โดย นิภาวัลย์ แซ่ปึง
ทุกยุคสมัย ทุกๆพื้นที่บนโลก หากมีการอยู่ร่วมกันของกลุ่มชน ซึ่งเป็นบุคคลต่างครอบครัว ต่างถิ่นฐานมาอยู่ร่วมกันบนผืนดินอาณาเขตเดียวกันแล้ว ต่างจำเป็นต้องมีผู้นำซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มชนนั้น แต่ผู้นำจะเป็นบุคคลที่แสนเฉลียวฉลาด สร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเผ่าพันธุ์ตน หรือเป็นบุคคลแสนเลวที่นำพาเผ่าพันธุ์ไปสู่จุดมืดมนนั้นก็แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับ บุคคลในตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินจีน ซึ่งมีนามว่า “จิ๋นซีฮ่องเต้” จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉิน
ฉินอ๋อง(จิ๋นซีฮ่องเต้) ไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับประวัติการประสูติของพระองค์ แต่ได้รับการสันนิษฐานว่าพระองค์ประสูติเมื่อเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม พ.ศ. 283 และสวรรคตเมื่อ กันยายน พ.ศ. 333ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่าพระองค์เป็นบุตรของใคร แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นบุตรของเสนาบดีคนสำคัญของแคว้นฉิน ชื่อ หลี่ปู้เหว่ย กับมารดาที่เป็นนางสนมชื่อ เจ้าจี
ฉินอ๋อง(จิ๋นซีฮ่องเต้) สืบบัลลังก์ตั้งแต่พระองค์อายุเพียง 14 ปี แต่ก็ทรงเป็นอ๋องพระองค์แรกที่สามารถรวบรวมแผ่นดินจีนที่แตกแยกเป็นแว่นแคว้น ต่างภาษา ต่างแนวคิด ต่างขนบธรรมเนียมประเพณีให้สามารถเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และทรงสถาปนาพระองค์เองให้เป็นจักรพรรดิ(ฮ่องเต้- 始皇) องค์แรกของแผ่นดินจีน โดยการรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นในครั้งนี้พระองค์ทรงใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือรวมอำนาจทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง มีความเด็ดขาดและรุนแรงส่งผลให้ต้องเกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก
มาตรการการรวมแผ่นดินของจิ๋นซีฮ่องเต้ อาทิ การใช้กำลังทางทหารในการโจมตีเมืองต่างๆเพื่อรวบรวมให้เป็นประเทศเดียวกัน การเผาตำราและประหารนักปราชญ์ที่คัดค้านการกระทำของพระองค์ เพื่อให้ทุกคนมีแนวคิด แนวปฏิบัติไปในทางเดียวกัน เพราะการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวหากทุกคนมีความคิดที่แตกต่างและมีสิทธิ์การวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเสรี ก็จะเกิดความขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งกันไม่จบสิ้นและจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศจีนมีภาษาจีนและใช้เงินตราแบบเดียวกันจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้พระองค์ยังริเริ่มสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ประเทศจีนเป็นที่ กล่าวขานเลื่องลือและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ กำแพงเมืองจีน หรือ กำแพงหมื่นลี้ (长城 )ซึ่งเป็นการเกณฑ์ชาวบ้านและเชลยศึกไปสร้างกำแพงนี้ เพื่อรักษาอาณาเขตและป้องกันชนเผ่าจากทางเหนือ การก่อสร้างครั้งนี้ได้สูญเสียชีวิตมนุษย์ไปเป็นจำนวนมากและนอกจากนี้ยังทรงสร้างสุสานอันยิ่งใหญ่ ที่เมืองซีอานในปัจจุบันซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยนั้นไว้เป็นปริศนาให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและไขความเป็นจริงต่อไป
แต่ทุกอย่างเมื่อมีจุดเริ่มต้นก็ย่อมมีจุดจบ ความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฉินเองก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกฎนี้ไปได้ หลังจากจิ๋นซีฮ่องเต้สวรรคตเพียง 3 ปี ราชวงศ์ฉินก็เสื่อมลงเพราะความโหดร้ายทารุณและความเป็นเผด็จการของจักรพรรดิจิ๋นซีเอง และกษัตริย์ซึ่งเป็นทายาทของพระองค์ในสมัยต่อมาไร้ความสามารถ รวมทั้งถูกหักหลังจากคนสนิท จึงทำให้เกิดการปฏิวัติของชาวนาภายใต้การนำของ เล่าปัง ที่เรียกว่า “กบฏชาวนา” ขึ้น ดังนั้นความคาดหวังของจักรพรรดิจิ๋นซีที่จะให้ราชวงศ์ฉินมีทายาทเป็นฮ่องเต้สืบทอดราชวงศ์ฉินต่อจากพระองค์ไปอีกเป็นหมื่นรุ่น ก็มิอาจจะเป็นจริงได้.
