โค้งแหลม (Pointed arch) ตามแบบศิลปะโกธิค

โดย สุพพัตรา สมานสิทธิ์

หากกล่าวถึงมรดกทางอารยธรรมในอดีตที่ตกทอดมายังปัจจุบัน เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า อารยธรรมที่มีในปัจจุบันนี้ เราไม่ได้รับอิทธิพลแนวคิดจากมรดกอารยธรรมในอดีต เพราะไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ จิตรกรรมหรือการสร้างสถาปัตยกรรมเองก็ตามล้วนแต่รับอิทธิพลจากอดีตทั้งสิ้นโดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงและปรับรูปแบบให้เป็นไปตามวิถีชีวิตและสังคมหรือเหตุการณ์ในสมัยนั้นๆ

ในสมัยกลางก็เช่นเดียวกัน แม้สมัยนี้จะเรียกได้ว่าเป็นยุคที่มีแต่ความแตกแยกเกิดสงครามที่ยาวนาน เช่น สงครามครูเสด(ค.ศ.1095-1291) แต่สิ่งที่ตามมาก็คือศิลปะเพื่อศาสนาโดยเรียกศิลปะนั้นว่า ศิลปะแบบโกธิก (Gothic Art) มีการสร้างโบสถ์ วิหารโดยใช้สถาปัตยกรรมที่มีลักษณะที่เน้นโครงสร้างสูงชะลูด มีเส้นโค้งปลายแหลม ที่เรียกว่า โค้งแหลม (Pointed Arch)

โค้งแหลมดังกล่าวมีพัฒนาการมาจากโค้งธรรมดา ( Arch ) ลักษณะเป็นโค้งยอดแหลมที่คล้ายเส้นโค้งสองเส้นตัดกันแทนส่งผลให้อาคารดูมีน้ำหนักเบา ตัวอาคารมีรูปร่างสูงระหงขึ้นสู่เพดานโล่งโปร่งไม่ทึบ ทำให้สร้างวิหารได้สูงมากยิ่งขึ้น สามารถให้แสงสว่างภายในวิหารได้เต็มที่อีกด้วย ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่ใช้ โค้งปลายแหลม หรือ Pointed Arch ก็ได้แก่ มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส มหาวิหารแร็งส์ เป็นต้น

ด้วยรูปทรงที่แปลกจากรูปแบบเดิมของสถาปัตยกรรมโกธิคที่มีความต่างจากส่วนโค้งธรรมดาเป็นเส้นโค้งที่ปลายแหลม หรือ Pointed Arch จึงทำให้ความสวยงามของวิหารแบบโกธิคได้รับการยกยองว่าเป็นสัญลักษณ์ของยุคกลางซึ่งมีความยิ่งใหญ่ สูงสง่าและสวยงาม ทำให้สถาปัตยกรรมดังกล่าวนั้นกลายมาเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมในยุคต่อมาและตกทอดเป็นมรดกทางอารยธรรมมาจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิง

อัธยา โกมลกาญจน. (2541). อารยธรรมตะวันตก. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

รัตนาวดี พิมทะโนทัย, (2553).  ศิลปะสากลสมัยกลาง (Middle Age). Retrieved 7 มกคราคม 2557, from http://artdsr-whitebear602-28.blogspot.com/p/blog-page_17.html

Nat. (2553). สถาปัตยกรรมฟื้นฟูโกธิค (Gothic Revival architecture). Retrieved 7 มกคราคม 2557, from  http://yn-nat.blogspot.com/2010/09/gothic-revival-architecture.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น