นครแอตแลนติส (Atlantis)

โดย สุพิชชา บูรพาพรพันธ์

เรื่องราวความเป็นมาของอาณาจักรโบราณต่างๆ ในตะวันตก มีตำนานที่เล่าขานกันมาหลากหลาย ทั้งที่มีหลักฐานจากการค้นพบ หรือยังรอการพิสูจน์ เช่นเดียวกับอาณาจักรโบราณที่ชื่อว่า “นครแอตแลนติส” ก็รอการค้นพบว่าอาณาจักรนี้จมอยู่ใต้มหาสมุทรแห่งใดแห่งหนึ่ง หรืออาจจะเป็นเพียงตำนานที่ผู้คนเล่าขานกันมาเท่านั้น


จำลองนครแอตแลนติสที่จมอยู่ใต้มหาสมุทร
ที่มา : http://4.bp.blogspot.com/

“นครแอตแลนติส” คำว่า แอตแลนติส มาจากนามของ “แอตลาส” ซึ่งเป็นบุตรของเทพโพไซดอน เป็นอาณาจักรโบราณที่หายสาบสูญ มีลักษณะเป็นทวีป กลางนครแอตแลนติสเป็นที่ราบแห้งแล้ง มีภูเขาสูงกั้นขวางลมทางเหนือ มีดินอุดมสมบูรณ์ ป่าไม้ สินแร่และสัตว์ป่า สภาพอากาศเป็นแบบกึ่งเขตร้อน เก็บเกี่ยวพืชผลปีละสองครั้ง นอกจากนี้ยังมีท่าเรือใหญ่มากมาย สำหรับการติดต่อการค้ากับโลกภายนอก มีการกล่าวว่า อารยธรรมโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์ เมโสโปเตเมีย ไปจนถึงชนเผ่าอินคา มายา และแอชแท็กในแถบอเมริกากลาง ก็ได้รับวัฒนธรรมรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่มหัศจรรย์จากชาวแอตแลนติสทั้งสิ้น

เชื่อกันว่าแอตแลนติสตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับเสาหินแห่งเฮอร์คิวลีส (Pillars of Hercules) ซึ่งในปัจจุบัน ก็คือช่องแคบยิบรอลตา (Gibraltar) เป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับทะเลอัลโบรันและแยกประเทศสเปนออกจากประเทศโมร็อกโก โดยน่าจะเป็นหมู่เกาะอะซอเรส (Azores) หรือ คานารีส (Canaries) ของโปรตุเกส


บริเวณที่ตั้งของนครแอตแลนติส
ที่มา : http://www.thairath.co.th/

ตามตำนานกล่าวว่าช่วงเวลาที่แอตแลนติสล่มสลายไป อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 9,000 - 12,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่เปลือกโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง แกนโลกเอียงมาก มีการกล่าวว่า นครแอตแลนติสที่หายสาบสูญอาจเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและถูกคลื่นยักษ์ไหลท่วมจมหายไปในทะเล

ผู้ที่สร้างตำนานแห่งอาณาจักรลึกลับนี้ คือ “เพลโต” นักปรัชญาชื่อดังของกรีกโบราณ เพลโตเขียนถึงแอตแลนติสในหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า ทีเมอุสและครีทีแอซ ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับบทสนทนาของคุณทวดของท่านที่ชื่อ “ครีทีแอซ” ได้ยินนิทานที่ท่านพ่อของทวด “ดรอพิเดส” เล่าไว้ว่า เพื่อนของท่าน นามว่า ซาลอน (Solon) มีชีวิตอยู่ในราว 533 ปีก่อนคริสต์ศักราช ได้ยินเรื่อง แอตแลนติส จากพระชาวอียิปต์มาอีกทอดหนึ่ง ซาลอน กล่าวว่า
“แอตแลนติสอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวเมืองเป็นลูกหลานของโพไซดอนเทพแห่งทะเล มีกษัตริย์ปกครองถึง 10 พระองค์ ซึ่งเป็นบุตรที่กำเนิดจากนางไคลโตและเทพไซดอน ในเมืองหลวงจะมีบ่อน้ำร้อนสำหรับอาบน้ำในฤดูหนาวและบ่อน้ำเย็นสำหรับอาบน้ำในฤดูร้อน มีกำแพงเมืองทองคำ วิหารเงิน มีอุทยานหย่อนใจ ชาวเมืองมีการศึกษาและความสามารถด้านทำสงคราม รวมถึงศีลธรรมอันสูงส่ง ตัวเกาะแบ่งออกเป็นวงแหวนเรียงซ้อนกัน 5 วง โดยมีสะพานเชื่อมโยงระหว่างวง และเรือเดินสมุทรสามารถลอยลำเข้าไปได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วอายุคนความเจริญรุ่งเรืองได้สลายจากความเป็นอารยะ ชาวแอตแลนติสเปลี่ยนเป็นคนกระหายอำนาจ เทพเจ้าซีอุส จึงได้ลงโทษอาณาจักรแอตแลนติส”


