เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ล้วนมีอดีตที่เป็นปริศนา มีบางอย่างที่คลุมเครือและไม่กระจ่างแจ้ง แต่มนุษย์ก็ยังคงพยายามค้นหาวิธีการต่างๆ มากมายด้วยทักษะการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและความสามารถด้านอื่นๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบที่อาจจะมีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เลย
จารึกโบราณแห่งทะเลสาบเดดซี
ที่มาภาพ : https://www.facsimilefinder.com/
ย้อนกลับไปช่วง ค.ศ. 1947-1956 หนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลกได้ถูกค้นพบโดยบังเอิญที่เมืองคุมราน (Qumran) ของถ้ำ 11 แห่งทางทิศตะวันตกเฉียงหนือของทะเลสาบเดดซี (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิสราเอล) สมบัติล้ำค่าที่ว่าคือ จารึกโบราณแห่งทะเลสาบเดดซี (Dead Sea Scrolls) ซึ่งจารึกนี้ถูกเขียนขึ้นบนหนังสัตว์โดยมีลักษณะเป็นม้วนหนังสือ 800 รายการ เขียนด้วยอักษรฮิบรูโบราณ ส่วนใหญ่เป็นคัมภีร์เกี่ยวกับศาสนายูดายที่ไม่เคยพบมาก่อน นักโบราณคดีคาดว่าจารึกนี้มีอายุประมาณ 2,000 ปี จารึกดังกล่าวถูกเขียนขึ้นโดยพวกเอสซีน (Essene) บรรพบุรุษของชาวยิวในช่วงเวลาร่วมสมัยกับพระเยซู
ภาพทิวทัศน์จากปากถ้ำที่เมืองคุมรานของทะเลสาบเดดซี
การค้นพบโดยบังเอิญนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1947 มูฮัมมัด อาดิบ (Mohammed Adib) เด็กเลี้ยงแกะชาวเบดูอินชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทราย ได้ออกตามหาแกะที่พลัดหลงไปจากฝูงกระทั่งมาจนถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่เขาคิดว่าแกะอาจจะอยู่ด้านใน จึงได้ขว้างก้อนหินเพื่อเป็นการเบิกทางผลปรากฏว่าได้ยินเสียงไหแตก มูฮัมมัดจึงคิดว่าอาจเจอขุมทรัพย์ วันรุ่งขึ้นเขาจึงชวนเพื่อนเข้ามาสำรวจด้วยกัน สิ่งที่พบภายในถ้ำคือไหดินเผาซึ่งข้างในมีเพียงผ้าลินินม้วนหนังสัตว์เก่าๆ 7 ม้วน เขาจึงขนกลับมาขายราคาถูกๆ ให้แก่พ่อค้าในตลาดเมืองเบทลิเฮม
เมื่อพ่อค้าขายของเก่าคลี่ออกดูก็เห็นอักษรจารึกบนหนังสัตว์ความยาว 8 เมตร แต่ด้วยความสงสัยจึงเดินทางไปกรุงเยรูซาเลมเพื่อให้นักบวชผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณชื่อ อัททานาซีอุส ชามูเอล วิเคราะห์และพบว่าเป็นอักษรฮิบรูโบราณซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ของชาวยิว ชามูเอลเชื่อว่าสิ่งที่เห็นต่อหน้าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ จึงได้เดินทางไปเมืองคุมรานและได้ค้นพบม้วนหนังสือซึ่งเป็นจารึกโบราณในถ้ำต่างๆอีก 4 ม้วน รวมทั้งหมดเป็น 11 ม้วน หลังจากนั้นได้ส่งไปตรวจสอบอายุที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ พบว่ามีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี นับว่าเป็นการค้นพบจารึกโบราณที่เก่าแก่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์
ที่มาภาพ : https://www.facsimilefinder.com/
ปริศนาจารึกโบราณแห่งทะเลสาบเดดซี ในบรรดาม้วนหนังสือทั้งหมดมีอยู่หนึ่งม้วนที่ทำด้วยแผ่นทองแดง รอยสลักตัวอักษรบนแผ่นโลหะอายุร่วม 2,000 ปี ได้เผยนัยสำคัญแก่ชนรุ่นหลังถึงลายแทงขุมทรัพย์อันล้ำค่าที่ถูกซ่อนไว้ให้พ้นเงื้อมมือของศัตรู เนื้อหาบันทึกถึงสถานที่ซ่อนสมบัติ ทองคำ เงิน เครื่องหอมผ่านภาษาฮิบรูโบราณที่กระจัดกระจายอยู่ในดินแดนอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในอดีตกาลวิหารหรือโบสถ์ของชาวยิวคือสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่า เมื่อกองทัพโรมันยึดเมืองได้แล้ว โบสถ์วิหารจึงถูกทำลายอย่างราบคาบเพื่อขุดหาสมบัติ แต่จารึกบนแผ่นทองแดงยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ ดังเช่นประโยคที่ว่า
“หุบเขาแห่งอาคอร์เข้าไปทางทิศตะวันออกจะพบหีบเงิน ในหลุมเกลือทางทิศใต้มีก้อนเงิน ถ้ำของคนทำความสะอาดเก็บทองคำไว้ 54 แท่ง หลุมที่สามเก็บทองคำไว้ 800 แท่ง หลุมศพอับโซโลมทางตะวันตกขุดลึกลงไปจะมีเหรียญ 80 เหรียญ ”
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่มีการขุดพบสมบัติล้ำค่าใดๆตามลายแทง นักโบราณคดีเชื่อว่าอาจมีบันทึกที่เฉลยปริศนามากกว่าหนึ่งชุด และมีความเป็นไปได้ว่าสักวันหนึ่งขุมสมบัติอันล้ำค่าอาจเผยโฉมให้เห็น จารึกโบราณแห่งทะเลสาบเดดซี ได้เพิ่มพูนความรู้แก่เราทั้งในศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์ในการเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่และยังสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของพระเยซูที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ศาสนาคริสต์มีรากฐานมาจากศาสนายูดาห์ จนสมควรได้รับการเรียกว่า “ม้วนหนังสืออันเป็นสะพานระหว่างสองศาสนา”
อ้างอิง
Dead Sea Scrolls.(มมป.). สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561, จาก http://www.centuryone.com/25dssfacts.html
Dead Sea Scrolls.(มมป.). สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561, จาก https://www.deadseascrolls.org.il/featured-scrolls
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (มมป.). Dead Sea Scrolls. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561, จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Dead_Sea_Scrolls
ถอดรหัสม้วนหนังสือเดดซี. (2561). สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561, จาก http://ngthai.com/history/6948/dead-sea-scrolls/
วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์.(2559). ปริศนาม้วนทองแดงแห่งเดดซี. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561, จาก http://www.sarakadee.com/blog/oneton/?p=1930
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น