โดย คติพจน์ นนทบุตร
ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นเกาะที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ วางตัวตั้งแต่เหนือจรดใต้ด้วยความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 6,800 เกาะ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะมีรูปร่างหน้าตาคล้าย “ม้าน้ำ” ซึ่งมีส่วนหัวของม้าน้ำเป็นเกาะฮอกไกโด และส่วนลำตัวยาว ๆ เป็นเกาะฮอนชู มีส่วนหางและครีบเป็นเกาะชิโกกุและเกาะคิวชู และหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องเล่าถึงความลี้ลับความน่ากลัวเกี่ยวกับอาถรรพ์ เหมือนต้องคำสาปแห่งท้องทะเล ให้เป็นเกาะร้างมาจนถึงปัจจุบันและกระทั่งเกาะนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ เกาะแห่งนั้นมีชื่อว่า “เกาะฮาชิมะ はしま”
เกาะฮาชิมะเป็นเกาะที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งห่างจากเมืองนางาซากิ ประมาณ 15 กิโลเมตร มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นเกาะที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ สมัยที่เกาะฮาชิมะรุ่งเรือง ถูกตั้งชื่อว่า เกาะเรือรบ เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887 และเสร็จใน ค.ศ.1890 ใช้ระยะเวลาในการสร้างในระยะเวลา 3 ปี โดยบริษัทมิตซูบิชิ เกาะนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมถ่านหิน และจุดประสงค์ของการสร้างเกาะ ก็เพราะต้องการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติมาใช้ประโยชน์นั่นก็คือ “แร่ถ่านหินธรรมชาติ” เพื่อนำมาใช้งานและส่งออก ดังนั้นการทำแร่ถ่านหินจึงเกิดขึ้น แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการทำงานก็ต้องมีแรงงาน ผู้คนเริ่มเข้ามาอยู่ ตั้งถิ่นฐานอาศัยทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งครอบครัวของคนงานจนเริ่มหนาแน่น ต่อมาในปี 1890 บริษัท Mitsubishi เห็นว่าเกาะนี้ น่าจะสร้างรายได้มหาศาล จึงตัดสินใจซื้อเกาะแห่งนี้ โดยมีโครงการว่าจะขุดถ่านหินจากทะเลขึ้นมา
ในช่วงปลายของสมัยเอโดะ มีการค้นพบถ่านหินคุณภาพดี หลังจากนั้นตั้งแต่ ค.ศ. 1890 เป็นต้นมา ทั่วพื้นที่ของเกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเหล็ก ในช่วงยุคทองของอุตสาหกรรมถ่านหินนั้นเป็นที่ภาคภูมิใจกันว่าเกาะแห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น เพราะว่าพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะเป็นเหมือง จึงมีการใช้ประโยชน์จากที่ว่างอันน้อยนิด สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และถือเป็นเกาะที่มีการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว พร้อมกับที่เทคโนโลยีการขุดเจาะพัฒนาขึ้นพื้นที่โดยรอบเกาะก็ขยายขึ้นเช่นกัน
เกาะฮาชิมะ มีวัสดุที่ใช้สร้างที่อยู่อาศัย แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก และยังเป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่น โดยโครงสร้าง การก่อสร้างในระยะแรกเป็นการสร้างอาคารเพียง 4 ชั้น แต่ต่อมาก็ต่อเติมจนเป็นอาคาร 7 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มาก ๆ เมื่อเทียบกับตึกในสมัยนั้น และด้วยตัวอาคารที่ยังหลงเหลือซากมาให้พบเห็นจนตอนนี้นี่เองที่เป็นเหมือนตัวจุดประกายให้เห็นถึงภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะเมื่อวันวานสำหรับผู้คนที่มองเข้ามา ซึ่งถ้ามองออกมาจากข้างนอกเกาะ จะพบว่า ลักษณะเด่นของเกาะ ฮาชิมะ เป็นเกาะกลางทะเลที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นภาพเกาะ ที่มีการตกแต่ง คล้ายกับเรือรบลำใหญ่ลอยลำอยู่กลางทะเล เล่ากันว่า ในสมัยสงครามโลก ทางสหรัฐฯ ได้ส่งเรือดำนำมาเพื่อจะเข้าโจมตีญี่ปุ่น แต่ทางทหารอเมริกาได้เห็นเกาะฮาชิมะเป็นเรือรบขนาดใหญ่เลยไม่กล้าเข้าโจมตี และล่าถอยกลับไป ปัจจุบัน เกาะฮาชิมะ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่นและเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
