โดย ชวพล จึงสมาน
ในยุคสมัยใหม่มีลัทธิทางศิลปะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งลัทธิต่างๆอาจจะเกิดจากวิถีชีวิตของคนในสังคม การเมือง อารมณ์ต่าง โดยมีหลายลัทธิที่เป็นลัทธิที่แสดงออกถึงสภาพความจริงของสังคม หนึ่งในลัทธิที่มีอิทธิพลต่อคนในสังคม คือ เอ็กซเพรสชันนิสม์ (Expressionism)
เอ็กซเพรสชันนิสม์ หรือ ลัทธิสำแดงพลังอารมณ์หรือ ลัทธิแสดงพลังอารมณ์(Expressionism) คือขบวนการทางวัฒนธรรมที่เริ่มขึ้นในเยอรมนีเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 วัตถุประสงค์ของขบวนการนี้คือการแสวงหาความหมายของ “ความรู้สึกมีชีวิตชีวา” (being alive) และประสบการณ์ทางอารมณ์แทนความเป็นจริงทางวัตถุ แนวโน้มของศิลปินกลุ่มนี้จะบิดเบือนความเป็นจริงเพื่อที่จะแสดงผลที่มีต่ออารมณ์ และเป็นศิลปะอัตวิสัย (subjective art form)ซึ่งหมายถึง มุมมองหรือความคิดเห็นของบุคคล โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความเชื่อ หรือความต้องการ ซึ่งอาจตรงข้ามกับความเป็นตริงก็ได้
เอ็กซเพรสชันนิสม์ปรากฏในงานศิลปะหลายรูปหลายแบบที่รวมทั้ง จิตรกรรม,วรรณกรรม, การละคร, ภาพยนตร์, สถาปัตยกรรม และ ดนตรี และมักจะเป็นคำที่มีนัยยะถึงอารมณ์รุนแรงภายใน (angst) และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่กลุ่มโฟวิสม์ อุบัติขึ้นที่ฝรั่งเศสและเยอรมัน ก็มีกลุ่มเอ็กซเพรสชั่นนิสม์เกิดขึ้นมาใหม่เหมือนกัน ศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่น รูโอล (Rioalt) โดคอซกา (Kokoschka) เดียโก ริเวรา (Diego Rivera)และ บลูม (Blume)
โดยศิลปินกลุ่มนี้ได้รับอิทธิพลแนวคิด คตินิยมจาก ฟาน กอห์ก และ โกแกงโดยตรงนั่นคือการแสดงออกถึงอารมณ์ภายในอันเร้าร้อนรุนแรง การใช้สีและการตัดเส้นรอบนอก เพื่อให้รูปทรงเด่นชัดและแข็งกร้าว พวกเขาสะท้อนแนวคิดที่เกี่ยวกับสังคม และความเป็นจริงในสังคม ความประทับใจในธรรมชาติชาติลงฉับพลันทั้งความรู้สึกรุนแรง บ้าระห่ำ เกลียดชัง ทารุณ ความเจ็บปวดทางร่างกาย ทรมาน น่าเกลียดน่ากลัว เป็นการมองโลกในแง่ร้าย มีความเชื่อมั่น แสงสี การรับรู้โลกภายนอก ตอบสนองด้วยความรู้สึกของตนเอง(ศิลปะอัตวิสัย)ต่างจากโฟวิสม์ ซึ่งพวกเขาคิดว่าศิลปกรรมของยุโรปโดยทั่วไปมีแนวโน้มการแสดงออกไปในด้านที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความจริง ศิลปินต่างเสแสร้งและปิดบังโลกแห่งความเป็นจริง คำนึงถึงความงามแต่อย่างเดียว ทำให้มันดูสง่าเป็นของเข้าใจยาก ศิลปินทั้งสองกลุ่มไม่ได้ยึดแนวทางดั้งเดิม เรียกว่า พวกเขามีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อความงามทางศิลปะก็ว่าได้ แล้วหันมาเสนองานที่กล้าเผชิญหน้าตรงๆระหว่างโลกและมนุษย์แต่การแสดงออกของทั้งสองกลุ่มก็มีแนวทางแตกต่างกับโฟวิสม์
เราอาจจะสรุปได้ง่ายๆว่า ศิลปะแบบเอ็กซเพรสชันนิสม์ เป็นศิลปะที่แสดงออกถึงความรู้สึก หรืออารมณ์ที่รุนแรง โดยยึกหลักความจริงของสังคม สังคมที่โหดร้าย ไม่เพ้อฝัน อีกทั้งใช้สีที่ฉูดฉาดเพื่อแสดงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งต่างจากลัทธิโฟวิสม์ ที่เน้นไปในทางเพ้อฝัน ปิดบังความจริงที่โหดร้าย ด้วยการเน้นไปที่ความงดงาม
อ้างอิง
ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์(ออนไลน์). (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557, จาก http://kitzmidnight.wordpress.com/2011/09/26/ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารม/
ในยุคสมัยใหม่มีลัทธิทางศิลปะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งลัทธิต่างๆอาจจะเกิดจากวิถีชีวิตของคนในสังคม การเมือง อารมณ์ต่าง โดยมีหลายลัทธิที่เป็นลัทธิที่แสดงออกถึงสภาพความจริงของสังคม หนึ่งในลัทธิที่มีอิทธิพลต่อคนในสังคม คือ เอ็กซเพรสชันนิสม์ (Expressionism)
