พระราชวังต้องห้าม (Gu Gong or Imperial palace or Forbidden City)

โดย ธนัชพร พันธุ์เสือ

ประเทศจีนเป็นประเทศที่กว้างใหญ่มากมีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้แวะไปเยี่ยมชมตั้งมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเชิงศิลปวัฒนธรรมและเชิงประวัติศาสตร์ วันนี้ดิฉันมีสถานที่แห่งหนึ่งมาแนะนำ พระราชวังต้องห้าม ณ กรุงปักกิ่ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวที่ประเทศจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก



พระราชวังต้องห้าม (Gu Gong or Imperial palace or Forbidden City) เป็นที่รู้จักในหลากหลายชื่อในภาษาจีนนั้น ชาวจีนจะเรียกพระราชวังต้องห้ามว่า กู้กง (故宫:Gùgōng) ที่แปลว่า พระราชวังเก่า นอกจากนี้คำนี้ยังใช้เรียกพระราชวังเก่าตามเมืองต่างๆในประเทศจีนด้วย ส่วนคำที่เรารู้จักกันดีว่า "พระราชวังต้องห้าม" นั้นแปลมาจากภาษาจีน จื่อจิ้นเฉิง ( 紫禁城; Zǐjìn Chéng) แปลตามตัวอักษรได้ว่า "เมืองต้องห้ามสีเลือดหมู" ด้วยเหตุที่ว่า ห้ามสามัญชนเข้าไปในบริเวณวังหลวงโดยเด็ดขาด แม้ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาต เป็นกรณีพิเศษ และสีเลือดหมูนั้นเป็นสีอาคารและหลังคาโดยทั่วไป

พระราชวังต้องห้ามอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 450 ไร่ พระราชวังต้องห้ามมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากเหนือไปใต้กว้าง 961 เมตร และจากตะวันตกไปตะวันออกกว้าง 753 เมตร มีกำแพงวังล้อมรอบทั้งหมด มีประตูวังทั้งสี่ทิศ มีตำหนักน้อยใหญ่ประมาณ 9,000 กว่าห้อง


ที่มา: http://belleairimages.com/

พระราชวังนี้แต่เดิมนั้นเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์หยวนแห่งมองโกล ต่อมาเมื่อราชวงศ์หยวนล่มสลายลงแล้วมีราชวงศ์หมิงขึ้นมาแทน จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิหงอู่ได้ย้ายเมืองหลวงจากปักกิ่งไปนานกิงและดำริให้รื้อถอนพระราชวังออก ต่อมาเมื่อพระราชโอรสของพระองค์ จักรพรรดิหย่งเล่อได้ขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับปักกิ่งดั่งเดิม และทรงสั่งให้ก่อสร้างพระราชวังใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 1949 ซึ่งได้กลายมาเป็นพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้ จนในปี พ.ศ. 2187 ได้เกิดจลาจลขึ้นทำให้พระราชวังสมัยราชวงศ์หมิงเสียหายไป จนเมื่อราชวงศ์ชิงขึ้นครองอำนาจต่อจากราชวงศ์หมิง จึงก็ได้ก่อสร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่บนฐานสิ่งก่อสร้างเดิม ทำให้พระราชวังกลายมาเป็นจุดศูนย์กลางอำนาจของจีนอีกครั้งเรื่อยมาจนถึงราชวงศ์ชิงล่มสลาย และเปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบสาธารณรัฐ

แม้ว่าประเทศจีนจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว พระราชวังต้องห้ามก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน และภาพประตูเทียนอันเหมินก็ยังปรากฏอยู่ในตราประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย ซึ่งไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้มีนโยบายจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวเพื่อจะอนุรักษ์สภาพของอาคารและสวนหย่อมไว้นอกจากนี้ พระราชวังต้องห้ามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเมื่อพ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) ทางยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามและพระราชวังสิ่นหยางเป็นหนึ่งในมรดกโลกในนาม พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง



การก่อสร้างพระราชวังนี้เป็นเรื่องที่โหดมาก เพราะต้องใช้ช่างฝีมือกว่าหนึ่งแสนคน คนงานมากกว่าหนึ่งล้านคน ไม้ที่ใช้นั้นเป็นไม้หนามมู่ เป็นไม้เนื้อแข็งชั้นดี เอามาจากมณฑลซื่อชวน กว่างตง และยูนาน ส่วนไม้ซุงขนมาจากซื่อชวน เจียงซี เจ๋อเจียง ส่านซี และฮูนาน เมื่อตัดไม้แล้วก็จะทิ้งไว้บนเขาอย่างนั้น รอให้น้ำป่าหลากทะลักพัดให้ไม้ลงมาเอง จากนั้นจึงค่อยบรรทุกขึ้นเรือมาปักกิ่ง หินที่ใช้นำมาจากฟ่างซาน ต้องจ้างชาวไร่ ขาวนา ในการขนย้ายหินถึง 20,000 คน ซึ่งหินแต่ละก้อนยาว 10 เมตร กว้าง 3 เมตร หนา 1.6 เมตร ถ้าย้ายผ่านพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็ง ต้องราดน้ำลงไปเพื่อให้น้ำแข็งละลาย อิฐนำมาจากหลินจิ้ง ในมณฑลซานตง การสร้างต้องใช้อิฐมากกว่าสิบล้านก้อน เพื่อใช้ปูพื้นพระราชวัง และขั้นตอนในการปูพื้นก็มีกรรมวิธีกว่ายี่สิบขั้นตอน แต่ละพื้นที่ใช้เวลาปูพื้นนานร่วมปี