เกาะฮาชิมะนี้เป็นเกาะที่มีทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดของญี่ปุ่นในยุคนั้นและมีลักษณะเหมือนเมืองหลวง แต่เพราะการสั่งปิดเหมืองใน ค.ศ. 1974 ตามนโยบายจัดระบบเรื่องพลังงานของรัฐบาลทำให้เกาะนี้กลายเป็นเกาะร้าง อาคารบ้านเรือนก็เก่าทรุดโทรมลงและถูกสั่งห้ามเข้าใช้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันส่วนหนึ่งของเกาะกำลังได้รับการฟื้นฟูและมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้เข้าไปอีกครั้ง จากความสำเร็จในการรณรงค์ให้อนุรักษ์กุนคังจิมะที่ถูกผลักดันมาตลอดจากกลุ่มชาวเกาะที่เคยอาศัยอยู่ในอดีตทำให้ในปี 2015 เกาะร้างแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
โรงงานและเหมืองต่างๆ ที่ถูกปล่อยร้างมาช้านานในญี่ปุ่น รวมถึงเกาะร้างที่เสมือนป้อมปราการใกล้เมืองนางาซากิ ได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนทั้งประเทศ เพราะเขตอุตสาหกรรมนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเกาะฮาชิมะหรือเกาะเรือรบ เป็น 1 ใน 23 เขตอุตสาหกรรมเก่าแก่ที่ทาง องค์การยูเนสโกยอมรับและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งมรดกโลกแห่งใหม่นี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า มรดกของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคเมจิ
เกาะฮาชิมะ จึงเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่นจากสังคมศักดินาเป็นสังคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และเคยเป็นสถานที่ที่ชาวเกาหลีกับชาวจีนหลายหมื่นคน ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างหนัก เพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมรดกโลกได้รับรองสถานะของเกาะฮาชิมะเป็นมรดกโลก ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ญี่ปุ่นยอมรับในการ กระทำอันโหดร้ายที่เคยก่อไว้กับแรงงานต่างชาตินับหมื่นคนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับเกณฑ์การจดทะเบียนสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมนั้น การที่สิ่งก่อสร้างสักอย่าง จะได้รับการจดทะเบียนนั้น มีหลากหลายเหตุผล มีสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย ที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ ด้านสังคมต่อผู้คนในประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งก่อสร้างมรดกโลกทางวัฒนธรรม อย่างเช่น สะพานทางเชื่อมสู่ปากทางเข้าอุโมงค์ที่ 2 ของเหมือง ตอม่อของสายพานขนส่งถ่านหินที่ได้จากการขุดเจาะ โรงเรียน และโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งร้านค้าขายของ ที่สะท้อนถึงบริบทสังคมในยุคนั้น เกาะฮาชิมะได้รับการจดทะเบียนครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นหลักฐานอย่างดีที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความสำเร็จของการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมในสมัยเมจิของญี่ปุ่น และสามารถต่อยอดไปถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับชาติตะวันตก ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาญี่ปุ่นในยุคนั้นได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเกาะฮาชิมะ จะเป็นเกาะร้าง และถูกทิ้งร้างไว้ จนเกิดความรู้สึกถึงความเฮี้ยน รวมทั้งมีเรื่องเล่าลือถึงอาถรรพ์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามผู้คนหรือนักท่องเที่ยว ก็ยังอยากเข้ามาสัมผัสและเก็บภาพกับสถานที่สุดเฮี้ยนแห่งนี้ ทำให้เกาะฮาชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ที่ต้องมาเยี่ยมชม ด้วยความที่โครงสร้างของเกาะ ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นภาพเกาะ ที่มีการตกแต่ง คล้ายกับเรือรบลำใหญ่ลอยลำอยู่กลางทะเล ซึ่งลักษณะเด่นที่สำคัญ ด้วยความที่โครงสร้าง และวัสดุที่ใช้สร้างเป็นคอนกรีต บวกกับการตกแต่ง ที่มีความอลังการ มหึมา โดดเด่นออกมามากกว่า เกาะอื่นๆ ที่อยู่ใจกลางทะเล ทำให้ เกาะฮาชิมะ เป็นสถานที่สำคัญที่น่ามาเยือนอีกแห่งหนึ่งของโลก
