โดย ศุภากร ไกรกลาง
บนโลกใบนี้ มีเกาะมากมายซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งเกาะที่ปล่อยให้รกร้างมากมาย ซึ่งเกาะร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือ เกาะฮาชิมะ และเป็นเกาะร้างที่มีชื่ออยู่ในการจัดอันดับเกาะร้างสุดหน้ากลัวของญี่ปุ่นและอยู่ในอันดับโลกอีกด้วย
เกาะฮาชิมะ (ฮะชิมะ) หรือ กุงกันจิมะ ซึ่งหมายถึง Battleship Island (เกาะเรือรบ) เหตุจากรูปทรงของเกาะที่มองจากทางด้านข้างมีรูปร่างคล้ายเรือรบที่ลอยอยู่บนทะเล มีพื้นที่ 480 X 150 เมตร (72,000 ตร.ม.) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองนางาซากิ ราว 15 กิโลเมตร อยู่ในทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นเกาะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหากแต่ถูกมนุษย์สร้างขึ้น ในปี ค.ศ. 1887 และเสร็จ เมื่อปี ค.ศ. 1890 โดยบริษัท มิซูบิชิ (MIZUBISHI) เพื่อเป็นหัวใจหลักในการประกอบกิจการถ่านหิน ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอดีต
ด้วยต้องการพัฒนาเกาะนี้เป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่เพื่อรองรับกับความต้องการถ่านหินในการพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในยุคนั้น มีการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานและครอบครัว เพื่อตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะแห่งนี้จนเต็มพื้นที่ ในขณะนั้นถือว่า เป็นพื้นที่ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองและแออัดเป็นอย่างมาก มีประชากรหนาแน่นถึง 5,000 คน และในปี ค.ศ. 1959 มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นถึง 1,391 คน ต่อ 10,000 ตร.ม. มีการสร้างร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม และร้านค้าต่างๆมากมาย เพื่อสนองความต้องการของคนบนเกาะ รวมทั้งสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันลมทะเล พายุ และเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เกาะเรือรบแห่งนี้
อย่างไรก็ตามในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ใช้เกาะฮาชิมะ สำหรับเป็นที่สถานที่คุมขังและใช้แรงงานของเชลยชาวจีนและเกาหลีในเหมืองถ่านหินนี้ นอกจากนั้นในสภาวะ สงครามมีผู้คนจำนวน มากตกอยู่ ใน สภาวะตึงเครียดและขาดแคลนอาหาร ประชาชนเจ็บป่วยล้มตาย มีอาการเหนื่อยล้าเพราะถูกใช้แรงงานจนหมดเรี่ยวแรง หรือแม้แต่กระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตายจากความทุกข์ทรมาน ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
หากแต่ในปี ค.ศ 1960 บริษัทมิซูบิชิ ก็ได้ประกาศปิดเหมืองบนเกาะฮาชิมะลง และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ในทันที หลังดำเนินการมากว่า 73 ปี เนื่องจากความนิยมของพลังงานน้ำมันเข้ามาแทนที่พลังงานจากถ่านหินจึงไม่ได้เป็น ที่ต้องการของ ญี่ปุ่นอีกต่อไป บ้างก็ว่ามีควันไหลออกจากโรงงานถ่านหินเพียงชั่วข้ามคืนทำให้มีผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นั้นเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงประกาศเกาะฮาชิมะเป็นพื้นที่อันตราย และสั่งปิดเกาะ ในท้ายที่สุดเกาะแห่งนี้จึง ถูกปล่อยร้างโดยสมบูรณ์ ข้าวของเครื่องใช้มากมายยังอยู่บนที่เดิมราวกลับผู้คนบนเกาะเร่งรีบอพยพออกไปโดยไม่ได้เตรียมการ ทำให้เกาะเรือรบแห่งนี้ มีบรรยากาศที่วังเวงและหดหู่เป็นอย่างมาก
จากบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่น่าหวาดกลัวและยากที่จะเข้าไปโดยง่าย ของเกาะแล้วทำให้มีเรื่องเล่าความอาถรรพ์ของชาวประมงเล่าขานต่อกันมาว่า มีสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนและอาฆาตแค้นอาศัยอยู่ ทั้งเสียงร้องโหยหวนและเงาร่างผู้คนที่ปรากฎให้เห็นในเวลากลางคืน สร้างความหวาดผวาและถูกยกให้เป็นเกาะร้างสุดหลอนที่สุดในญี่ปุ่นไปโดยปริยาย อีกทั้งเมื่อ ปี ค.ศ.2003 เกาะเรือรบอาถรรพ์นี้ได้มีบทบาทเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด (Battle Royale) ก่อเกิดเรื่องเล่าขานที่ส่งเสริมตำนานสิ่งลี้ลับนี้สู่ผู้คนมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งนักแสดงหญิงมีอาการเสมือนถูกวิญญาณครอบงำ ความขัดข้องของอุปกรณ์อย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือแม้แต่เห็นเงาร่างประหลาดเข้ามาวนเวียนอยู่ในฉากการถ่ายทำ อีกทั้งยังมีภาพยนตร์ไทยได้นำตำนานความสยองขวัญของเกาะนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่อง ฮาชิมะ โปรเจค ไม่เชื่อต้องลบหลู่ ในปี ค.ศ. 2013 ซึ่งเป็นการแผ่ขยายความน่ากลัวสู่ชาวไทยให้ได้กล่าวถึงและต้องการไปเยือนเกาะฮาชิมะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งจากตำนานความน่ากลัวของเกาะและซากของสิ่งก่อสร้างได้สร้างความสนใจจากบุคคลทั่วโลก นำไปสู่การสร้างเว็บไซต์ ในรูปแบบของ google street view เพื่อให้บุคคลที่สนใจได้ซึมซับบรรยากาศอันวังเวงนี้ผ่านทาง internet แม้จะไม่ได้เดินทางไปด้วยตนเอง (โดย link: http://www.hashima-island.co.uk/# )
