หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

27 ธ.ค. 2560

แอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) ตำนานราชินีหัวขาดแห่งอังกฤษ

โดย พลอยจรัส เรือโป๊ะ

หากกล่าวถึงเรื่องราวสยองขวัญที่ถูกเล่าขานกันมาถึงตำนานความน่ากลัว และความเฮี้ยนของโลกหนึ่งในนั้นก็คงจะไม่พ้นเรื่องราวของแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) ราชินีผู้อาภัพแห่งอังกฤษ เรื่องราวชีวิตและความรักที่ขมขื่นเฉกเช่นบทโศกในละคร ก่อเกิดเป็นตำนานความเฮี้ยนแห่งหอคอยลอนดอน

พระนางแอนน์ โบลีน เป็นบุตรีของเซอร์ทอมัส โบลิน กับเลดีเอลิซาเบธ โบลิน และได้เป็นพระมเหสีพระองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ และเป็นพระราชมารดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ความรักของพระนางแอนน์นั้นเริ่มต้นที่พระนางถูกพระบิดา สั่งให้แต่งงานกับญาติของพระนางคือ เจมส์ บัทเลอร์แต่เจมส์ก็เสียชีวิตเสียก่อน แอนน์ โบลีนจึงได้ถูกส่งเข้าราชสำนักเพื่อรับใช้สมเด็จพระราชินีแคทเธอรีน แห่งอรากอน

ในขณะนั้นพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษได้ทรงเบื่อพระนางแคทเทอรีนแห่งอรากอน เนื่องจากโดยเวลานี้พระนางแคทเทอรีนประสบปัญหาจากการมีบุตร และพระนางแคทเทอรีนนั้นมีพระชนมายุสูงวัยกว่าพระเจ้าเฮนรี ทำให้ในปี พ.ศ. 2068 พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษเกิดตกหลุมรักแอนน์ โบลีน และต้องการแต่งงานด้วย ทำให้พระเจ้าเฮนรีหาเหตุที่ว่าพระนางแคทเทอรีนเคยอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอาเทอร์นั้นเป็นการผิดบัญญัติแห่งพระเจ้า หลังจากหย่ากับพระนางแคทเทอรีน  และพระนางได้ถูกขับไล่ออกไปจากพระราชวัง


พระนางแอนน์ โบลีน
ที่มา : https://th.wikipedia.org/

จุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวแห่งความผิดและความตายได้เกิดขึ้น หลังจากที่พระเจ้าเฮนรี่ได้แต่งงานกับพระราชินีแอนน์ พระราชอำนาจหลังพระราชบัลลังก์ฉายเด่นชัดจากสมเด็จพระราชินีพระองค์นี้ พระนางแอนน์นั้นยังถูกกล่าวขานว่า “ราชินีแห่งอังกฤษที่โดดเด่นและสำคัญที่สุดเท่าที่เคยมี” ชีวิตคู่ของพระองค์ช่วงแรกนั้นช่างมีความสุขแต่พอนานวันเข้า พระเจ้าเฮนรีทรงไม่ชอบท่าทางของแอนน์ที่ทำเพื่อตนเองและชอบโต้แย้งกับพระองค์ พระนางแอนน์ไม่เกรงกลัวต่ออันตรายใดๆ ทรงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย พระนางพยายามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง  ข้าราชการแบ่งฝักฝ่ายเป็นสองพวกคือ “คนของพระราชา” และ “คนของพระราชินี”


พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
ที่มา : https://th.wikipedia.org/

หลังจากการล้มเหลวจากการได้บุตร พระเจ้าเฮนรีมองการล้มเหลวเป็นการทรยศพระองค์ ในวันคริสต์มาสพระเจ้าเฮนรีได้สนทนากับทอมัส เครนเมอร์ และ ทอมัส ครอมเวลล์ในเรื่องการขับไล่พระนางแอนน์ โบลีน และโปรดให้พระนางแคทเทอรีน แห่งอรากอนกลับมา และได้มีการสั่งประหารศัตรูของพระนาง ผู้ซึ่งต่อต้านนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์

ต่อมาในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2079 ข่าวการสวรรคตของพระนางแคทเทอรีนก็ได้ทราบถึงพระเจ้าเฮนรีและพระนางแอนน์  หลังจากมีการชันสูตรพระศพของพระนางแคทเทอรีน แห่งอรากอนได้พบว่า หัวใจของพระนางกลายเป็นสีดำ ต่างก็มีคนเชื่อว่าไม่พระเจ้าเฮนรีก็พระนางแอนน์ที่ได้ลอบวางยาพิษพระนางแคทเทอรีน แต่บ้างก็ว่าพระเจ้าเฮนรีทรงเสียพระทัยในการจากไปของพระนางแคทเทอรีนอย่างมากเช่นกัน  พระนางแอนน์มีบุตรีคนเดียวคือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ

และเหตุการณ์ต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนางเจน เซมัวร์นางสนองโอษฐ์ในพระราชาเข้ามาอยู่ในราชวังและแล้วเรื่องการคบชู้สู่ชาย การร่วมประเวณีกับผู้ใกล้ชิด และการทรยศ ก็เกิดขึ้น ในวันสุดท้ายของเดือนเมษายน นักดนตรีชาวเฟลมมิชที่พระนางแอนน์เรียกไปรับใช้ชื่อว่า มาร์ก สเมียตัน ได้ถูกจับกุมและทรมานร่างกาย เพราะได้ถูกตั้งข้อหาว่าคบชู้กับพระราชินีแต่ระหว่างการทรมานเขาได้สารภาพผิด ต่อมาชาวต่างชาติ เฮนรี นอร์ริส ได้ถูกจับในเดือนพฤษภาคมแต่เนื่องจากเขาเป็นชนชั้นสูงจึงไม่ถูกทรมาน เขาได้ปฏิเสธและสาบานว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ 2 วันต่อมาเซอร์ฟรานซิส เวสตันได้ถูกจับกุมในข้อกล่าวหาเดียวกัน วิลเลียม แบร์ตันบ่าวรับใช้ของพระเจ้าเฮนรีก็ถูกจับกุมในข้อกล่าวหานี้เช่นกัน สุดท้ายก็มีการจับกุมพระอนุชาของพระนางแอนน์ จอร์จ โบลีนในข้อหาคบชู้กับสายเลือดเดียวกัน

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2079 พระนางแอนน์ได้ถูกจับกุมและส่งไปหอคอยแห่งลอนดอน นักโทษคนอื่นได้รับการปลดปล่อยเหลือแต่พระนางแอนน์และจอร์จ โบลีน 3 วันต่อมาแอนน์ได้ถูกกล่าวหาว่าได้คบชู้สู่ชายกับสายเลือดเดียวกัน และทรงเป็นผู้ทรยศ หลังจากการตัดสิน จอร์จ โบลีนพระอนุชาได้ถูกประหาร

ในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2079 แอนโทนี คิงส์ตันผู้เป็นยามเฝ้าประตูได้บันทึกไว้ว่า พระนางแอนน์นั้นดูมีความสุขและเตรียมตัวเตรียมใจที่จะได้รับการประหาร พระเจ้าเฮนรีได้ทำตามคำขอของพระนางแอนน์เป็นครั้งสุดท้ายโดยได้จ้างเพชฌฆาตจากฝรั่งเศสมาทำการประหารโดยใช้ดาบตามธรรมเนียมฝรั่งเศส เนื่องจากพระนางแอนน์กลัวการประหารด้วยขวานทื่อๆตามธรรมเนียมอังกฤษ ในเช้าของวันที่ 19 ทหารได้มาเชิญพระนางเข้ารับการประหาร แอนโทนี คิงส์ตันได้เขียนบันทึกเป็นภาษาอังกฤษว่า พระนางแอนน์ได้ทรงฉลองพระองค์สีแดง พระเกศารวบด้วยผ้าลินินสีขาวซึ่งเป็นธรรมเนียมฝรั่งเศส พระนางทรงมีนางสนองโอษฐ์ 4 คนเดินตามจนถึงแท่นประหาร

กล่าวกันว่าหลังจากที่พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ประหารชีวิตพระนางแอนน์ โบลีน ด้วยการตัดพระเศียร ที่Tower Green แม้ว่าจะไม่มีผู้ใดทราบว่าที่แท้จริงแล้วพระนางแอนน์นั้นได้ทรยศและคบชู้จริงหรือไม่ แต่ดวงวิญญาณของพระนางก็ยังคงสิงสถิตอยู่ที่นั่น มีทหารยามพบเป็นสตรีสวมผ้าคลุมศีรษะออกมาเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย เพียงแต่สตรีผู้นั้นได้ถือศีรษะของตนออกมาเล่นด้วย ไม่ก็พระนางจะลากโซ่ตรวนในห้องประหารแล้วกรีดร้องเสียงดัง และเห็นพระนางแอนน์ โบลีน นำทหารในสมัยนั้นและเลดี้หรือสตรีระดับสูงเข้ามาในโบสถ์ที่หอคอยแห่งลอนดอน จนเงาพวกนั้นค่อย ๆ หายไป แล้วปล่อยให้โบสถ์นั้นเงียบสงัดไปดื้อ ๆ เป็นต้น ทุกวันนี้ยังมีผู้คนพบเจอสิ่งแปลกประหลาดเรื่อยมาจนเป็นที่มาของความหลอนสั่นประสาทนี้


อ้างอิง

แอนน์ โบลีน พระราชนีแห่งอังกฤษ.(2560). (ออนไลน์).
เข้าถึงได้จาก: https://th.wikipedia.org/ (วันที่สืบค้น13/09/2560).

แอนน์ โบลีน.(2556).(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://teen.mthai.com/variety/81648.html (วันที่สืบค้น13/09/2560).

ตำนาน ราชินี หัวขาด แห่งอังกฤษ | เรื่องเล่าจากความมืด Ep:57.(2558). (ออนไลน์).
เข้าถึงได้จาก: https://www.youtube.com/watch?v=uxxKbCVic0M&t=564s (วันที่สืบค้น13/09/2560).

แอนน์ โบลีน ราชินีไร้หัว สยองซะไม่มี [P36].(2559). (ออนไลน์).
เข้าถึงได้จาก: https://www.youtube.com/watch?v=zd6ntGONCYc (วันที่สืบค้น13/09/2560).

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น