โดย จุลทรัพย์ จิเนราวัต
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นใคร ? ทำไมเราต้องรู้จักและเรียนรู้จากเขาผู้นี้ คำตอบก็คือเพราะเขาเป็นคนที่ร่ำรวยอันดับสองของโลก ความมั่งคั่งของเขามีสูงถึง 30.5 พ้นล้าน และเขายังเป็นนักลงทุนที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถหากำไรจากตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ดังนั้นใครก็ตามที่อยากเป็นนักลงทุนหรือร่ำรวยมั่งคั่งจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต้องมาดูกันว่า "ผู้เล่น" นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าตัวจริงเสียงจริง เป็นแบบไหน
วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ (Warren Edward Buffett) เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ที่โอมาฮาในรัฐเนแบรสกา เป็นลูกชายคนเดียวและคนที่ 2 ในพี่น้อง 3 คนของผู้แทนอเมริกา บัฟเฟตต์ เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาที่ Rose Hill Elementary School ในโอมาฮา ได้ซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ปี เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่วอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้ย้ายไปเรียนและจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1951 เป็นต้นมา
สมัยเป็นเด็ก วอร์เรน บัฟเฟต์ เคยหารายได้พิเศษด้วยการติดตั้งตู้เกมส์พินบอลหยอดเหรียญในร้านตัดผมและเคยเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์มาก่อน เมื่อครั้งที่ยังศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียอยู่นั้นวอร์เรน บัฟเฟต์ได้ศึกษาถึงปรัชญาการลงทุนจาก เบนจามิน เกรแฮม และเมื่อเรียนจบ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมแกรแฮมจ้างเขาทำงานเป็นนั่งวิเคราะห์การลงทุน แต่เกรแฮมบอกปัดตลอดจนทนความพยายามของบัฟเฟตต์ไม่ไหวจึงยอมรับ เขาเข้าทำงานและเขาก็ทำงานให้กับบริษัทนี้จนกระทั่งแกรแฮมเกษียณในปี 1956
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถือได้ว่าเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าของหุ้นที่มั่นคงในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น เขามองการลงทุนในหลักทรัพย์เหมือนกับการลงทุนทำธุรกิจ และธุรกิจที่บัฟเฟตต์สนใจและลงทุนมากที่สุดก็คือ ธุรกิจที่มีแฟรนไชส์ (Franchise Bussiness -- ไม่ใช่ระบบเฟรนไชส์อย่างที่เข้าใจกันเมืองไทย) ซึ่งก็คือธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ผู้บริโภคนิยมมากกว่าสินค้าของคู่แข่ง เช่น โค๊ก มีดโกนยิลเล็ตต์ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เป็นต้น ส่วนธุรกิจที่ปัฟเฟตต์จะไม่ลงเลยก็คือ ธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจ เช่น ธุรกิจคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์อย่างไมโครซอฟต์ และธุรกิจที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย
วอร์เรน บัฟเฟตต์มีมิตรสหายเป็นมหาเศรษฐีชื่อดัง บิลล์ เกตส์ ซึ่งเคยชวนให้เขาร่วมลงทุนในบริษัทไมโครซอฟท์ แต่บัฟเฟตต์ก็ขอปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีความเข้าใจในระบบธุรกิจประเภทนี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยินดีที่จะบริจาคเงินจำนวนมหาศาลแก่มูลนิธิของบิลล์ เกตส์แทน ในบางโอกาสเขามักเล่นเกมไพ่บริดจ์กับบิลล์ เกตส์ผ่านทางระบบออนไลน์ (เพื่อลับสมองมากกว่าเพื่อการพนัน)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงนับเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่นักลงทุนควรนำปรัชญาความคิดและหลักการของเขามาปรับใช้ เพราะเขาคือนักลงทุนที่เก่งมากๆ และมีชื่อเสียง การประสบความสำเร็จของสามารถสร้างแรงบันดาลใจในคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีมากๆ
อ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี .2558. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: https://th.wikipedia.org/
"How Does Warren Buffett Get Married? Frugally, It Turns Out". New York Times. 2006-09-01. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://www.nytimes.com/2006/09/01/business/01buffett.html?_r=0
Mary Buffet , David Clark . 2557.ลงทุนอย่าง...วอร์เรน บัฟเฟตต์(ฉบับปรับปรุงใหม่).--นนทบุรี : วิสดอมเวิร์ส เพรส, 2557,388 หน้า.
