หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

5 มี.ค. 2561

วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) จากสายลับมาสู่ผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

โดย ธนวัฒน์ เฉลิมมิตร

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้นำระดับโลกในปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะเป็นกลุ่มคนที่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน แต่มีบุคคลหนึ่งที่แปลกไปจากผู้นำคนอื่น เพราะเขาเคยเป็นอดีตสายลับ มีนามว่า”วลาดิมีร์ ปูติน” ผู้นำของประเทศรัสเซียคนปัจจุบัน ผู้ทำให้ประเทศรัสเซียนั้นกลับมามีบทบาทในเวทีโลกอีกครั้งและเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดท่านหนึ่งในปัจจุบัน

วลาดิมีร์ ปูติน (VLADIMIR PUTIN) หรือชื่อเต็มว่า วลาดิมีร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน(VLADIMIR VLADIMIROVICH PUTIN) เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1952 ที่เมืองเลนินกราด สหภาพโซเวียต (ปัจจุบันคือนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย) เป็นลูกชายคนที่สามของนายวลาดิมีร์ สปิร์โดโนวิช ปูติน (VLADIMIR SPIRDONOVICH PUTIN) ผู้เป็นบิดาและนางมาเรีย อิวานอฟนา ปูตินา (MARIA IVANOVNA PUTINA) ผู้เป็นมารดา

ชีวิตในปฐมวัยของปูตินนั้นเขาเริ่มมีแรงบันดาลใจจากการดูหนังแนวสายลับจึงทำให้ความฝันในช่วงปฐมวัยของปูตินนั้นกลายมาเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ เขาเริ่มทำการฝึกกีฬายูโดและแซมโบตั้งแต่ตอนเด็ก และในช่วงที่ปูตินต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเป็นอะไรเพราะช่วงนั้นอาชีพที่สามารถเป็นสายลับนั้นมีแค่สองอาชีพเท่านั้นคือ จะเป็นทหารหรือว่าจะไปเรียนนิติศาสตร์ ปูตินนั้นเลือกที่จะไปเรียนนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเลนินกราด (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัย เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) เขาจบการศึกษาในสาขานิติศาสตร์ ใน ค.ศ.1975


ภาพของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ลักษณะนิสัยของปูตินนั้นเป็นคนที่น่าเกรงขามแบบดุดัน องอาจ เด็ดขาด เหมือนเป็นชายชาตรีอย่างแท้จริง และจริงจังกับการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับเรื่องการบริหารประเทศ จึงทำให้ผู้นำของประเทศอื่นๆ ไม่กล้ามายุ่งกับเขาเลย แต่ในทางกลับกันเขามีนิสัยเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก มีความเป็นมิตรกับประชาชน นอกจากนี้เขายังมีความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ เช่น สามารถขับเครื่องบินได้ตั้งแต่เครื่องบินทั่วไปไปจนถึงเครื่องบินรบสมรรถนะสูง ยิงปืนได้อย่างแม่นยำ เล่นกีฬาได้ทุกชนิดทั้งกีฬาผาดโผนและกีฬาทั่วไป เป็นต้น

การทำงานในช่วงแรกนั้นเขาถูกส่งให้ไปทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยราชการลับตอบโต้ หน้าที่ของเขาคือสอดส่องความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าต่างประเทศที่ทำงานในประเทศ "สหภาพโซเวียต"

ใน ค.ศ.1985 เขาถูกส่งไปประจำการในฐานะสายลับที่เดรสเดิน เยอรมนีตะวันออก (ปัจจุบันคือเมืองเดรสเดิน เยอรมนี) ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยราชการลับและราชการลับสิ่งผิดกฎหมาย และปลอมตัวเป็นล่ามภาษาเยอรมันเพื่อไปทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ทำงานให้กับรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก

หลังจากช่วงที่กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงนั้นเขาตัดสินใจกลับไปยังสำนักงานใหญ่ที่กรุงมอสโก ก่อนกลับเขาส่งคำขอถึงไปยังมอสโก แต่ทางมอสโกปฏิเสธคำขอ เขาถึงกับเผาเอกสารลับในสำนักงานของ KGB จนหมด ใน ค.ศ.1991 เขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นสายลับของหน่วย KGB โดยตำแหน่งยศสูงสุดที่เขาได้รับนั้นคือ "พันโท"


ภาพของประธานาธิบดี”วลาดิมีร์ ปูติน” ที่อยู่ในห้องนักบินก่อนทำการบินด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์แบบ TUPOLEV TU-160 รหัสเรียกของนาโตว่า“BLACKJACK”

จากนั้นไม่นานเขาเข้าสู่สนามการเมืองโดยตำแหน่งแรกนั้นคือ เป็นที่ปรึกษาด้านกิจการระหว่างประเทศของนายกเทศมนตรีของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1990 หลังจากนั้น "ปูติน" ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ด้วยคะแนนเสียงจากสภาล่างของรัสเซียได้เสียงข้างมากถึง 233 เสียง

จากนั้นเดือนธันวาคมปี ค.ศ.1999 นั้นเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการประธานาธิบดี หลังจากที่ประธานาธิบดี "บอริส เยลต์ชิน" ลาออกจากตำแหน่งเพราะปัญหาทางด้านสุขภาพ และในปี ค.ศ.2000 เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย และดำรงตำแหน่งในสมัยแรกจนถึงสมัยที่สองในปี ค.ศ.2008 จากนั้นในปี ค.ศ.2012 เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งจึงได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สาม

ผลงานที่ "วลาดิมีร์ ปูติน" ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีแห่งประเทศรัสเซียนั้นมีดังต่อไปนี้

ผลงานทางด้านการทหารและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น การควบรวมดินแดนในคาบสมุทร "ไครเมีย" กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียและทำการรุกรานประเทศยูเครน การรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกากับสหภาพยุโรป การทำสงครามต่อต้านผู้ก่อการร้ายโดยเฉพาะกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือว่า "ไอเอส" ในประเทศซีเรีย

ผลงานการปฏิรูปในด้านต่างๆ เช่น การปฏิรูปด้านพลังงาน เศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น ทำให้ประเทศรัสเซียนั้นมีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจความยากจนในรัสเซียลดลงมากกว่าร้อยละ 50

ในด้านผลงานประเภทอื่นๆ เช่น ได้รับการจารึกชื่อในนิตยสาร "TIMES" ว่าเป็นบุคคลแห่งปี 2007 ในฐานะประธานาธิบดีรัสเซีย ผู้ผลักดันเศรษฐกิจรัสเซียจนพ้นจากความตกต่ำ การผลักดันให้รัสเซียเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาต่างๆ อาทิ โอลิมปิกฤดูหนาวปี 2014 ที่เมืองโซชิ การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ที่เมืองมอสโก การแข่งขันรถสูตรหนึ่ง FORMULA 1 รายการ RUSSIAN GRAND PRIX ตั้งแต่ฤดูกาล 2014 ถึงปัจจุบัน เป็นต้น

ผู้นำท่านนี้เป็นสายลับในช่วงสงครามเย็นแต่บัดนี้ได้กลายมาเป็นผู้นำดาวเด่นในเวทีโลก และเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดท่านหนึ่ง โดยเฉพาะในด้านการบริหารประเทศของท่านที่ให้ความสำคัญกับประชาชน และเน้นความเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังทำให้ไม่มีใครกล้ามายุ่งด้วยตราบใดที่รัสเซียนั้นยังต้องการผู้นำที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้ และท่านผู้นี้ก็คือ "วลาดิมีร์ ปูติน"


อ้างอิง

กุลธิดา บุณยะกุล-ดันนากิ้น. (2553). วลาดิเมียร์ ปูติน บุรุษเหล็กรัสเซีย. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ: นกฮูก พับลิชชิง

วลาดีมีร์ ปูติน. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2560, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/.

Vladimir Putin. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2560, จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Vladimir_Putin.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น