พระราชวังต้องห้ามได้แบ่งออกเป็น 2ส่วนด้วยกันคือ พระราชวังชั้นใน และพระราชวังชั้นนอก พระราชวังชั้นนอก เป็นที่ที่เอาไว้จัดงานต่างๆเป็นสถานที่ทำงานของฮ่องเต้และเป็นจุดศูนย์กลางของวัง พระราชวังชั้นใน เป็นที่ประทับของฮ่องเต้และพะบรมวงศานุวงค์เป็นส่วนที่ผู้ชายไม่สามารถเข้าไปได้ ยกเว้นขันที


ที่มา: http://www.bareo-isyss.com/

ในเขตพระราชวังชั้นนอกมีตำหนักที่สำคัญอยู่3ตำหนัก คือ ตำหนักไถ่เหอ ตำหนักจงเหอ และตำหนักเป่าเหอ โดยทั้งสามตำหนักนี้ตั้งอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่ ตำหนักไท่เหอ มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางอำนาจของฮ่องเต้ล้อมรอบด้วยหินหยกที่สลักเป็นรูปเมฆ มังกร และหงส์ ใช้เป็นสถานที่ว่าราชการของฮ่องเต้ และต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ตำหนักจงเหอ ขนาดใหญ่รองมาจากไท่เหอ รูปทรงสี่เหลี่ยมมียอดแหลมใช้เป็นสถานที่พักรอก่อนออกว่าราชกาล หรือพระราชพิธีต่างๆ ตำหนักเป่าเหอ อยู่หลังตำหนักจงเหอขนาดใหญ่พอๆกับตำหนักไถ่เหอ ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรอง และใช้เป็นสนามสอบจอหงวน

ส่วนพระราชวังชั้นในมีตำหนักที่สำคัญอยู่ 2 ตำหนัก ตำหนักพระราชวังชั้นในนี้มีขนาดเล็กกว่าตำหนักของพระพระราชวังชั้นนอก พระที่นั่งเฉียนชิง ตำหนักหน้าของพระราชวังชั้นใน เป็นที่ประทับฮ่องเต้เพื่อตรวจสอบเอกสารลงนามอนุมัติราชการต่างๆ พระที่นั่งหย่างซินเตี้ยน อยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของพระราชวังชั้นใน เป็นที่ประทับของฮ่องเต้ไว้นัดพบพูดคุยราชการกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่



ปัจจุบันนี้พระราชวังต้องห้ามได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมโดย พระราชวังต้องห้ามเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันอังคาร-วันอาทิตย์และเวลาในการเปิดทำการจะต่างไปตามฤดูกาล คือ เดือนเมษายน-ตุลาคม เปิด 8.30-17.30 ค่าเข้าชม 60 หยวน เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เปิด 8.30-16.30 ค่าเข้าชม 40 หยวน และมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมไม่เกินวันละ 80,000 คน เพื่อป้องกันไม่ให้มีนักท่องเที่ยวมากเกินไป เพื่อความปลอดภัย และเพื่อต้องการอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้

โดยการเดินทางไปยังพระราชวังต้องห้ามก็มีให้เลือกหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นนั่งรถโดยสารสาธารณะเดินทางไปยังจัตุรัสเทียนอันเหมินโดนค่าโดยสารเริ่มที่ราคา 2 หยวน รถไฟฟ้าใต้ดิน นั่งสาย1ไปลงสถานีเทียนอันเหมินตะวันออก หรือตะวันตกก็ได้แล้วเดินต่อไปยังพระราชวังต้องห้าม แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมเป็นอย่างมากค่าโดยสารจะอยู่ประมาณ 13หยวน

และนี่คือสถานที่ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักค่ะ หากมีโอกาสได้ไปประเทศจีนก็อยากให้ทุกคนไม่พลาดที่จะไปพระราชวังต้องห้ามกันดูสักครั้งนะคะ เพราะที่นี่นอกจากได้ขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกแล้วที่นี่ยังถูกยกให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลกอีกด้วย เพราะอย่างนี้แล้วไปประเทศจีนแล้วก็อย่าลืมไปพระราชวังต้องห้ามกันนะคะ


อ้างอิง 

พระราชวังต้องห้าม กู้กงสถานที่เที่ยวเมืองปักกิ่ง . สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2561 , จาก ; http://www.oceansmile.com/China/Kukong.htm

พระราชวังต้องห้าม . สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2561 , จาก : https://www.hilllily.com/th-th/explore-beijing1/forbidden-city

พระราชวังต้องห้ามแห่งกรุงปักกิ่ง . สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2561 , จาก : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=158

 พระราชวังต้องห้าม ความเป็นมา ความหมาย . สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2561 , จาก ; https://guru.sanook.com/7167/

พระราชวังต้องห้าม . สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2561 , จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น