รา (Ra) เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ของชาวอียิปต์

โดย ธิติภรณ์ แก้วหาญ

สุริยเทพผู้สรรสร้างทุกสรรพสิ่งในตำนานเทพเจ้าของอียิปต์โบราณ ผู้เป็นบิดาแห่งมวลมนุษย์ เทพ และสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั่วทั้งอาณาจักรไอยคุปต์ต่างพากันสรรเสริญและเคารพบูชา เนื่องจากพระองค์ถือเป็นผู้สร้างโลกและจักรวาล เป็นตำนานเทพสูงสุดของอียิปต์ ผู้ซึ่งมีพระนามว่า “รา (Ra)”

เทพเจ้ารา เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ชาวอียิปต์โบราณให้ความเคารพบูชา เป็นสุริยเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งเฮลิโอโปลิส นครสุริยะ เมื่อพระองค์เอ่ยนามถึงสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นก็จะบังเกิดขึ้นในทันใด จึงถือว่าเทพเจ้าราคือผู้สร้างโลก สร้างสรรพสิ่งต่างๆ รวมไปถึงเหล่าเทพยดาทั้งหลาย


ที่มา: https://study.com/academy/

พระองค์ทรงเป็นเทพที่มีพระนามจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น อาเมน-รา (Amen-Ra) , อามอน-รา (Amon-Ra) หรือ อามุน-รา (Amun-Ra) รา-ฮารัคเต (Ra-Harakhte) ซึ่งคำว่า “รา” หมายถึง ผู้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เป็นคำแรกที่นำมาใช้กับคำว่าซัน (Sun) ที่หมายถึงดวงอาทิตย์ และเนื่องจากพระองค์ทรงเป็นองค์สุริยะเทพที่เคลื่อนที่ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากทางทิศตะวันออก และเคลื่อนที่ลับหายไปยังขอบฟ้าทางทิศตะวันตกทุกวัน จึงทำให้พระองค์มีพระนามเรียกที่แตกต่างกันออกไป คือ เคปรี (Khepril) หรือ เคเปรา (Khepera) ซึ่งหมายถึง พระอาทิตย์ในยามรุ่งอรุณ พระนาม รา (Ra) หมายถึง พระอาทิตย์ในยามเที่ยงวัน และพระนาม อาตุมหรือตุม (Atum/Tum) หมายถึง พระอาทิตย์ในยามสายัณห์

ตำนานเกี่ยวกับการกำเนิดของสุริยะเทพพระองค์นี้ มีมากมายหลายตำนาน บางตำนานกล่าวว่า เทพเจ้าอาตุมเป็นผู้สร้างเทพเจ้าราขึ้นมาตามแรงปรารถนาของพระองค์เอง บางตำนานกล่าวว่าพระองค์ทรงถือกำเนิดจากผืนน้ำ แล้วถูกห่อหุ้มด้วยดอกบัวบานที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาในยุคแรก ซึ่งมีเทพเจ้านุน (Nun) ที่เป็นเทพแห่งน้ำเป็นผู้ให้กำเนิดและเป็นพระบิดาของเทพเจ้ารา

บางตำนานกล่าวว่าพระองค์เกิดจากไข่ที่เทพเจ้า พทาห์ (Ptah) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ทรงปั้นพระองค์ขึ้นมาด้วยดินเหนียว และมีห่านซึ่งก็คือ เทพเจ้าเกบ (Geb) ที่เป็นเทพแห่งพื้นดินและพืชพันธุ์เป็นผู้ฟักเทพเจ้าราออกมา และตำนานสุดท้ายกล่าวว่าเทพเจ้าราทรงเป็นโอรสของเทพเจ้าเกบกับเทพีนัต

รูปลักษณ์ของเทพเจ้ารา คือ เป็นเทพเจ้าที่มีพระเศียรเป็นหัวเหยี่ยว พระองค์ทรงสวมมงกุฎที่เป็นแผ่นวงกลมรูปดวงอาทิตย์ และมีงูเห่าที่กำลังแผ่แม่เบี้ยอยู่ข้างบน


เทพเจ้ารา

ตามตำนานเล่าว่า เทพเจ้าราเป็นพระบิดาและราชาแห่งเทพยดาทั้งหลาย รวมไปถึงมนุษย์ สัตว์ และสรรพสิ่งต่างๆ ในโลก เล่ากันว่ามนุษย์และสิ่งมีชีวิตนั้นเกิดมาจากพระเสโท และน้ำพระเนตรของพระองค์ ต่อมาเทพเจ้าราก็ทรงจำแลงแปลงพระวรกายเป็นร่างมนุษย์ เพื่อที่จะเป็นเทวกษัตริย์องค์แรกที่ปกครองอาณาจักรไอยคุปต์จนเจริญรุ่งเรืองต่อกันมาหลายปี

