หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

25 ธ.ค. 2559

เวนิส (Venice)

โดย กลาภร   ใต้ศรีโคตร

หากจะพูดถึงเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆในทวีปยุโรปแล้ว คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก เวนิส เมืองท่าที่สำคัญขนาดใหญ่ของประเทศอิตาลี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลาง

เวนิสก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 5 โดยผู้ลี้ภัยที่หลบหนีการบุกรุกจากทางเหนือ พวกเขาได้สร้างถิ่นฐานที่เป็นเอกลักษณ์ในหมู่เกาะเวนิสเพื่อป้องกันการจู่โจมจากภายนอก เวนิสเป็นเมืองบริวารของจักรวรรดิไบเซนไทน์จนกระทั่งศตวรรษที่ 10 เริ่มต้นด้วยการเป็นเส้นทางการค้าไปยังลิแวนต์ เวนิสเริ่มเป็นที่รู้จักหลังสงครามครูเสดที่ 4 (ค.ศ.1202-1204) ในฐานะเจ้าอาณานิคมในจักรวรรดิที่รวมครีต ยูบีอา ซิคละดีส หมู่เกาะไอโอเนียน และ ฐานที่มั่นในโมเรียและ อิพิรัส เข้าด้วยกัน ในปี 1381 เวนิสได้พ่ายแพ้ให้กับเจนัวหลังจากที่มีการต่อสู้ทางการค้ายาวนานกว่าศตวรรษในลิแวนด์และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ในศตวรรษที่15 มีการรวบรวมเมืองต่างๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง ทำให้สาธารณรัฐเวนิสกลายเป็นรัฐหนึ่งของอิตาลี



เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย เวนิสจึงเป็นเมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน ดังนั้นจึงไม่มีความวุ่นวายหรือเสียงดังจากรถยนต์ อีกทั้งความสวยงามของบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมอันงดงาม เช่น

มหาวิหารซานมาร์โก้  ที่มีการสร้างโดมกลางขนาดใหญ่แบบสุเหร่าของอิสลาม   มีการประดับโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดพื้น จดได้รับฉายาว่า วิหารทองคำ (Church of Gold) ประกอบกับการผสมผสานศิลปะหลายๆยุคตั้งแต่ ไบแซนไทม์เรื่อยมาจนถึงเรเนสซองก์เข้าด้วยกัน
         

 
โบสต์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต ที่เป็นศิลปะแบบบาโรก ซึ่ง  ภายในมีภาพเขียนและปะติมากรรมล้ำค่าหลายชิ้นอยู่
 
พระราชวังดอจ ของดยุคผู้ครองเมืองเวนิส เป็นศิลปะแบบโกธิค  ที่ภายในตกแต่งด้วยทองคำ และภาพจิตรกรรมต่างๆ อย่างสวยงาม



เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมอันสวยงามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ ทำให้เวนิสกลาย  เป็นเมืองเอกทางวัฒนธรรมของยุโรป และยังได้รับการประกาศเป็นเขตมรดกโลก ในปี 1987 อีกด้วย  อีกทั้งยังทำให้ เวนิส เป็นเมืองที่ได้รับฉายามากมากมาย  เช่น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” ( The Queen of the Adriatic)  หรือ “เมืองแห่งสายน้ำ” (The City of Water)  เนื่องจากมีคลองสำหรับใช้สัญจรแทนถนนมากกว่า 150 สาย หรือ“เมืองแห่งสะพาน”  ( The City of Bridges) ที่มีสะพานเชื่อมคลองมากกว่า 400  แห่ง

เวนิสจึงเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรม และดนตรียามค่ำคืน (The City of Light) ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและใฝ่ฝันอยากมาเทียวชมเวนิสสักครั้งหนึ่งในชีวิต


อ้างอิง :

คู่มือท่องเที่ยวสำหรับ เวนิส. สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2559, จาก : http://worldcivil14.blogspot.in/2016/06/vienna.html

ดินแดนมรดกโลก งดงามและทรงคุณค่า. สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2559, จาก : http://www.msn.com/th-th/news/photos

เมืองเวนิส (Venezia). สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2559, จาก : http://www.italysmile.com/venezia/

เวนิส นครแห่งสายน้ำ (Venice หรือ Venezie). สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2559, จาก : http://peppermiint.blogspot.com/2011/01/minnie.html

6 ที่เที่ยว เวนิส เมืองในฝัน ชาตินี้ไม่ไป ตายตาไม่หลับ. สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2559, จาก : http://travel.truelife.com/detail/54793

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น