การรวบรวมแผ่นดินให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การสูญเสียและความอยุติธรรมนั้นคือสิ่งที่มักเกิดขึ้นอยู่เป็นนิจ เพราะก่อนจะเกิดความสมบูรณ์แบบย่อมต้องมีผู้เสียสละเสมอ แต่การเสียสละครั้งนั้นได้มาด้วยความสำเร็จและความยิ่งใหญ่เพียงใดนั้น คือสิ่งที่ จิ๋นซีฮ่องเต้ บุคคลผู้เป็นทั้งทรราชที่ผู้คนสาปแช่งและเป็นบุคคลที่ผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างล้นหลาม ได้สอนให้เราทุกคนได้รู้ว่า การจะลงมือทำงานใหญ่ ต้องใจแข็ง เกิดประโยชน์และไม่สูญเปล่า แม้จะใช้เวลาไม่ถึง 12 ปี แต่ได้วางรากฐานสำคัญให้กับชาวจีนตราบจนปัจจุบัน.
อ้างอิง
นงนุช สมิทธิ์เมธีรักษ์. ประวัติจิ๋นซีฮ่องเต้. (2550). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-4-43957.html
ประวัติของจิ๋นซีฮ่องเต้. (2553). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://board.postjung.com/488928.html
ษณอนงค์ คำแสนหวี. สาระจากเมืองมังกร. (2556). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://www.sana-anong.com/v4/dragon_city_detail.php?id=43&page=4
秦朝. (2558). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%A7%A6%E6%9C%9D
ทุกยุคสมัย ทุกๆพื้นที่บนโลก หากมีการอยู่ร่วมกันของกลุ่มชน ซึ่งเป็นบุคคลต่างครอบครัว ต่างถิ่นฐานมาอยู่ร่วมกันบนผืนดินอาณาเขตเดียวกันแล้ว ต่างจำเป็นต้องมีผู้นำซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มชนนั้น แต่ผู้นำจะเป็นบุคคลที่แสนเฉลียวฉลาด สร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องเผ่าพันธุ์ตน หรือเป็นบุคคลแสนเลวที่นำพาเผ่าพันธุ์ไปสู่จุดมืดมนนั้นก็แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับ บุคคลในตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินจีน ซึ่งมีนามว่า “จิ๋นซีฮ่องเต้” จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉิน
ฉินอ๋อง(จิ๋นซีฮ่องเต้) ไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับประวัติการประสูติของพระองค์ แต่ได้รับการสันนิษฐานว่าพระองค์ประสูติเมื่อเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม พ.ศ. 283 และสวรรคตเมื่อ กันยายน พ.ศ. 333ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่าพระองค์เป็นบุตรของใคร แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นบุตรของเสนาบดีคนสำคัญของแคว้นฉิน ชื่อ หลี่ปู้เหว่ย กับมารดาที่เป็นนางสนมชื่อ เจ้าจี
ฉินอ๋อง(จิ๋นซีฮ่องเต้) สืบบัลลังก์ตั้งแต่พระองค์อายุเพียง 14 ปี แต่ก็ทรงเป็นอ๋องพระองค์แรกที่สามารถรวบรวมแผ่นดินจีนที่แตกแยกเป็นแว่นแคว้น ต่างภาษา ต่างแนวคิด ต่างขนบธรรมเนียมประเพณีให้สามารถเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และทรงสถาปนาพระองค์เองให้เป็นจักรพรรดิ(ฮ่องเต้- 始皇) องค์แรกของแผ่นดินจีน โดยการรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นในครั้งนี้พระองค์ทรงใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ คือรวมอำนาจทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง มีความเด็ดขาดและรุนแรงส่งผลให้ต้องเกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้พระองค์ยังริเริ่มสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ประเทศจีนเป็นที่ กล่าวขานเลื่องลือและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ กำแพงเมืองจีน หรือ กำแพงหมื่นลี้ (长城 )ซึ่งเป็นการเกณฑ์ชาวบ้านและเชลยศึกไปสร้างกำแพงนี้ เพื่อรักษาอาณาเขตและป้องกันชนเผ่าจากทางเหนือ การก่อสร้างครั้งนี้ได้สูญเสียชีวิตมนุษย์ไปเป็นจำนวนมากและนอกจากนี้ยังทรงสร้างสุสานอันยิ่งใหญ่ ที่เมืองซีอานในปัจจุบันซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยนั้นไว้เป็นปริศนาให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและไขความเป็นจริงต่อไป
แต่ทุกอย่างเมื่อมีจุดเริ่มต้นก็ย่อมมีจุดจบ ความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฉินเองก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกฎนี้ไปได้ หลังจากจิ๋นซีฮ่องเต้สวรรคตเพียง 3 ปี ราชวงศ์ฉินก็เสื่อมลงเพราะความโหดร้ายทารุณและความเป็นเผด็จการของจักรพรรดิจิ๋นซีเอง และกษัตริย์ซึ่งเป็นทายาทของพระองค์ในสมัยต่อมาไร้ความสามารถ รวมทั้งถูกหักหลังจากคนสนิท จึงทำให้เกิดการปฏิวัติของชาวนาภายใต้การนำของ เล่าปัง ที่เรียกว่า “กบฏชาวนา” ขึ้น ดังนั้นความคาดหวังของจักรพรรดิจิ๋นซีที่จะให้ราชวงศ์ฉินมีทายาทเป็นฮ่องเต้สืบทอดราชวงศ์ฉินต่อจากพระองค์ไปอีกเป็นหมื่นรุ่น ก็มิอาจจะเป็นจริงได้.
การรวบรวมแผ่นดินให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การสูญเสียและความอยุติธรรมนั้นคือสิ่งที่มักเกิดขึ้นอยู่เป็นนิจ เพราะก่อนจะเกิดความสมบูรณ์แบบย่อมต้องมีผู้เสียสละเสมอ แต่การเสียสละครั้งนั้นได้มาด้วยความสำเร็จและความยิ่งใหญ่เพียงใดนั้น คือสิ่งที่ จิ๋นซีฮ่องเต้ บุคคลผู้เป็นทั้งทรราชที่ผู้คนสาปแช่งและเป็นบุคคลที่ผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างล้นหลาม ได้สอนให้เราทุกคนได้รู้ว่า การจะลงมือทำงานใหญ่ ต้องใจแข็ง เกิดประโยชน์และไม่สูญเปล่า แม้จะใช้เวลาไม่ถึง 12 ปี แต่ได้วางรากฐานสำคัญให้กับชาวจีนตราบจนปัจจุบัน.
อ้างอิง
นงนุช สมิทธิ์เมธีรักษ์. ประวัติจิ๋นซีฮ่องเต้. (2550). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-4-43957.html
ประวัติของจิ๋นซีฮ่องเต้. (2553). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://board.postjung.com/488928.html
ษณอนงค์ คำแสนหวี. สาระจากเมืองมังกร. (2556). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : http://www.sana-anong.com/v4/dragon_city_detail.php?id=43&page=4
秦朝. (2558). สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2558, จาก : https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%A7%A6%E6%9C%9D
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น