ตลอดเวลานับพันปีที่พระองค์ปกครองนั้นแผ่นดินไอยคุปต์เต็มไปด้วยความสงบสุขและมั่งคั่ง มีแม่น้ำไนล์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการดำรงชีวิต ถือเป็นยุคทองของโลก เนื่องจากเทพเจ้ารานั้นอยู่ในร่างมนุษย์จึงทำให้พระองค์ไม่สามารถปกครองอาณาจักรไอยคุปต์ตลอดไปได้ ด้วยร่างกายของมนุษย์ที่ทรงชรามากขึ้นและนับวันพระวรกายก็จะมีแต่ซูบผอมและอ่อนแอ จนทำให้ประชาราษฎร์บางกลุ่มคิดแข็งต่อต้าน พระองค์จึงต้องเชิญเหล่าเทพยดาทั้งหลายมาชุมนุมร่วมกัน จนได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหา เมื่อพระองค์ทรงแก้ปัญหาต่างๆ บนโลกมนุษย์สำเร็จ พระองค์ก็ทรงสละตำแหน่งผู้ปกครองโลกให้แก่เทพเจ้าองค์ต่อไปและกลับไปใช้ชีวิตของพระองค์ตามปกติเช่นดังเดิม

บางตำนานกล่าวว่าเทพเจ้าราทรงไม่มีพระชายา บางตำนานก็กล่าวว่าพระองค์มีพระชายา คือ เทพีนัต (Nut) ซึ่งเป็นเทพีแห่งท้องฟ้าและเป็นพระขนิษฐาของเทพเจ้าเกบ แต่จากตำนานส่วนใหญ่สายสัมพันธ์ของเทพเจ้ารานั้นเป็นดังนี้ เทพเจ้าราทรงเนรมิตเทพเจ้าชูขึ้นเป็นเทพเจ้าองค์แรก ในเวลาต่อมาเทพเจ้าชูได้ครองคู่กับเทพีเตฟนุต ต่อจากเทพเจ้าชูก็มาเป็นเทพเจ้าเกบครองคู่กับเทพีนัต แล้วทั้งคู่ก็ให้กำเนิดพระโอรสและพระธิดา ได้แก่ เทพโอซิริส เทพโฮรุส เทพเซต เทพีไอซิส เทพีเนฟธิส ตามลำดับ

ดวงเนตรของเทพเจ้ารานั้น เล่าขานกันว่ามีฤทธานุภาพมาก และสามารถแยกจากกายของเทพเจ้าราได้ ดวงเนตรนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้ารา ฟาโรห์ที่ปกครองอาณาจักรไอยคุปต์จะสวมใส่เครื่องรางรูป พระเนตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้ารา แสดงถึงอำนาจสูงสุด


เทพเจ้าราทรงประทับอยู่บนเรือสุริยะ
ที่มา : https://www.pinterest.com/

เทพเจ้ารานั้นทรงประทับอยู่บนเรือสุริยะหรือที่เรียกว่า เรือแมนเจต (Manjet) พร้อมด้วยเหล่า   เทพยดาทั้งหลาย เคลื่อนที่ผ่านท้องฟ้า ข้ามจากทางทิศตะวันออกในยามรุ่งอรุณไปสู่ทิศตะวันตกในยามสายัณห์ เป็นเวลา 12 ชั่วโมงพอดี ซึ่งก็คือช่วงเวลากลางวัน ส่วนอีก 12 ชั่วโมง เรือสุริยะจะแล่นไปในแดน   มตภพดูอัตหรือแดนคนตาย ระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่บนเรือสุริยะ ศัตรูที่สำคัญของเทพเจ้ารา คือ พญางู อโพฟิส (Apophis) ที่คอยหาจังหวะโจมตีเรือสุริยะไม่ให้เรือสุริยะเคลื่อนที่ผ่านไป เมื่อผ่านโลกแห่งความตายซึ่งเป็นช่วงเวลากลางคืนมาได้ เรือของเทพเจ้าราก็จะผงาดแสงเข้าสู่ช่วงเวลากลางวันของเช้าวันใหม่

ตำนานกล่าวว่า เทพเจ้าราทรงเกิดขึ้นในตอนเช้าจะมีลักษณะเป็นเด็ก ในตอนกลางวันเทพเจ้าราก็จะมีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ และในตอนเย็นก็จะมีลักษณะเป็นคนชรา เทพเจ้าราจะต้องตายในคืนนั้นอีกด้วย

เทพเจ้าราเป็นหนึ่งในตำนานเทพเจ้าของอียิปต์โบราณที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากเทพเจ้าราเป็นผู้สรรสร้างเทพยดา มนุษย์และสรรพสิ่งต่างๆ ทำให้มีเรื่องเล่าขานถึงตำนานอื่นที่นอกเหนือจากตำนานของ เทพเจ้ารา แต่ไม่ว่าจะเป็นตำนานหรืออารยธรรมใดๆ ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่น่าศึกษา ค้นคว้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย


อ้างอิง

ชลิตดา. (2548). ตำนานอียิปต์โบราณ ฉบับสมบูรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : บริษัทพิมพ์ดี จำกัด.

บรรยง  บุญฤทธิ์. (2546). กำเนิดเทพ เทวีไอยคุปต์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์น้ำฝน.

บรรยง  บุญฤทธิ์. (2547). เปิดตำนานมหาเทพและเทวี ผู้อยู่เหนือจิตวิญญาณของชาวไอยคุปต์.
พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : อุษาการพิมพ์.

สมฤทธี  บัวระมวล. (2542). ตำนานอียิปต์โบราณ ยุครุ่งอรุณแห่งอารยธรรมโลก. พิมพ์ครั้งที่ 1.
กรุงเทพฯ : คุ้มคำ สำนักพิมพ์.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น