โดย กนกพล ภูมิพันธุ์
ในการค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์พบว่ามีการค้นพบมากมายของสัญลักษณ์แมลงซแคแร็บหรือตราประทับต่างๆ ทั้งในพีรามิดและมัมมี่ ซึ่งการค้นพบนี้เชื่อโยงกับความเชื่อของคนอียิปต์ในอดีตเกี่ยวกับการนับถือสิ่งมีชีวิตอย่างไร สำคัญมากแค่ไหน และเหตุผลใดผู้คนในอดีตจึงนับถือแมลงซแคแร็บนี้ราวกับเทพเจ้า
Sacarab เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งของผู้คนอียิปต์ในสมัยโบราณโดยเป็นเครื่องหมายของเทพ Khepri ที่เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์โดยมีความหมายถึงการเกิดใหม่ เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีชาวอียิปต์เชื่อว่าเทพราที่ข้ามผ่านในแต่ล่ะวันทำเกิดร่างกายและจิตวิญญาณ ซึ่งโดยธรรมชาติของแมลงซแคแร็บนี้จะปั้นก้อนดินที่ภายมีไข่ของมันอยู่ข้างไหนและกลิ้งไปข้างหลังเรื่อยๆเผื่อสะสมอาหารและเมื่อไข่ฝักออกมาก็จะมีอาหารเพื่อมันอยู่ทันที ชาวอียิปต์เชื่อว่าเทพ Khepri จะสร้างดวงอาทิตย์ใหม่ในแต่วันและจะนำมันไปโลกอื่นเมื่อหมดวัน ทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆเช่นเดียวกับแมล็งซแคแร็บ เราจึงสามารถพบเห็นสัญญาลักษณ์ของเทพ Khepri ได้โดยมีตัวเหมือนเทพราแต่มีหน้าเป็นscarab
ชาวอียิปต์ในสมัยโบราณนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับโลกหลังความตายว่าเมื่อตายไปแล้วสักวันหนึ่งวิญญาณจะกลับมาสู่ร่างจึงมีการทำมัมมี่ไว้อย่างมากมาย และscarabนี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่จึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สามารถพบได้มากมายในพีรามิดและมัมมี่ซึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีเราสามารถจัดรูปแบบของscarabได้ 3ประเภทด้วยกันคือhearth scarab, pectoral scarab และ naturalistic scarab
1. Hearth scarab เป็นที่นิยมมากในช่วงอาณาจักรใหม่ตอนต้นจนถึงก่อนสมัยหลังราชวงศ์โดยทั่วไปแล้วมีขนาดใหญ่ 4-12 cm ทำจากหินสีเขียวหรือสีดำ โดยด้านหลังสลักไว้ด้วยอักษรภาพที่เป็นชื่อของผู้ล่วงลับหรือคาถาบางอย่าง hearth scarab มักจะถูกแขวนรอบๆคอมัมมี่ด้วยสายทองคำและตัว scarabด้วยกรอบทองคำ
2. Pectoral scarab พบเมื่อราชวงศ์ที่ 25 มีขนาดประมาณ3-8cm โดยจะมีรูที่ขอบของ scarab ในหน้าอกของมัมมี่พร้อมกับปีกที่แผ่ออกทั้ง 2 ข้างโดยสิ่งที่มักจะปรากฏคู่กันคือสัญลักษณ์ของเทพ Khepri
3. Naturalistic scarab มีขนาดเล็กประมาณ2-3 cm ทำจากหินหลากชนิดโดยการสลักเป็น3มิติ scarab ชนิดนี้มักจะถูกทำเพื่อปกป้องมัมมี่
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่า scarab มักจะจารึกไว้พร้อมกับชื่อของกษัตริย์ ราชินี หรือ ราชวงศ์ ในทางอื่นๆ scarab จะถูกพบว่าแบกชื่อของฟาโรห์ในสมัยอาณาจักรเก่าโดยเฉพาะฟาโรห์ที่เป็นที่รู้จักดี ฟาโรห์คูฟู ในการค้นพบที่ใกล้เคียงกันคือการที่ scarab แบกบัลลังของกษัตริย์อาณาจักรใหม่ ฟาโรห์ Thuthmosis ที่ 3 ในตอนนี้ความสำคัญของscarabที่แบกชื่อของราชวงศ์ยังไม่เป็นที่กระจ่าง อาจจะเป็นการสรรเสริญผู้ปกครองในช่วงที่ยังมีชีวิตหรือหลังจากนั้น หรือบางทีอาจหมายถึงของขวัญเฉพาะราชวงศ์
ท้ายที่สุดนี้ scarab ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอียิปต์โบราณที่ผู้คนล้วนรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้า ศรัทธาอย่างล้นลาม ทำให้ชาวอียิปต์โบราณสร้างสรรค์สิ่งล้ำค่าและตกทอดมาสู่ชนรุ่นหลังอย่างมาย
อ้างอิง
Antonia Antoniou. (22febgruary 2015). Scarab amulets bless or curse . เรียกใช้เมื่อ 26 february 2017 จาก scarabmyth.wordpress.com: https://scarabmyth.wordpress.com/2015/02/22/hello-world/
Elaine A. Evans. (17 April 1996). McClungMuseam . เรียกใช้เมื่อ 26 February 2017 จาก http://museum.unl.edu/research/entomology/Egyptian_Sacred_Scarab/egs-text.htm