ปัจจุบันทางการญี่ปุ่นพยายามที่จะผลักดันให้เกาะฮาชิมะเป็นมรดกโลก แต่กลับถูกทางการเกาหลีใต้คัดค้าน เพราะมองว่าเกาะฮาชิมะนั้น คือบาดแผลจากสงครามที่ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้แก่ชาวจีนและเกาหลีอย่างไม่มีวันลบเลือนได้
นอกจากนี้ เกาะฮาชิมะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางการญี่ปุ่นได้จำกัดนักท่องเที่ยว และเวลาในการเข้าชม ทำให้แต่ละปีมีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาเยือนที่แห่งนี้เพียงไม่กี่รายเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเกาะฮาชิมะจะร้างผู้คนและเต็มไปด้วยบรรยากาศอังวังเวง รวมทั้งเชื่อว่ามีเรื่องราวอาถรรพ์มากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งความรุ่งเรืองและร่องรอยความปวดร้าวจากอดึต สู่ผู้คนยุคใหม่ผ่านซากปรักหักพังเหล่านั้น
อ้างอิง
เกาะฮาชิมะ ญี่ปุ่น ที่ว่าหลอนและเฮี้ยนสุดๆ Hashima (ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก : https://www.youtube.com/watch?v=9-pvc9KGKqw
เจาะลึกภาพยนตร์ H Project ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อต้องลบหลู่ (ออนไลน์).(2013).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22
กันยายน 2559, จาก : http://www.majorcineplex.com/news/h-project/
ฮะชิมะ(ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/
Hashima Island(ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Hashima_Island
บนโลกใบนี้ มีเกาะมากมายซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งเกาะที่ปล่อยให้รกร้างมากมาย ซึ่งเกาะร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือ เกาะฮาชิมะ และเป็นเกาะร้างที่มีชื่ออยู่ในการจัดอันดับเกาะร้างสุดหน้ากลัวของญี่ปุ่นและอยู่ในอันดับโลกอีกด้วย
เกาะฮาชิมะ (ฮะชิมะ) หรือ กุงกันจิมะ ซึ่งหมายถึง Battleship Island (เกาะเรือรบ) เหตุจากรูปทรงของเกาะที่มองจากทางด้านข้างมีรูปร่างคล้ายเรือรบที่ลอยอยู่บนทะเล มีพื้นที่ 480 X 150 เมตร (72,000 ตร.ม.) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองนางาซากิ ราว 15 กิโลเมตร อยู่ในทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นเกาะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหากแต่ถูกมนุษย์สร้างขึ้น ในปี ค.ศ. 1887 และเสร็จ เมื่อปี ค.ศ. 1890 โดยบริษัท มิซูบิชิ (MIZUBISHI) เพื่อเป็นหัวใจหลักในการประกอบกิจการถ่านหิน ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอดีต
ที่มา: https://www.bloomberg.com/
ด้วยต้องการพัฒนาเกาะนี้เป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่เพื่อรองรับกับความต้องการถ่านหินในการพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในยุคนั้น มีการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานและครอบครัว เพื่อตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะแห่งนี้จนเต็มพื้นที่ ในขณะนั้นถือว่า เป็นพื้นที่ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองและแออัดเป็นอย่างมาก มีประชากรหนาแน่นถึง 5,000 คน และในปี ค.ศ. 1959 มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นถึง 1,391 คน ต่อ 10,000 ตร.ม. มีการสร้างร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม และร้านค้าต่างๆมากมาย เพื่อสนองความต้องการของคนบนเกาะ รวมทั้งสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันลมทะเล พายุ และเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เกาะเรือรบแห่งนี้