อ้างอิง
รัชวุฒิ www.marumura.com./(2015).มรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น เกาะเรือรบฮาชิมะ (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.marumura.com/
Anngle.(2020). “กุนคังจิมะ” เกาะแห่งซากปรักหักพัง มรดกโลกของนางาซากิ (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://anngle.org/th/j-culture/gunkanjimasekaiisan.html
Dailynews.(2558).เกาะฮาชิมะมรดกโลก (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.dailynews.co.th/article/335746
Hashimaisland.เกาะผีสิง เมืองร้างสุดหลอน ฮะชิมะ หรือ กุงกันจิมะ (Ghost Island หรือ Battleship Island) (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://hashimaisland.blogspot.com/2013/08/blog-post.html?m=1
The 29th Ronin www.marumura.com./(2012).เกาะฮาชิมะ..เกาะเรือรบ อาถรรพ์เมืองบนเกาะร้าง (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.marumura.com/hashima-island
Travel.trueid.net.(2561).เกาะฮาชิมะ ตำนานเกาะร้าง อาถรรพ์ สุดเฮี้ยน ในญี่ปุ่น(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://travel.trueid.net/detail/34a75nrEBQ6
อ่านเพิ่มเติม »
ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นเกาะที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ วางตัวตั้งแต่เหนือจรดใต้ด้วยความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 6,800 เกาะ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะมีรูปร่างหน้าตาคล้าย “ม้าน้ำ” ซึ่งมีส่วนหัวของม้าน้ำเป็นเกาะฮอกไกโด และส่วนลำตัวยาว ๆ เป็นเกาะฮอนชู มีส่วนหางและครีบเป็นเกาะชิโกกุและเกาะคิวชู และหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องเล่าถึงความลี้ลับความน่ากลัวเกี่ยวกับอาถรรพ์ เหมือนต้องคำสาปแห่งท้องทะเล ให้เป็นเกาะร้างมาจนถึงปัจจุบันและกระทั่งเกาะนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ เกาะแห่งนั้นมีชื่อว่า “เกาะฮาชิมะ はしま”
เกาะฮาชิมะ
เกาะฮาชิมะเป็นเกาะที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งห่างจากเมืองนางาซากิ ประมาณ 15 กิโลเมตร มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นเกาะที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ สมัยที่เกาะฮาชิมะรุ่งเรือง ถูกตั้งชื่อว่า เกาะเรือรบ เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887 และเสร็จใน ค.ศ.1890 ใช้ระยะเวลาในการสร้างในระยะเวลา 3 ปี โดยบริษัทมิตซูบิชิ เกาะนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมถ่านหิน และจุดประสงค์ของการสร้างเกาะ ก็เพราะต้องการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติมาใช้ประโยชน์นั่นก็คือ “แร่ถ่านหินธรรมชาติ” เพื่อนำมาใช้งานและส่งออก ดังนั้นการทำแร่ถ่านหินจึงเกิดขึ้น แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการทำงานก็ต้องมีแรงงาน ผู้คนเริ่มเข้ามาอยู่ ตั้งถิ่นฐานอาศัยทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งครอบครัวของคนงานจนเริ่มหนาแน่น ต่อมาในปี 1890 บริษัท Mitsubishi เห็นว่าเกาะนี้ น่าจะสร้างรายได้มหาศาล จึงตัดสินใจซื้อเกาะแห่งนี้ โดยมีโครงการว่าจะขุดถ่านหินจากทะเลขึ้นมา
