หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

23 ธ.ค. 2559

มหาวิหารเซนต์สตีเฟน จิตวิญญาณแห่งเวียนนา (Stephansdom)

โดย  ทะนงลักษณ์   ยศกลาง

เมื่อใดก็ตามที่มีการกล่าวถึงกรุงเวียนนาเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เชื่อได้ว่าหลายๆคนคงจะจินตนาการถึงภาพแห่งความโรแมนติก ศิลปะอันงดงาม เสียงดนตรีคลาสสิคอันไพเราะ และสถาปัตยกรรมมากมายที่ล้ำค่า ซึ่งหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเวียนนาคือ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) อันศักดิ์สิทธ์และยังนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนาที่ตั้งสูงตระหง่าอยู่ท่ามใจกลางเมืองแห่งเสียงดนตรีอีกด้วย

มหาวิหารเซนต์สตีเฟน ( St. Stephen Cathedral ) มีชื่อเฉพาะที่เป็นภาษาเยอรมันคือ ชเตฟานส์โดม( Stephansdom ) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางของกรุงเวียนนา มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1137 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญสตีเฟน ในสมัยโรมันนั้นถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับฝังศพ และบรรจุศพของทั้งขุนนางและคนธรรมดา โดยมีความเชื่อว่าการได้รับการบรรจุศพภายในมหาวิหารแห่งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติอย่างยิ่งเพราะได้ใกล้ชิดกับนักบุญ ส่วนผู้ที่ไม่ค่อยมีเกียรติยศเท่าใดนักก็จะได้รับการฝังใกล้มหาวิหารแห่งนี้


ที่มา:  http://www.planetware.com/

มหาวิหารเซนต์สตีเฟนถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานานแสนนานถูกสร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบกอทิก ที่มีความอ่อนช้อยงดงามเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตัวโบสถ์นั้นมีขนาดใหญ่ ทรงสูง มียอดปลายแหลมหลายยอด ซึ่งถูกสร้างด้วยหินปูนที่มีความยาว 107 เมตร กว้าง 70 เมตร สูง 136.7 เมตร และมีทางเดินกลางที่ยาว 38.9  เมตร

อาสนวิหารนี้มีหอที่ชาวเวียนนาเรียกว่า สเตฟเฟิล (Steffle) ซึ่งแผลงมาจากคำว่า Stephen เป็นหอใต้ขนาดใหญ่ที่สูงเด่นสง่าถึง 136.7 เมตร ใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 65 ปี ระหว่าง ค.ศ. 1368 ถึง ค.ศ. 1433 ระหว่างการล้อมกรุงเวียนนา ในปี ค.ศ. 1529 และอีกครั้งในยุทธการเวียนนาปี ค.ศ. 1683 หอใต้ขนาดมหึมานี้ใช้เป็นหอสังเกตการณ์อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของกองบังคับการต่างๆเพื่อใช้ในการป้องกันกรุงเวียนนาโดยมีกำแพงล้อมรอบ ภายในตัวหอนี้มีห้องพักสำหรับผู้ที่ทำหน้าที่สังเกตการณ์อีกด้วย ซึ่งหอสเตฟเฟิลนั้นมีผู้ประจำการตอนกลางคืนมาจนถึงปี ค.ศ. 1956 ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ในเมือง ผู้ประจำการหอก็จะสั่นระฆังเพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้กับประชาชน บนยอดของหอนั้นจะเป็นที่ตั้งของราชอินทรีสองหัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตราอาร์มของราชวงศ์ฮับส์บรูก – ลอแรน ซึ่งบริเวณหน้าอกจะเป็นกางเขนอัครบิดรที่หมายถึง Apostolic Majesty ของพระมหากษัตริย์แห่งฮังการี