อย่างไรก็ตามในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ใช้เกาะฮาชิมะ สำหรับเป็นที่สถานที่คุมขังและใช้แรงงานของเชลยชาวจีนและเกาหลีในเหมืองถ่านหินนี้ นอกจากนั้นในสภาวะ สงครามมีผู้คนจำนวน มากตกอยู่ ใน สภาวะตึงเครียดและขาดแคลนอาหาร ประชาชนเจ็บป่วยล้มตาย มีอาการเหนื่อยล้าเพราะถูกใช้แรงงานจนหมดเรี่ยวแรง หรือแม้แต่กระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตายจากความทุกข์ทรมาน ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
หากแต่ในปี ค.ศ 1960 บริษัทมิซูบิชิ ก็ได้ประกาศปิดเหมืองบนเกาะฮาชิมะลง และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ในทันที หลังดำเนินการมากว่า 73 ปี เนื่องจากความนิยมของพลังงานน้ำมันเข้ามาแทนที่พลังงานจากถ่านหินจึงไม่ได้เป็น ที่ต้องการของ ญี่ปุ่นอีกต่อไป บ้างก็ว่ามีควันไหลออกจากโรงงานถ่านหินเพียงชั่วข้ามคืนทำให้มีผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นั้นเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงประกาศเกาะฮาชิมะเป็นพื้นที่อันตราย และสั่งปิดเกาะ ในท้ายที่สุดเกาะแห่งนี้จึง ถูกปล่อยร้างโดยสมบูรณ์ ข้าวของเครื่องใช้มากมายยังอยู่บนที่เดิมราวกลับผู้คนบนเกาะเร่งรีบอพยพออกไปโดยไม่ได้เตรียมการ ทำให้เกาะเรือรบแห่งนี้ มีบรรยากาศที่วังเวงและหดหู่เป็นอย่างมาก
ที่มา: http://www.weirdworm.com/
จากบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่น่าหวาดกลัวและยากที่จะเข้าไปโดยง่าย ของเกาะแล้วทำให้มีเรื่องเล่าความอาถรรพ์ของชาวประมงเล่าขานต่อกันมาว่า มีสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนและอาฆาตแค้นอาศัยอยู่ ทั้งเสียงร้องโหยหวนและเงาร่างผู้คนที่ปรากฎให้เห็นในเวลากลางคืน สร้างความหวาดผวาและถูกยกให้เป็นเกาะร้างสุดหลอนที่สุดในญี่ปุ่นไปโดยปริยาย อีกทั้งเมื่อ ปี ค.ศ.2003 เกาะเรือรบอาถรรพ์นี้ได้มีบทบาทเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด (Battle Royale) ก่อเกิดเรื่องเล่าขานที่ส่งเสริมตำนานสิ่งลี้ลับนี้สู่ผู้คนมากขึ้นอีกครั้ง ทั้งนักแสดงหญิงมีอาการเสมือนถูกวิญญาณครอบงำ ความขัดข้องของอุปกรณ์อย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือแม้แต่เห็นเงาร่างประหลาดเข้ามาวนเวียนอยู่ในฉากการถ่ายทำ อีกทั้งยังมีภาพยนตร์ไทยได้นำตำนานความสยองขวัญของเกาะนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่อง ฮาชิมะ โปรเจค ไม่เชื่อต้องลบหลู่ ในปี ค.ศ. 2013 ซึ่งเป็นการแผ่ขยายความน่ากลัวสู่ชาวไทยให้ได้กล่าวถึงและต้องการไปเยือนเกาะฮาชิมะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งจากตำนานความน่ากลัวของเกาะและซากของสิ่งก่อสร้างได้สร้างความสนใจจากบุคคลทั่วโลก นำไปสู่การสร้างเว็บไซต์ ในรูปแบบของ google street view เพื่อให้บุคคลที่สนใจได้ซึมซับบรรยากาศอันวังเวงนี้ผ่านทาง internet แม้จะไม่ได้เดินทางไปด้วยตนเอง (โดย link: http://www.hashima-island.co.uk/#
ที่มา: https://www.pinterest.com/
ปัจจุบันทางการญี่ปุ่นพยายามที่จะผลักดันให้เกาะฮาชิมะเป็นมรดกโลก แต่กลับถูกทางการเกาหลีใต้คัดค้าน เพราะมองว่าเกาะฮาชิมะนั้น คือบาดแผลจากสงครามที่ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้แก่ชาวจีนและเกาหลีอย่างไม่มีวันลบเลือนได้
นอกจากนี้ เกาะฮาชิมะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางการญี่ปุ่นได้จำกัดนักท่องเที่ยว และเวลาในการเข้าชม ทำให้แต่ละปีมีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มาเยือนที่แห่งนี้เพียงไม่กี่รายเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเกาะฮาชิมะจะร้างผู้คนและเต็มไปด้วยบรรยากาศอังวังเวง รวมทั้งเชื่อว่ามีเรื่องราวอาถรรพ์มากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งความรุ่งเรืองและร่องรอยความปวดร้าวจากอดึต สู่ผู้คนยุคใหม่ผ่านซากปรักหักพังเหล่านั้น
อ้างอิง
เกาะฮาชิมะ ญี่ปุ่น ที่ว่าหลอนและเฮี้ยนสุดๆ Hashima (ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก : https://www.youtube.com/watch?v=9-pvc9KGKqw
เจาะลึกภาพยนตร์ H Project ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อต้องลบหลู่ (ออนไลน์).(2013).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22
กันยายน 2559, จาก
ฮะชิมะ(ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/
Hashima Island(ออนไลน์).(2016).สืบค้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2559, จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Hashima_Island
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น