โดย ศุภนิดา วัฒนานนท์
ไม่ว่าจะอยู่ในยุคปัจจุบันหรืออดีต การศึกษาก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเละเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย ยุโรปในสมัยกลางได้มีการสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลในยุคนั้นได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียน มหาวิทยาลัยจึงนับเป็นมรดกที่สำคัญของยุโรปในสมัยกลาง และเป็นผลิตผลโดยตรงของสังคมเมือง
มหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากการขยายตัวและพัฒนาการของโรงเรียนวัด ซึ่งเป็นสถานที่อบรมสั่งสอนพระหรือนักบวช และโรงเรียนมหาวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ให้การอบรมสั่งสอนทั้งนักบวชและประชาชนทั่วไป โดยมีมหาวิทยาลัยปารีสเป็นผู้นำทางภาคเหนือ และมหาวิทยาลัยโบโลญญาเป็นผู้นำทางภาคใต้ นักศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นพระหรือลูกหลานขุนนางและพ่อค้า
มหาวิทยาลัยเจริญเติบโตในเวลาอันรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมือง สงครามครูเสดและการรับความรู้ใหม่ๆ จากทางยุโรปตะวันออกและเอเชียไมเนอร์ เช่น วิชาปรัชญา วิชาคณิตศาสตร์ วิชานิติศาสตร์ วิชาแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยในระยะแรกเริ่มมีหลักสูตรที่แน่นอน และนำเอาระบบสมาคมอาชีพมาใช้ในการฝึกหัดนักศึกษา
การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในสมัยกลางเจริญแพร่หลายอย่างกว้างขวาง มีมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งในยุโรปสมัยกลางมากมายที่ยังคงมีชื่อเสียงอยู่ในทุกวันนี้ เช่น มหาวิทยาลัยปารีส โบโลญญา ปาดัว ออกซฟอร์ดและเคมบริดจ์
ความรู้ที่คนสมัยก่อนได้คิดค้นขึ้น ได้ถ่ายทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ให้ได้ใช้ประโยชน์และยังก่อประโยชน์มากมายจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในยุโรปสมัยกลางนั้นจะถือว่าเป็นยุคมืด เป็นยุคที่บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย แต่นั่นก็เป็นแรงจูงใจหลายๆ อย่างให้มีการสร้างความเจริญทางด้านการศึกษาขึ้น หากไม่มีคนสมัยก่อนที่ได้สร้างความรู้มากมาย ปัจจุบันนี้ก็จะไม่มีมรดกทางความรู้ไว้ให้สืบทอดต่อไปได้เลย
อ้างอิง
ไพฑูรย์ มีกุศลและคณะ. สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เล่ม6. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ วัฒนาพาณิชย์
Dek-saboo. พัฒนาการของยุโรปสมัยกลาง. สืบค้นเมื่อ 7 มกราคม 2557, from http://writer.dek-d.com/deksaboo/story/viewlongc.php?id=773359&chapter=9
ไม่ว่าจะอยู่ในยุคปัจจุบันหรืออดีต การศึกษาก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเละเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย ยุโรปในสมัยกลางได้มีการสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลในยุคนั้นได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียน มหาวิทยาลัยจึงนับเป็นมรดกที่สำคัญของยุโรปในสมัยกลาง และเป็นผลิตผลโดยตรงของสังคมเมือง
มหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากการขยายตัวและพัฒนาการของโรงเรียนวัด ซึ่งเป็นสถานที่อบรมสั่งสอนพระหรือนักบวช และโรงเรียนมหาวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ให้การอบรมสั่งสอนทั้งนักบวชและประชาชนทั่วไป โดยมีมหาวิทยาลัยปารีสเป็นผู้นำทางภาคเหนือ และมหาวิทยาลัยโบโลญญาเป็นผู้นำทางภาคใต้ นักศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นพระหรือลูกหลานขุนนางและพ่อค้า
มหาวิทยาลัยเจริญเติบโตในเวลาอันรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมือง สงครามครูเสดและการรับความรู้ใหม่ๆ จากทางยุโรปตะวันออกและเอเชียไมเนอร์ เช่น วิชาปรัชญา วิชาคณิตศาสตร์ วิชานิติศาสตร์ วิชาแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยในระยะแรกเริ่มมีหลักสูตรที่แน่นอน และนำเอาระบบสมาคมอาชีพมาใช้ในการฝึกหัดนักศึกษา
การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในสมัยกลางเจริญแพร่หลายอย่างกว้างขวาง มีมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งในยุโรปสมัยกลางมากมายที่ยังคงมีชื่อเสียงอยู่ในทุกวันนี้ เช่น มหาวิทยาลัยปารีส โบโลญญา ปาดัว ออกซฟอร์ดและเคมบริดจ์
ความรู้ที่คนสมัยก่อนได้คิดค้นขึ้น ได้ถ่ายทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ให้ได้ใช้ประโยชน์และยังก่อประโยชน์มากมายจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในยุโรปสมัยกลางนั้นจะถือว่าเป็นยุคมืด เป็นยุคที่บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย แต่นั่นก็เป็นแรงจูงใจหลายๆ อย่างให้มีการสร้างความเจริญทางด้านการศึกษาขึ้น หากไม่มีคนสมัยก่อนที่ได้สร้างความรู้มากมาย ปัจจุบันนี้ก็จะไม่มีมรดกทางความรู้ไว้ให้สืบทอดต่อไปได้เลย
อ้างอิง
ไพฑูรย์ มีกุศลและคณะ. สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เล่ม6. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ วัฒนาพาณิชย์
Dek-saboo. พัฒนาการของยุโรปสมัยกลาง. สืบค้นเมื่อ 7 มกราคม 2557, from http://writer.dek-d.com/deksaboo/story/viewlongc.php?id=773359&chapter=9
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น