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นใคร ? ทำไมเราต้องรู้จักและเรียนรู้จากเขาผู้นี้ คำตอบก็คือเพราะเขาเป็นคนที่ร่ำรวยอันดับสองของโลก ความมั่งคั่งของเขามีสูงถึง 30.5 พ้นล้าน และเขายังเป็นนักลงทุนที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถหากำไรจากตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ดังนั้นใครก็ตามที่อยากเป็นนักลงทุนหรือร่ำรวยมั่งคั่งจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต้องมาดูกันว่า "ผู้เล่น" นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าตัวจริงเสียงจริง เป็นแบบไหน
วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ (Warren Edward Buffett) เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ที่โอมาฮาในรัฐเนแบรสกา เป็นลูกชายคนเดียวและคนที่ 2 ในพี่น้อง 3 คนของผู้แทนอเมริกา บัฟเฟตต์ เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาที่ Rose Hill Elementary School ในโอมาฮา ได้ซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ปี เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่วอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้ย้ายไปเรียนและจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1951 เป็นต้นมา
สมัยเป็นเด็ก วอร์เรน บัฟเฟต์ เคยหารายได้พิเศษด้วยการติดตั้งตู้เกมส์พินบอลหยอดเหรียญในร้านตัดผมและเคยเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์มาก่อน เมื่อครั้งที่ยังศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียอยู่นั้นวอร์เรน บัฟเฟต์ได้ศึกษาถึงปรัชญาการลงทุนจาก เบนจามิน เกรแฮม และเมื่อเรียนจบ เขาพยายามเกลี้ยกล่อมแกรแฮมจ้างเขาทำงานเป็นนั่งวิเคราะห์การลงทุน แต่เกรแฮมบอกปัดตลอดจนทนความพยายามของบัฟเฟตต์ไม่ไหวจึงยอมรับ เขาเข้าทำงานและเขาก็ทำงานให้กับบริษัทนี้จนกระทั่งแกรแฮมเกษียณในปี 1956
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถือได้ว่าเป็นนักลงทุนที่เน้นคุณค่าของหุ้นที่มั่นคงในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น เขามองการลงทุนในหลักทรัพย์เหมือนกับการลงทุนทำธุรกิจ และธุรกิจที่บัฟเฟตต์สนใจและลงทุนมากที่สุดก็คือ ธุรกิจที่มีแฟรนไชส์ (Franchise Bussiness -- ไม่ใช่ระบบเฟรนไชส์อย่างที่เข้าใจกันเมืองไทย) ซึ่งก็คือธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ผู้บริโภคนิยมมากกว่าสินค้าของคู่แข่ง เช่น โค๊ก มีดโกนยิลเล็ตต์ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เป็นต้น ส่วนธุรกิจที่ปัฟเฟตต์จะไม่ลงเลยก็คือ ธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจ เช่น ธุรกิจคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์อย่างไมโครซอฟต์ และธุรกิจที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย
วอร์เรน บัฟเฟตต์มีมิตรสหายเป็นมหาเศรษฐีชื่อดัง บิลล์ เกตส์ ซึ่งเคยชวนให้เขาร่วมลงทุนในบริษัทไมโครซอฟท์ แต่บัฟเฟตต์ก็ขอปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีความเข้าใจในระบบธุรกิจประเภทนี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยินดีที่จะบริจาคเงินจำนวนมหาศาลแก่มูลนิธิของบิลล์ เกตส์แทน ในบางโอกาสเขามักเล่นเกมไพ่บริดจ์กับบิลล์ เกตส์ผ่านทางระบบออนไลน์ (เพื่อลับสมองมากกว่าเพื่อการพนัน)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ จึงนับเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่นักลงทุนควรนำปรัชญาความคิดและหลักการของเขามาปรับใช้ เพราะเขาคือนักลงทุนที่เก่งมากๆ และมีชื่อเสียง การประสบความสำเร็จของสามารถสร้างแรงบันดาลใจในคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีมากๆ
อ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี .2558. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: https://th.wikipedia.org/
"How Does Warren Buffett Get Married? Frugally, It Turns Out". New York Times. 2006-09-01. สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2558, จาก: http://www.nytimes.com/2006/09/01/business/01buffett.html?_r=0
Mary Buffet