ในโลกนี้มีการก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบ ทั้งการเข่นฆ่า ขู่กรรโชก โจรกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางกายและทางทรัพย์สิน ในที่นี้จะขอกล่าวถึงอาชญากรคนหนึ่งที่ก่ออาชญากรรมโดยไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีใครต้องได้รับบาดเจ็บหรือนองเลือดแม้แต่คนเดียว เป็นอาชญากรคนสำคัญที่ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาต้องจดจำไปตลอดกาล “แฟรงค์ อบาเนล” อาชญากรหนุ่มที่อายุไม่ถึง 20 ปีแต่มีความสามารถต้มตุ๋นและปลอมแปลงขั้นสุดยอด การกระทำของเขาในตอนนั้นทำให้มากกว่า 26 ประเทศถึงกับต้องจับตามองกันเลยทีเดียว
แฟรงค์ วิลเลี่ยม อบาเนล จูเนียร์ (Frank William Abagnale Jr.) เกิดที่นิวยอร์ค เมื่อวันที่ 27 เมษายน 1948 เมื่อเขาอายุได้ 16 ปี พ่อแม่ของเขาก็หย่ากัน แฟรงค์ตัดสินใจหนีออกจากบ้านในวันที่พ่อแม่เซ็นใบหย่า ในมือเขามีเงินเพียง 200 ดอลล่าร์เท่านั้น เขาจึงเริ่มหาเงินโดยการทำเช็คปลอมขึ้นมา ในสมัยนั้นเทคโนโลยีการตรวจจับเอกสารปลอมยังไม่มีศักยภาพมากเหมือนในสมัยนี้ ความสามารถในการปลอมแปลงเช็คของแฟรงค์ทำให้เขาโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้กว่า 4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ในเวลาต่อมาเมื่อเช็คปลอมเหล่านั้นเด้ง ตำรวจจึงเริ่มหันมาจับตามองมากขึ้น แฟรงค์จึงไม่สามารถอยู่นิวยอร์คได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจปลอมเป็นนักบินแล้วเริ่มแผนการโกงครั้งใหม่ด้วยการโทรไปยังแพนแอมซึ่งเป็นสายการบินอเมริกาที่ใหญ่ที่สุด เขาหลอกว่าตัวเองเป็นนักบินของบริษัทและเครื่องแบบนักบินของเขาหายไปกับแผนกซักรีดของโรงแรม บริษัทจึงติดต่อไปยังผู้รับผิดชอบเรื่องเครื่องแบบ และให้เครื่องแบบเขามาง่ายๆ โดยที่เขาไม่ต้องเสียเงินเลย
แฟรงค์อายุ 16 ถ่ายคู่แอร์โฮสเตสสาวสายการบินแพนแอม
นอกจากบทบาทนักบินแล้ว แฟรงค์ยังหาใบประกอบวิชาชีพอื่นๆ ให้ตัวเอง เขาเข้ารับหน้าที่ดูแลแผนกกุมารเวชทั้งแผนกของศูนย์การแพทย์ใกล้เมืองแอตแลนต้า ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนแพทย์มาก่อน และต่อมาเขายังปลอมเป็นทนายที่มีใบอนุญาตว่าความจนได้รับการว่าจ้างจากสำนักงานอัยการของรัฐทางใต้รัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ท้ายที่สุดเขาผ่านการสอบเป็นเนติบัณทิตได้สำเร็จ โดยไม่เคยเรียนกฎหมายเสียด้วยซ้ำ และยังมีอีกหลายๆ อาชีพที่เขาเคยหลอกลวงผู้คน เพียงแต่ถ้าเขาต้องการ เขาก็สามารถเป็นได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ
การก่ออาชญากรรมของแฟรงค์ อบาเนล ได้สิ้นสุดลงเมื่อแอร์โฮสเตสสายการบินแอร์ฟรานซ์เกิดจำหน้าเขาขึ้นมาได้จากหมายประกาศจับของทางการ โดยตำรวจฝรั่งเศสเป็นผู้รวบตัวเขาไว้ได้ แฟรงค์ถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี ต่อมาปี 1974 เขาได้รับโอกาสให้ทำคุณไถ่โทษ เขาจึงกลายมาเป็นที่ปรึกษาของเอฟบีไอในการจัดการกับพวกอาชญากรที่ทำผิดในแบบที่เขาเคยทำ และกลายมาเป็นผู้บรรยายให้แก่บริษัทประกันและธนาคารต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันการปลอมเช็คในปัจจุบัน
จากปัญหาภายในครอบครัว เป็นสาเหตุที่ทำให้แฟรงค์ก่อปัญหาระดับชาติตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบปี แต่จุดจบของแฟรงค์ไม่ได้จบลงด้วยความตายเหมือนอาชญากรระดับโลกหลายคน เพียงแต่สิ้นอิสรภาพในคุก แม้ตัวเขาจะเป็นที่ต้องการของหลายประเทศที่ถูกเขาต้มตุ๋นในการนำตัวเขามาขึ้นศาลในประเทศของตน แต่เรื่องราวของเขากลับเป็นที่โจทย์ขาน ถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือ รวมทั้งนำมาทำเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ทั่วโลกรูัจักเขาดีในชื่อเรื่อง "Catch me if you can"
อ้างอิง
Frank W. Abagnale. Catch me if you can. แปลโดย โรจนา นาเจริญ. พิมพ์ครั้งที่ 29. กรุงเทพฯ. มติชน
(ม.ป.ป.). เรื่องจริงของนักต้มตุ๋น. เข้าถึงเมื่อ 13 สิงหาคม 2558, จาก http://ohx3.exteen.com/20061220/frank-abagnale-jr
ลูกเสือหมายเลข 9. (2007). แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น. เข้าถึงเมื่อ 13 สิงหาคม 2558, http://www.oknation.net/blog/chai/2008/06/05/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น