โดย นิธิศ พัวตะนะ
กรีกเป็นอารยธรรมที่มีพัฒนาการที่น่าทึ่งในหลายๆ ด้าน รวมถึงเครื่องเรือนอันเป็นรากฐานของสิ่งที่ใช้สอยกันอยู่ในปัจจุบันนี้ แม้ไม่ได้สร้างด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเหมือนอย่างเครื่องเรือนในปัจจุบัน เครื่องเรือนในสมัยกรีกก็สะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาในด้านประโยชน์ใช้สอยของผู้คนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี
เครื่องเรือนสมัยกรีกทำจากไม้เป็นหลัก แต่บางส่วนก็มีหิน หินอ่อน หรือโลหะ เช่น สัมฤทธิ์ เงิน หรือแม้แต่ทองคำ ประกอบอยู่ด้วย ในปัจจุบันแทบไม่มีเครื่องเรือนที่ทำจากไม้หลงเหลืออยู่แล้ว แต่ก็ยังสามารถพบหลักฐานเกี่ยวกับชื่อหรือลักษณะของเครื่องเรือนเหล่านี้ได้ในเอกสารต่างๆ รวมถึงภาพวาดในยุคนั้นเองก็มีเครื่องเรือนเหล่านี้ปรากฏอยู่
ไม้ที่นำมาทำเครื่องเรือนประกอบด้วยโอ๊ค เมเปิล บีช ยิว และวิลโลว์ ไม้เหล่านี้จะถูกตัดแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนหลายชิ้น จากนั้นช่างก็จะทำการเจาะช่องในไม้ท่อนหนึ่ง และแกะเดือยบนไม้อีกท่อนหนึ่ง เพื่อให้นำมาประกอบกันได้ จากนั้นก็จะยึดให้แน่นด้วยเชือก หมุด ตะปูโลหะ และกาว การจัดรูปทรงชิ้นงานให้ได้ตามต้องการจะทำด้วยการแกะสลัก และการอบไอน้ำ วัสดุที่นิยมใช้ประดับตกแต่งเครื่องเรือนประกอบด้วยเขี้ยวสัตว์ กระดองเต่า แก้ว ทองคำ หรือวัตถุมีค่าอื่นๆ บางครั้งไม้ที่นำมาทำเป็นเครื่องเรือนเองก็มีราคาแพงเพื่อให้เครื่องเรือนดูมีราคามากขึ้น (Wikipedia 2014)
ที่มา: http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c0/Greek_furniture_004.jpg
ลักษณะของเครื่องเรือนในสมัยกรีกมักเป็นทรงสี่เหลี่ยม เช่น เก้าอี้ ม้านั่งยาว ส่วนขาของเครื่องเรือนมีทั้งแบบตรงและโค้ง โดยมากเครื่องเรือนของกรีกเป็นแบบเรียบง่าย ดูสง่า อาจมีการแกะสลักลวดลายหรือตัวอักษรลงไปบนเนื้อไม้เป็นการตกแต่ง แต่จะไม่ทำให้มากจนเกินไป โดยภาพรวมแล้วภายในบ้านเรือนของกรีกจะมีเครื่องเรือนไม่มาก และเครื่องเรือนที่มีก็เพื่อประโยชน์ใช้สอยมากกว่าการประดับตกแต่ง
ในยุคแรกเริ่มนั้นรูปแบบเครื่องเรือนของกรีกได้รับมาจากอียิปต์โบราณในช่วงเวลาเดียวกัน ที่เห็นได้ชัดคือแนวคิดนิยมรูปเหลี่ยมมากกว่าความโค้งเว้า แต่ด้วยความที่กรีกมีทรัพยากรไม้ที่อุดมสมบูรณ์กว่า ทำให้เครื่องเรือนในกรีกมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จนมาถึงยุคคลาสสิคที่เกิดความโค้งเว้าอันเป็นเอกลักษณ์ของกรีกขึ้นมา (International Styles 2014)
ที่มา: http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/23/Greek_furniture_002.jpg
เครื่องเรือนสมัยกรีกที่ใช้กันแพร่หลายมี 5 ประเภทหลัก ประกอบด้วย แท่นนั่ง ม้านั่งยาว โต๊ะเล็ก หีบ และเก้าอี้ แต่ละชิ้นมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (International Styles 2014, Naillon 2014, Wikipedia 2014)
แท่นนั่งแบ่งออกเป็นสามชนิด ชนิดแรกดูคล้ายโต๊ะเล็ก พื้นด้านบนเรียบตรง ขาตรงสี่ขา ไม่มีพนักพิง ชื่อเรียกในภาษากรีกคือ Bathron ชนิดที่สองมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีขาเป็นรูปทรงขาสัตว์หันเข้าด้านใน ที่ปลายขาเป็นอุ้งเท้าสิงโต ใช้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ชื่อเรียกในภาษากรีกคือ Diphros okladis ชนิดที่สามใช้เฉพาะในหมู่คนมีฐานะ คือ Thronos หรือ Throne (บัลลังก์) ในปัจจุบัน มักใช้เป็นที่นั่งของบุคคลที่สำคัญที่สุดในสถานที่หรือพิธีการนั้น นอกจากนี้ยังมีแท่นยืนสำหรับใช้เหยียบขึ้นเครื่องเรือนชิ้นอื่น เรียกว่า Theyns