ทางขวาของภาพ คือซากสะพานทางเชื่อมสู่ปากทางเข้าอุโมงค์ที่ 2 ของเหมือง
ในช่วงปลายของสมัยเอโดะ มีการค้นพบถ่านหินคุณภาพดี หลังจากนั้นตั้งแต่ ค.ศ. 1890 เป็นต้นมา ทั่วพื้นที่ของเกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเหล็ก ในช่วงยุคทองของอุตสาหกรรมถ่านหินนั้นเป็นที่ภาคภูมิใจกันว่าเกาะแห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น เพราะว่าพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะเป็นเหมือง จึงมีการใช้ประโยชน์จากที่ว่างอันน้อยนิด สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และถือเป็นเกาะที่มีการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว พร้อมกับที่เทคโนโลยีการขุดเจาะพัฒนาขึ้นพื้นที่โดยรอบเกาะก็ขยายขึ้นเช่นกัน
เกาะฮาชิมะ มีวัสดุที่ใช้สร้างที่อยู่อาศัย แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก และยังเป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่น โดยโครงสร้าง การก่อสร้างในระยะแรกเป็นการสร้างอาคารเพียง 4 ชั้น แต่ต่อมาก็ต่อเติมจนเป็นอาคาร 7 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มาก ๆ เมื่อเทียบกับตึกในสมัยนั้น และด้วยตัวอาคารที่ยังหลงเหลือซากมาให้พบเห็นจนตอนนี้นี่เองที่เป็นเหมือนตัวจุดประกายให้เห็นถึงภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะเมื่อวันวานสำหรับผู้คนที่มองเข้ามา ซึ่งถ้ามองออกมาจากข้างนอกเกาะ จะพบว่า ลักษณะเด่นของเกาะ ฮาชิมะ เป็นเกาะกลางทะเลที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นภาพเกาะ ที่มีการตกแต่ง คล้ายกับเรือรบลำใหญ่ลอยลำอยู่กลางทะเล เล่ากันว่า ในสมัยสงครามโลก ทางสหรัฐฯ ได้ส่งเรือดำนำมาเพื่อจะเข้าโจมตีญี่ปุ่น แต่ทางทหารอเมริกาได้เห็นเกาะฮาชิมะเป็นเรือรบขนาดใหญ่เลยไม่กล้าเข้าโจมตี และล่าถอยกลับไป ปัจจุบัน เกาะฮาชิมะ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของญี่ปุ่นและเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
เกาะฮาชิมะนี้เป็นเกาะที่มีทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดของญี่ปุ่นในยุคนั้นและมีลักษณะเหมือนเมืองหลวง แต่เพราะการสั่งปิดเหมืองใน ค.ศ. 1974 ตามนโยบายจัดระบบเรื่องพลังงานของรัฐบาลทำให้เกาะนี้กลายเป็นเกาะร้าง อาคารบ้านเรือนก็เก่าทรุดโทรมลงและถูกสั่งห้ามเข้าใช้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันส่วนหนึ่งของเกาะกำลังได้รับการฟื้นฟูและมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้เข้าไปอีกครั้ง จากความสำเร็จในการรณรงค์ให้อนุรักษ์กุนคังจิมะที่ถูกผลักดันมาตลอดจากกลุ่มชาวเกาะที่เคยอาศัยอยู่ในอดีตทำให้ในปี 2015 เกาะร้างแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
มรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น เกาะเรือรบฮาชิมะ
ที่มา: https://www.marumura.com/
โรงงานและเหมืองต่างๆ ที่ถูกปล่อยร้างมาช้านานในญี่ปุ่น รวมถึงเกาะร้างที่เสมือนป้อมปราการใกล้เมืองนางาซากิ ได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนทั้งประเทศ เพราะเขตอุตสาหกรรมนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเกาะฮาชิมะหรือเกาะเรือรบ เป็น 1 ใน 23 เขตอุตสาหกรรมเก่าแก่ที่ทาง องค์การยูเนสโกยอมรับและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งมรดกโลกแห่งใหม่นี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า มรดกของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคเมจิ
เกาะฮาชิมะ จึงเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่นจากสังคมศักดินาเป็นสังคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และเคยเป็นสถานที่ที่ชาวเกาหลีกับชาวจีนหลายหมื่นคน ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างหนัก เพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมรดกโลกได้รับรองสถานะของเกาะฮาชิมะเป็นมรดกโลก ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ญี่ปุ่นยอมรับในการ กระทำอันโหดร้ายที่เคยก่อไว้กับแรงงานต่างชาตินับหมื่นคนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับเกณฑ์การจดทะเบียนสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมนั้น การที่สิ่งก่อสร้างสักอย่าง จะได้รับการจดทะเบียนนั้น มีหลากหลายเหตุผล มีสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย ที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ ด้านสังคมต่อผู้คนในประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งก่อสร้างมรดกโลกทางวัฒนธรรม อย่างเช่น สะพานทางเชื่อมสู่ปากทางเข้าอุโมงค์ที่ 2 ของเหมือง ตอม่อของสายพานขนส่งถ่านหินที่ได้จากการขุดเจาะ โรงเรียน และโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งร้านค้าขายของ ที่สะท้อนถึงบริบทสังคมในยุคนั้น เกาะฮาชิมะได้รับการจดทะเบียนครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นหลักฐานอย่างดีที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความสำเร็จของการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมในสมัยเมจิของญี่ปุ่น และสามารถต่อยอดไปถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับชาติตะวันตก ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาญี่ปุ่นในยุคนั้นได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเกาะฮาชิมะ จะเป็นเกาะร้าง และถูกทิ้งร้างไว้ จนเกิดความรู้สึกถึงความเฮี้ยน รวมทั้งมีเรื่องเล่าลือถึงอาถรรพ์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามผู้คนหรือนักท่องเที่ยว ก็ยังอยากเข้ามาสัมผัสและเก็บภาพกับสถานที่สุดเฮี้ยนแห่งนี้ ทำให้เกาะฮาชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ที่ต้องมาเยี่ยมชม ด้วยความที่โครงสร้างของเกาะ ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นภาพเกาะ ที่มีการตกแต่ง คล้ายกับเรือรบลำใหญ่ลอยลำอยู่กลางทะเล ซึ่งลักษณะเด่นที่สำคัญ ด้วยความที่โครงสร้าง และวัสดุที่ใช้สร้างเป็นคอนกรีต บวกกับการตกแต่ง ที่มีความอลังการ มหึมา โดดเด่นออกมามากกว่า เกาะอื่นๆ ที่อยู่ใจกลางทะเล ทำให้ เกาะฮาชิมะ เป็นสถานที่สำคัญที่น่ามาเยือนอีกแห่งหนึ่งของโลก
อ้างอิง
รัชวุฒิ www.marumura.com./(2015).มรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น เกาะเรือรบฮาชิมะ (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.marumura.com/
Anngle.(2020). “กุนคังจิมะ” เกาะแห่งซากปรักหักพัง มรดกโลกของนางาซากิ (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://anngle.org/th/j-culture/gunkanjimasekaiisan.html
Dailynews.(2558).เกาะฮาชิมะมรดกโลก (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.dailynews.co.th/article/335746
Hashimaisland.เกาะผีสิง เมืองร้างสุดหลอน ฮะชิมะ หรือ กุงกันจิมะ (Ghost Island หรือ Battleship Island) (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://hashimaisland.blogspot.com/2013/08/blog-post.html?m=1
The 29th Ronin www.marumura.com./(2012).เกาะฮาชิมะ..เกาะเรือรบ อาถรรพ์เมืองบนเกาะร้าง (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://www.marumura.com/hashima-island
Travel.trueid.net.(2561).เกาะฮาชิมะ ตำนานเกาะร้าง อาถรรพ์ สุดเฮี้ยน ในญี่ปุ่น(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2563 , จาก : https://travel.trueid.net/detail/34a75nrEBQ6