เมืองลียง (Lyon)

โดย ณัชฌานนท์  ผุยปุโรย

ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่หากพูดถึงประเทศฝรั่งเศสแล้ว หลายๆ คนอาจจะนึกถึง ปารีส ซึ่งเป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศส ที่มีหอไอเฟล ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้   แต่นอกจากนี้ประเทศฝรั่งเศสยังมีเมืองต่างๆที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามอีกมากมายหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือจะเป็นสิ่งก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมต่างๆที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน

วันนี้จะขอแนะนำสถานที่ให้ทุกคนในรู้จัก สถานที่ที่เป็นดั่งเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม นั่นก็คือ…..“เมืองลียง (Lyon)” นั่นเอง หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักไม่คุ้นหูกับชื่อสถานที่นี้สักเท่าไร แต่ถ้าหากได้รู้จักสถานที่แห่งนี้แล้วจะทำให้ทุกคนตกหลุมรักและอยากไปสัมผัสบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

เมืองลียงถูกก่อตั้งขึ้นโดยพวกโรมันในคริสตศตวรรษที่ 1 เป็นเมืองอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโรน และเมืองหลวงของแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ ตั้งอยู่ระหว่างปารีสกับมาร์แซย์ โดยอยู่ห่างจากปารีส 470 กิโลเมตร เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของฝรั่งเศสรองจากปารีสและมาร์แซย์ โดยมีแม่น้ำสองสายได้แก่ แม่น้ำซาโอน (Saône) และแม่น้ำโรห์น (Rhône) ไหลผ่านใจกลางเมืองแล้วบรรจบกันทางใต้ของเมือง ทำให้ลียงมีทัศนียภาพแบบเกาะกลางน้ำอยู่ใจกลางเมือง และยังมีเนินเขาขนาดใหญ่ทางด้านฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเมืองอีกด้วย

จากการจัดอันดับของ Tripadvisor เมืองลียงถูกเลือกให้เป็นเมืองยอดนิยมอันดับ 3 รองจากปารีส และนีซ โดยลียงเป็นเมืองสำคัญทางธุรกิจ และมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมและสถานที่ต่างๆทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการทอผ้าไหมโบราณ และได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1998 ในคริสตศตวรรษที่ 20 เมืองลียงยังเป็นส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ โดยเป็นบ้านเกิดของพี่น้องลูมิแยร์ (โอกุสต์ ลูมิแยร์ และหลุยส์ ลูแมร์) ผู้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ในลียง ซึ่งทุกวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปีจะมีเทศกาล Fête des Lumières หรือเทศกาลแห่งแสงสว่าง ทำให้ลียงได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองหลวงแห่งแสงสว่าง อีกด้วย

ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/
เมืองลียงนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย สำหรับที่แรกที่จะขอแนะนำนั่นก็คือ ศาลเมืองลียง (Lyon Courthouse - Palais de Justice) เป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่ออกแบบสไตล์นีโอคลาสสิก สร้างขึ้นในปี 1835 ซึ่งถูกยกให้เป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมชิ้นหนึ่ง โดยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ เสาที่มีอยู่จำนวนมาก หัวเสาเป็นแบบโครินเธียน โดยมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "พระราชวังแห่งเสา 24 ต้น (Palace of the Twenty-Four Columns) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของการออกแบบแบบนีโอคลาสสิก โดยสถาปนิกนามว่า หลุยส์-ปิแอร์ บัลตาร์ด (L-P. Baltard) เป็นผู้ออกแบบอาคารซึ่งใช้เวลากว่าทศวรรษจึงสร้างเสร็จ โดยศาลแห่งนี้เป็นที่ตัดสินคดีดังๆ มาแล้วหลายคดีด้วยกัน

ที่มา : http://www.overline-systems.com/
สถานที่ต่อมามีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมไม่แพ้กันนั่นก็คือ โอเปราลียง (Opéra de Lyon) เป็นโรงละครโอเปร่าที่ใช้จัดการแสดงหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โอเปรา บัลเลต์ และอื่นๆ โรงละครแห่งนี้มีการตกแต่งในแบบศตวรรษที่ 19 ผสมผสานกับรูปทรงทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้อาคารมีความสะดุดตา โครงสร้างสถาปัตยกรรมเป็นแบบคลาสสิกดั้งเดิม โดยส่วนหน้าอาคารจะตัดกับหลังคากระจกที่มีความทันสมัย ลักษณะของหลังคาจะเป็นหลังคาโค้งและยังมีชั้นใต้ดินซึ่งจะช่วยทำให้โรงละครโอเปร่าแห่งนี้มีพื้นที่ที่กว้างขวาง ซึ่งภายในด้านในอาคารจะมีสถานที่จัดแสดง 2 แห่ง ได้แก่ ห้องรูปทรงเกือกม้า และห้องทรงครึ่งวงกลมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเกรโก-โรมัน

และสถานที่สุดท้ายที่จะขอแนะนำก็คือ…

ที่มา: http://www.fourviere.org/
โบสถ์นอเทอร์ดาม (Notre Dame Basilica) ตั้งอยู่บนเนินเขาฟูร์วิแยร์ (Fourvière) สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากและถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ของชาวโรมันโบราณในปี 1896 โดยผสมผสานศิลปะไบแซนไทน์และโรมาเนสก์เข้าด้วยกัน ซึ่งรับเงินสนับสนุนจากการบริจาคและสร้างขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจของโบสถ์คาทอลิกต่ออำนาจของฝ่ายอาณาจักร และเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระเจ้า ซึ่งลักษณะของอาคารจะมีรายละเอียด คือ ส่วนของด้านบนจะมีหอคอยทรงแปดเหลี่ยม 4 หลัง มีหอระฆังหนึ่งหลังซึ่งมีรูปปั้นพระแม่มารีทองคำ ต่อมาในส่วนของด้านในจะมีรายละเอียดที่ค่อนข้างซับซ้อน มีการตกแต่งที่ประดับด้วยทอง กระจกสี กระเบื้องโมเสก และภาพปูนปั้นสีสันสวยงามไปทั่วบริเวณ และยังมีชั้นล่างที่เป็นห้องเก็บโลงศพของ Saint-Jean อีกด้วย โบสถ์แห่งนี้ถึงแม้ว่าด้านนอกจะดูเรียบๆ แต่ด้านในนั้นกลับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังโบสถ์นอเทอร์ดามอาจจะมีความลำบากเล็กน้อย แต่ก็มีบริการกระเช้าไฟฟ้าสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังไม่เก็บค่าเข้าชมอีกด้วย

นอกจากสถานที่ที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่สวยงามและยังมีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ มีคุณค่าทางด้านศิลปกรรม และความสวยงามทางธรรมชาติที่หลายๆคนยังไม่เคยไปสัมผัสที่เมืองแห่งนี้ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศแต่กลับไม่นำเอาการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาสิ่งต่างๆของโลกมาส่งผลกระทบให้คุณค่าความงามของสิ่งที่ตนเองมีหายไป ซึ่งนี่ก็คือ “เมืองลียง”


อ้างอิง

ท่องเที่ยวลียง เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2560 จาก : http://thairats.com/

ลียง. สืบค้นเมื่อ วันที่19 กันยายม 2560 จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/

ไพลิน  ปีติสันต์. (2555). เที่ยวฝรั่งเศส เมืองในฝัน. นนทบุรี: ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น