วิหารพาร์เธนอน (Parthenon)

โดย วัชรีภรณ์ อภิภัทรกุล

เมื่อพูดถึงประเทศกรีซก็คงต้องนึกถึงวิหารพาร์เธนอน แห่งกรุงเอเธนส์ วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีอาธีนา โดยเมื่อในอดีตได้มีรูปปั้น เทพีอาธีนา ซึ่งเป็นเทพีแห่งสติปัญญาขนาดมหึมาตั้งอยู่ภายในวิหาร แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปได้เกิดความเสียหายผุพังไปตามกาลเวลาประติมากรรมต่างๆ ก็สูญหายไป ทำให้ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่วิหารเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมยุคกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

วิหารพาร์เธนอนนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นวิหารประจำกรุงเอเธนส์ ตามตำนานที่มาของชื่อกรุงเอเธนส์ มาจากในสมัยก่อนชาวเมืองไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อเมืองว่าอะไร เทพโพไซดอนจึงได้ใช้ตรีศูลซึ่งเป็นอาวุธประจำกายสร้างม้าขึ้นมา ชาวเมืองต่างเกิดความพึงพอใจอย่างมาก แต่ทันใดนั้นเทพีอาธีนาได้สร้างต้นมะกอกขึ้นมาด้วย ทำให้ชาวเมืองเกิดความพึงพอใจมากกว่า จึงตกลงใช้ชื่อเมืองว่า “เอเธนส์” ตามชื่อของ อาธีนา ทำให้เทพีอาธีนา ซึ่งเป็นเทพีแห่งสติปัญญา ได้กลายเป็นเทพีประจำกรุงเอเธนส์ และได้รับการนับถือมากที่สุด



ชาวเมืองจึงได้สร้างวิหารพาร์เธนอนขึ้นมา ซึ่งเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดอยู่บนอาโครโพลิส ใจกลางนครเอเธนส์  เพื่อเป็นที่ประดิษฐานและสักการบูชารูปเคารพของ เทพีอาธีนา คำว่า พาร์เธนอน (Parthenon) จึงน่าจะมาจากประติมากรรมรูปเคารพของเทพีอาเธนา ที่เรียกว่า Athena Parthenos ที่เคยตั้งอยู่ภายใน ซึ่งมีความหมายว่า เทพีผู้บริสุทธิ์

วิหารพาร์เธนอนเริ่มก่อสร้างเรื่มขึ้นเมื่อปี 447 ปีก่อนคริสต์ศักราช ริเริ่มสร้างโดยเพริเคิล (Pericles) ผู้นำกรุงเอเธนส์ในยุคนั้น มี  อิคตินุส (Ictinus) และ คาลลิคราเตส (Callicrates) เป็นสถาปนิก ซึ่งดำเนินการก่อสร้างภายใต้การควบคุมของประติมากรผู้มีชื่อเสียง พิดิอัส (Phidias) สร้างเสร็จในปี 438 ปีก่อนศริสต์ศักราช แต่ยังตกแต่งต่อเนื่องมาอีก 5 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ โดยวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างคือ หินอ่อน ที่นำมาจากเขาเพนเทลิกัส ที่อยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ราว 16 กิโลเมตร



วิหารพาร์เธนอนมีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้าง 30.9 เมตร และยาว 69.5 เมตร ด้านกว้างของวิหารนั้นจะประกอบไปด้วยด้วยเสา 8 ต้น ด้านยาวอีก 17 ต้น  เสาภายนอกแต่ละต้นนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.9 เมตร และมีความสูง 10.4 เมตร ส่วนต้นเสาที่อยู่หัวมุมของวิหารจะมีขนาดใหญ่กว่าเสาต้นอื่นๆเล็กน้อย ตัวเสาตกแต่งแบบเรียบง่ายตามแบบดอริก แต่ให้ความรู้สึกที่มั่นคงแข็งแรง ด้วยความลงตัวของสัดส่วนที่สมดุลและความงามแบบเรียบง่ายตามสไตล์คลาสสิกซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของกรีก นอกจากนั้นวิหารพาร์เธนอนยังมีชื่อเสียงในด้านของประติมากรรมรูปนูนที่ใช้ตกแต่งประดับประดาทั้งบริเวณหน้าจั่วหลังคา และแถบตกแต่งชายคาโดยรอบ น่าเสียดายที่ประติมากรรมได้หักพังและสูญหายไปเกือบทั้งหมด ด้วยความงามที่ลงตัวทำให้วิหารพาร์นอนแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

วิหารพาร์เธนอนยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นมานานนับพันปี บางช่วงเวลาก็ผุพังและได้รับการซ่อมแซมไปตามกาลเวลา บางช่วงก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศาสนสถานทางศาสนาต่างๆ ตามผู้ที่เข้ามายึดครอง เช่น เคยถูกเปลี่ยนให้เป็นโบถส์คริสเตียนมาก่อน และเปลี่ยนเป็นสุเหร่าในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันเข้ามาครอบครองกรีชในปี ค.ศ. 1456 ในปัจจุบันวิหารพาร์เธนอน รวมทั้งอาคารอื่นๆ บนอาโครโปลิสแห่งนครเอเธนส์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1987

ถึงแม้ว่าวิหารพาร์เธนอนแห่งนี้จะมีอายุกว่า 2,600 ปีแต่จนถึงปัจจุบันนี้ยังคงความสมบูรณ์แบบงดงามและแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมกรีกโบราณได้เป็นอย่างดีและไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าทำไมวิหารโบราณแห่งนี้ถึงได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


อ้างอิง

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. พาร์เธนอน. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2558, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

supawadee.วิหารพาร์เธนอน PARTHENON. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2558,จาก  : https://iissbelle.wordpress.com/

ณัฐพงษ์ ลาตุ่น.มรดกที่สำคัญของกรีก. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม 2558,จาก  : https://nuttaponglatun60.wordpress.com/

Anemoneploy2526. เกร็ดเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับกรีก. สืบค้นเมื่อ 15 กันยายน 2558,จาก  : http://writer.dek-d.com/Anemone2526/story/viewlongc.php?id=248923&chapter=44

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น