เอ็กซเพรสชันนิสม์ หรือ ลัทธิสำแดงพลังอารมณ์หรือ ลัทธิแสดงพลังอารมณ์(Expressionism) คือขบวนการทางวัฒนธรรมที่เริ่มขึ้นในเยอรมนีเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 วัตถุประสงค์ของขบวนการนี้คือการแสวงหาความหมายของ “ความรู้สึกมีชีวิตชีวา” (being alive) และประสบการณ์ทางอารมณ์แทนความเป็นจริงทางวัตถุ แนวโน้มของศิลปินกลุ่มนี้จะบิดเบือนความเป็นจริงเพื่อที่จะแสดงผลที่มีต่ออารมณ์ และเป็นศิลปะอัตวิสัย (subjective art form)ซึ่งหมายถึง มุมมองหรือความคิดเห็นของบุคคล โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความเชื่อ หรือความต้องการ ซึ่งอาจตรงข้ามกับความเป็นตริงก็ได้
เอ็กซเพรสชันนิสม์ปรากฏในงานศิลปะหลายรูปหลายแบบที่รวมทั้ง จิตรกรรม,วรรณกรรม, การละคร, ภาพยนตร์, สถาปัตยกรรม และ ดนตรี และมักจะเป็นคำที่มีนัยยะถึงอารมณ์รุนแรงภายใน (angst) และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่กลุ่มโฟวิสม์ อุบัติขึ้นที่ฝรั่งเศสและเยอรมัน ก็มีกลุ่มเอ็กซเพรสชั่นนิสม์เกิดขึ้นมาใหม่เหมือนกัน ศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่น รูโอล (Rioalt) โดคอซกา (Kokoschka) เดียโก ริเวรา (Diego Rivera)และ บลูม (Blume)
โดยศิลปินกลุ่มนี้ได้รับอิทธิพลแนวคิด คตินิยมจาก ฟาน กอห์ก และ โกแกงโดยตรงนั่นคือการแสดงออกถึงอารมณ์ภายในอันเร้าร้อนรุนแรง การใช้สีและการตัดเส้นรอบนอก เพื่อให้รูปทรงเด่นชัดและแข็งกร้าว พวกเขาสะท้อนแนวคิดที่เกี่ยวกับสังคม และความเป็นจริงในสังคม ความประทับใจในธรรมชาติชาติลงฉับพลันทั้งความรู้สึกรุนแรง บ้าระห่ำ เกลียดชัง ทารุณ ความเจ็บปวดทางร่างกาย ทรมาน น่าเกลียดน่ากลัว เป็นการมองโลกในแง่ร้าย มีความเชื่อมั่น แสงสี การรับรู้โลกภายนอก ตอบสนองด้วยความรู้สึกของตนเอง(ศิลปะอัตวิสัย)ต่างจากโฟวิสม์ ซึ่งพวกเขาคิดว่าศิลปกรรมของยุโรปโดยทั่วไปมีแนวโน้มการแสดงออกไปในด้านที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความจริง ศิลปินต่างเสแสร้งและปิดบังโลกแห่งความเป็นจริง คำนึงถึงความงามแต่อย่างเดียว ทำให้มันดูสง่าเป็นของเข้าใจยาก ศิลปินทั้งสองกลุ่มไม่ได้ยึดแนวทางดั้งเดิม เรียกว่า พวกเขามีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อความงามทางศิลปะก็ว่าได้ แล้วหันมาเสนองานที่กล้าเผชิญหน้าตรงๆระหว่างโลกและมนุษย์แต่การแสดงออกของทั้งสองกลุ่มก็มีแนวทางแตกต่างกับโฟวิสม์
เราอาจจะสรุปได้ง่ายๆว่า ศิลปะแบบเอ็กซเพรสชันนิสม์ เป็นศิลปะที่แสดงออกถึงความรู้สึก หรืออารมณ์ที่รุนแรง โดยยึกหลักความจริงของสังคม สังคมที่โหดร้าย ไม่เพ้อฝัน อีกทั้งใช้สีที่ฉูดฉาดเพื่อแสดงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งต่างจากลัทธิโฟวิสม์ ที่เน้นไปในทางเพ้อฝัน ปิดบังความจริงที่โหดร้าย ด้วยการเน้นไปที่ความงดงาม
อ้างอิง
ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์(ออนไลน์). (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557, จาก http://kitzmidnight.wordpress.com/2011/09/26/ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารม/
ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์(ออนไลน์). (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 6 มีนาคม 2557, จาก http://kitzmidnight.wordpress.com/2011/09/26/ศิลปะลัทธิแสดงพลังอารม/
อัตวิสัย (ออนไลน์). (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ มีนาคม 2557, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2
อัตวิสัย (ออนไลน์). (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ มีนาคม 2557, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น