นครแอตแลนติสแบ่งออกเป็นวงแหวน 5 วง

ตลอดระยะเวลากว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ใดเคยได้เห็นนครแอตแลนติสเลย แต่จากเรื่องเล่าขานถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมแห่งนี้ จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักประวัติศาสตร์และนักสำรวจพยายามค้นหาที่ตั้งของแอตแลนติสต่อไป ปัจจุบันจึงยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับการค้นพบนครแอตแลนติสปรากฏออกมาอยู่เรื่อย ๆ

ล่าสุดโรเบิร์ต ซาร์แมสต์ นักวิจัยชาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ค้นพบแอตแลนติสเมืองแห่งอารยธรรมที่หายไปใต้ทะเลระหว่างไซปรัส (Cyprus) และซีเรีย (Syria) แต่นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน จากศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลและบรรยากาศ แย้งว่า พื้นที่นั้นภูเขาไฟเคยพ่นหินละลายเมื่อหมื่นปีก่อน ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมงานเคยเดินเรือไปสำรวจมาก่อนแล้ว จึงไม่น่าจะใช่นครแอนแลนติสที่ตามหา

นอกจากนี้ นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเอดินเบอร์ก ก็ได้พุ่งเป้าไปที่ชายฝั่งของสเปน คิวบา และทางตะวันตกของเกาะอังกฤษ โดยภาพถ่ายดาวเทียมของเขาที่บริเวณอุทยานแห่งชาติโดนาอานาของสเปนได้พบสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่สี่เหลี่ยม 2 หลัง จมอยู่ในโคลนใต้ทะเล และได้เผยแพร่ภาพถ่ายนี้ออกไป

ทางด้านกลุ่มนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดยศาสตราจารย์ริชาร์ด ฟรอยนด์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด ประกาศว่า ค้นพบที่ตั้งของแอตแลนติสแล้ว อยู่ใต้เมืองกาดิช ทีมงานเริ่มค้นหาโดยใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมก่อนหน้านั้นเป็นจุดเริ่มต้น ในระยะเวลาหนึ่งปี ทีมงานใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ค้นในจุดที่คาดว่าจะเป็นเมืองขนาดใหญ่ ในที่สุดทีมงานก็ค้นพบเงาของสิ่งก่อสร้าง มีคูน้ำล้อมรอบเป็นชั้น เหมือนวงแหวนซ้อนกัน ซึ่งคล้ายกับผังเมืองแอตแลนติสที่ได้กล่าวไว้ ทำให้ฟรอยนด์และทีมงานมั่นใจว่านี่คือแอตแลนติสที่หายสาบสูญ จากเรื่องราวทั้งหมด จึงได้จัดทำสารคดีออกอากาศในช่อง National Geographic แต่ฮวน โจเซ่ บิลาเรียส โรเบลส์ (Juan Jose Villarias Robles) ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยวิทยา เป็นหนึ่งในผู้คัดค้าน โดยระบุว่าหลักฐานไม่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้คนให้ความสนใจต่อเรื่องราวความเป็นมาของนครแอตแลนติส เพราะเชื่อว่ายังคงอยู่ใต้มหาสมุทร รอคอยวันค้นพบ เพื่อพิสูจน์ตำนานที่เล่าขานต่อกันมานั้น เป็นจริงมากน้อยเพียงใด และการพิสูจน์ที่จะทำให้แน่ชัดได้ ก็ต่อเมื่อ มีการค้นพบซากเมืองแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีในการพยายามค้นหานครแอตแลนติสแห่งนี้ต่อไป


อ้างอิง

แอตแลนติสนครที่หายสาบสูญ. (2555). ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก http://www.dek-d.com/board/view/2381272/

แอตแลนติส. (2558). ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/แอตแลนติส

แอตแลนติสอาณาจักรที่สาบสูญ. [ม.ป.ป.]. ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก http://www.unigang.com/Article/10360

Indepencil. (2554). ค้นพบแล้ว(รึเปล่า)...แอตแลนติส. ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก http://www.indepencil.com/ค้นพบแล้วรึเปล่า-แอตแล/

ไทยรัฐออนไลน์. (2554). ฮือฮา!ทีมวิจัยมะกันอ้างพบ‘ทวีปแอตแลนติส’ที่สาบสูญ. ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก http://www.thairath.co.th/content/156176

Pongkhuan. (2555). ตำนานแอตแลนติส. ค้นเมื่อ 17 กันยายน 2559, จาก http://the-mythical-legend.blogspot.com/2012/10/blog-post.htmll

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น