ม้านั่งยาว ในภาษากรีกคือ Kline ใช้สำหรับนอนรับประทานอาหาร พื้นด้านบนเรียบตรง มีพนักพิงที่ปลายด้านหนึ่งตั้งขึ้นสำหรับพิงหลัง Kline ทำจากไม้ ส่วนขามักทำจากสัมฤทธิ์ และมักยกสูงจากพื้นจนบางครั้งต้องใช้แท่นยืน(Theyns)ในการก้าวขึ้น โดยมากแล้วม้านั่งจะวางชิดผนัง มีโต๊ะเล็กสำหรับวางอาหารและเครื่องดื่มอยู่ใกล้ๆ(โต๊ะเล็กนี้มีความสูงน้อยกว่าม้านั่ง เวลาที่ไม่ใช้งานสามารถสอดเก็บใต้ม้านั่งได้) คนมีฐานะมักประดับประดาเครื่องเรือนชิ้นนี้อย่างหรูหรา คนมีเงินเท่านั้นจึงจะสามารถมีเตียงแยกไว้ที่ห้องนอนต่างหาก คนที่ไม่มีทรัพย์สินมากนักจะใช้ม้านั่งทั้งในการรับประทานอาหารและการหลับพักผ่อน
หีบในสมัยกรีกมีหลากหลายขนาดและรูปร่าง ฝาปิดมักเป็นทรงจั่วตกแต่งด้วยการใช้เงินหรือทองคำสลักเป็นลวดลายดอกไม้ ด้วยเหตุนี้หีบจึงถือเป็นเครื่องเรือนที่มีค่า และบ่อยครั้งที่หีบกลายเป็นส่วนหนึ่งของสินสอดทองหมั้นที่ชายชาวกรีกให้กับครอบครัวฝ่ายหญิงสาว สิ่งที่ชาวกรีกบรรจุข้างในหีบประกอบด้วยอัญมณี ของมีค่า ผลไม้ และเครื่องสวมใส่ บางครั้งก็ใช้เป็นโลงศพด้วย (Naillon 2014)
โต๊ะในสมัยกรีกมีขนาดเล็กและเคลื่อนย้ายได้ง่าย พื้นด้านบนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีสามขา สองขาที่ปลายข้างหนึ่งและหนึ่งขาที่ปลายอีกข้างหนึ่ง ชาวกรีกใช้โต๊ะสำหรับวางอาหารและเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว จะไม่ใช้เพื่อวางสิ่งของชิ้นอื่นๆ วัสดุที่ใช้ทำส่วนมากเป็นไม้ แต่ก็มีบางส่วนที่ทำจากสัมฤทธิ์หรือหินอ่อน นับแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลเป็นต้นมา โต๊ะชนิดนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยโต๊ะกลม
เก้าอี้ในสมัยกรีกมีสองชนิด ชนิดแรกมีลักษณะเหมือนกับที่อียิปต์โบราณใช้ คือ แท่นด้านบน พนักพิง และที่วางแขนล้วนเรียบตรงและแข็ง ใช้ในงานพิธีการมากกว่าเพื่อความสะดวกสบาย แต่หลังจาก 500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นต้นมา กรีกได้พัฒนาเก้าอี้ของตัวเองขึ้นมา เรียกว่า Klismos ซึ่งมีรูปทรงโค้งเว้าทั้งขาสี่ข้างและพนักพิง(Stiles) ทำให้สามารถนั่งได้ในอากัปกิริยาที่เป็นธรรมชาติ และเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้นั่ง ยังได้มีการใช้เบาะรองและหนังสัตว์มาปูกับเก้าอี้อีกด้วย เครื่องเรือนชิ้นนี้ส่วนใหญ่จะใช้งานโดยผู้หญิง
โดยภาพรวมแล้วเครื่องเรือนสมัยกรีกมีความคล้ายคลึงกับปัจจุบันทั้งด้านรูปร่างและการใช้สอย ทั้งนี้ก็เพราะเครื่องเรือนในปัจจุบันจำนวนไม่น้อยที่มีรากฐานมาจากอารยธรรมโบราณ นับเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ภูมิปัญญาเมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีก่อนยังหลงเหลือและได้รับการยอมรับในคุณค่าของมันมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง
International Styles. Ancient Greek Furniture. [Online]. Available from:
http://www.furniturestyles.net/ancient/greek/. [Accessed 3rd September 2014].
Naillon, Buffy. About Greek Furniture & Decorative Boxes. [Online]. Available from:
http://www.ehow.com/info_7949730_greek-furniture-decorative-boxes.html/. [Accessed 4th September 2014].
Wikipedia. Ancient Furniture. [Online]. Available from:
http://en.wikipedia.org/wiki/Ancient_furniture#Greek_furniture. [Accessed 3rd September 2014].