wikipedia . (20 january 2017). wikipedia the free encyclopedia. เรียกใช้เมื่อ 26 february 2017 จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Scarab_(artifact)
ในการค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์พบว่ามีการค้นพบมากมายของสัญลักษณ์แมลงซแคแร็บหรือตราประทับต่างๆ ทั้งในพีรามิดและมัมมี่ ซึ่งการค้นพบนี้เชื่อโยงกับความเชื่อของคนอียิปต์ในอดีตเกี่ยวกับการนับถือสิ่งมีชีวิตอย่างไร สำคัญมากแค่ไหน และเหตุผลใดผู้คนในอดีตจึงนับถือแมลงซแคแร็บนี้ราวกับเทพเจ้า
Sacarab เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งของผู้คนอียิปต์ในสมัยโบราณโดยเป็นเครื่องหมายของเทพ Khepri ที่เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์โดยมีความหมายถึงการเกิดใหม่ เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีชาวอียิปต์เชื่อว่าเทพราที่ข้ามผ่านในแต่ล่ะวันทำเกิดร่างกายและจิตวิญญาณ ซึ่งโดยธรรมชาติของแมลงซแคแร็บนี้จะปั้นก้อนดินที่ภายมีไข่ของมันอยู่ข้างไหนและกลิ้งไปข้างหลังเรื่อยๆเผื่อสะสมอาหารและเมื่อไข่ฝักออกมาก็จะมีอาหารเพื่อมันอยู่ทันที ชาวอียิปต์เชื่อว่าเทพ Khepri จะสร้างดวงอาทิตย์ใหม่ในแต่วันและจะนำมันไปโลกอื่นเมื่อหมดวัน ทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆเช่นเดียวกับแมล็งซแคแร็บ เราจึงสามารถพบเห็นสัญญาลักษณ์ของเทพ Khepri ได้โดยมีตัวเหมือนเทพราแต่มีหน้าเป็นscarab
ชาวอียิปต์ในสมัยโบราณนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับโลกหลังความตายว่าเมื่อตายไปแล้วสักวันหนึ่งวิญญาณจะกลับมาสู่ร่างจึงมีการทำมัมมี่ไว้อย่างมากมาย และscarabนี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่จึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สามารถพบได้มากมายในพีรามิดและมัมมี่ซึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีเราสามารถจัดรูปแบบของscarabได้ 3ประเภทด้วยกันคือ
1. Hearth scarab เป็นที่นิยมมากในช่วงอาณาจักรใหม่ตอนต้นจนถึงก่อนสมัยหลังราชวงศ์โดยทั่วไปแล้วมีขนาดใหญ่ 4-12 cm ทำจากหินสีเขียวหรือสีดำ โดยด้านหลังสลักไว้ด้วยอักษรภาพที่เป็นชื่อของผู้ล่วงลับหรือคาถาบางอย่าง hearth scarab มักจะถูกแขวนรอบๆคอมัมมี่ด้วยสายทองคำและตัว scarabด้วยกรอบทองคำ
2. Pectoral scarab พบเมื่อราชวงศ์ที่ 25 มีขนาดประมาณ3-8cm โดยจะมีรูที่ขอบของ scarab ในหน้าอกของมัมมี่พร้อมกับปีกที่แผ่ออกทั้ง 2 ข้างโดยสิ่งที่มักจะปรากฏคู่กันคือสัญลักษณ์ของเทพ Khepri
3. Naturalistic scarab มีขนาดเล็กประมาณ2-3 cm ทำจากหินหลากชนิดโดยการสลักเป็น3มิติ scarab ชนิดนี้มักจะถูกทำเพื่อปกป้องมัมมี่
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่า scarab มักจะจารึกไว้พร้อมกับชื่อของกษัตริย์ ราชินี หรือ ราชวงศ์ ในทางอื่นๆ scarab จะถูกพบว่าแบกชื่อของฟาโรห์ในสมัยอาณาจักรเก่าโดยเฉพาะฟาโรห์ที่เป็นที่รู้จักดี ฟาโรห์คูฟู ในการค้นพบที่ใกล้เคียงกันคือการที่ scarab แบกบัลลังของกษัตริย์อาณาจักรใหม่ ฟาโรห์ Thuthmosis ที่ 3 ในตอนนี้ความสำคัญของscarabที่แบกชื่อของราชวงศ์ยังไม่เป็นที่กระจ่าง อาจจะเป็นการสรรเสริญผู้ปกครองในช่วงที่ยังมีชีวิตหรือหลังจากนั้น หรือบางทีอาจหมายถึงของขวัญเฉพาะราชวงศ์
ท้ายที่สุดนี้ scarab ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอียิปต์โบราณที่ผู้คนล้วนรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้า ศรัทธาอย่างล้นลาม ทำให้ชาวอียิปต์โบราณสร้างสรรค์สิ่งล้ำค่าและตกทอดมาสู่ชนรุ่นหลังอย่างมาย
อ้างอิง
Antonia Antoniou. (22
Elaine A. Evans. (17 April 1996). McClung
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น