันประกอบด้วยกองผลิตเล็ก และกองผลิตใหญ่

2.เหมาเจ๋อตุงมีความปรารถนาอย่างแน่วแน่ และจริงจัง ในการวางรากฐานของระบบคอมมิวนิสต์ในเอเชีย โดยใช้สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นศูนย์กลาง เพื่อเผยแพร่อิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ให้บรรลุเป้าหมาย ฉะนั้น คอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย ได้ยึดถือแนวความคิดของเหมาเจ๋อตุงเป็นหลักการในการดำเนินการที่เรียกว่า “ลัทธิเหมา” (Maoism) เหมาเจ๋อตุงได้เรียกวิธีการของตนว่า “ประชาธิปไตยแผนใหม่” ซึ่งเน้นความสำคัญในการรวมกลุ่มชาวไร่ ชาวนา กรรมกร ปัญญาชน และนายทุน เข้ามาเป็นแกนกลางของคอมมิวนิสต์ เพื่อสนับสนุนการปฏิวัติ

3.เหมาเจ๋อตุงให้ความสำคัญของการต่อสู้ด้วยการใช้กำลังพลและอาวุธ โดยแสดงออกในรูปของสงครามปลดปล่อย ซึ่งมีทหารป่า และกองโจรติดอาวุธเป็นหัวหอกในการขยายอิทธิพล สำหรับกลยุทธที่ทหารป่า และกองโจรดำเนินการนั้นใช้หลัก “มึงมา ข้ามุด มึงหยุด ข้าแหย่ มึงแย่ ข้าตี มึงหนี ข้าตาม”

เหมา  เจ๋อ ตุง นับเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เป็นบุคคลสำคัญของโลกและเป็นผู้นำที่สำคัญและทำให้สาธารณรัฐประชาชนจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองการปกครองเป็นอย่างมาก เหมาเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีแนวความคิดที่ดีที่อยากจะเห็นประเทศชาติบ้านเมืองของตนดำเนินไปในแนวทางที่ดีแบบที่ควรค่าแก่การเป็นประเทศชาติที่ดี ทุกๆ อย่างในการดำเนินงานด้านต่างๆ ของเหมาเขามักจะนึกถึงผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาเสมอว่าจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนภายใต้การปกครองของตนอย่างไรบ้าง  และนั่นจึงอาจเป็นเหตุผลให้มีประชาชนไม่น้อยที่รักในการปกครองระบบของเหมาเพราะเขามักจะเอาชนะจิตใจของประชาชนนั่นเอง

อ้างอิง

สังคมนิยมและคอมมิวนิสม์. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2559 , จาก http://www.baanjomyut.com/library_2/socialist_and_communist_zionist/04.html

เหมา เจ๋อตง. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2559 , จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2_%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%8B%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%87

เหมาเจ๋อตุง จักรพรรดิแดง. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2559 , จาก http://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php?topic=965.0

กลยุทธ์ 8 ประการของประธานเหมา. สืบค้นเมื่อ 30 พฤษภาคม 2559 , จาก http://www.homeloverthai.com/index.php?option=com_content&task=view&id=1464&Itemid=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น