ส่วนหอเหนือนั้นมีการสร้างยอดหอในลักษณะที่เป็นแบบเรอเนสซองที่เรียกกันว่า “ยอดหอน้ำ” ( Water tower top ) โดยหอเหนือนี้มีความสูง 68 เมตร ซึ่งเทียบได้ราวครึ่งหนึ่งของความสูงของหอใต้เลยทีเดียว

ประตูยักษ์ ( Riesentor ) หมายถึงกระดูกต้นขาของ Mastodon ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของมหาวิหารแห่งนี้ หน้าบันไดเหนือประตูนั้นเป็นภาพพระเยซูในท่า “ พระเยซูผู้ทรงอานุภาพ ” ประดับด้วยทูตสวรรค์ที่มีปีก 2 องค์ ซึ่งทางด้านซ้ายและขวาของประตูยักษ์จะมีหอโรมันอยู่ 2 หอ ซึ่งถูกขนานนามว่า “ หอไฮเดน ” แต่ละหอนั้นมีความสูง 65 เมตร

อีกหนึ่งจุดเด่นของอาสนวิหารนักบุญสตีเฟน คือลวดลายอันวิจิตรงดงามของหลังคาที่ปูด้วยกระเบื้องหลากสี ซึ่งมีความยาว 111 เมตร โดยใช้กระเบื้องเคลือบทั้งหมด 230,000 แผ่น การวางกระเบื้องถูกออกแบบให้เป็นรูปอินทรีสองหัวที่อยู่เหนือบริเวณร้องเพลงสวดทางด้านใต้ของสิ่งก่อสร้าง ส่วนทางด้านเหนือเป็นสัญลักษณ์ตราอาร์มของกรุงเวียนนาและของสาธารณรัฐออสเตรีย ในช่วงปีค.ศ 1945  โครงไม้ของหลังคาได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ข้ามมาจากสิ่งก่อสร้างอื่น การซ่อมแซมหลังคาโบสถ์ในครั้งนี้ไม่สามารถบูรณะด้วยไม้ได้เพราะต้องใช้ไม้เป็นจำนวนมหาศาล จึงได้ใช้โครงสร้างเหล็กหล่อ 600 เมตริกตันแทนที่


ที่มา:  http://www.planetware.com/

ภายในอาสนวิหารนักบุญสตีเฟนนั้นจะประกอบไปด้วยแท่นบูชาทั้งสิ้น 18 แท่น ซึ่งฉากแท่นบูชาน็อยชตัดท์จัดว่าเป็นแท่นบูชาที่เด่นที่สุด ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1447 โดยจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 ซึ่งปัจจุบันนี้ภายในตัวโบสถ์นั้นมีระบบทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวโดยใช้เครื่องมือตามจุดต่างๆเพื่อลดการหมุนเวียนของอากาศให้น้อยที่สุดซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้สิ่งก่อสร้างหรืองานศิลปะไม่ให้ถูกทำลายโดยจะรักษาอุณหภูมิในโบสถ์ให้อยู่ในระดับประมาณ 10 องศาเซลเซียส

ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความสวยงามของมหาวิหารแห่งนี้ได้ในช่วงวันจันทร์ ถึง วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 6:00-22:00 นาฬิกา และในวันอาทิตย์รวมไปถึงวันหยุดราชการ ได้ตั้งแต่เวลา 7:00 -22:00 นาฬิกา

มหาวิหารเซนต์สตีเฟนยังคงตั้งตระหง่าอย่างโดดเด่นมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ แม้ว่าบางส่วนจะเคยถูกทำลายด้วยเพลิงไฟ แต่ก็ไม่สามารถเผาทำลายศิลปะความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้ไปได้ ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารเป็นจุดเด่นที่มีชื่อเสียงอย่างมากทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ กอทิก อย่างล้มหลาม ถ้าหากท่านใดมีโอกาสได้ไปเยือนกรุงเวียนนาจึงมิควรพลาดที่จะไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่และความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้


อ้างอิง

จัตุรัสสเตฟาน- มหาวิหารเซนต์สตีเฟน. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2559, จาก: http://www.europefanclub.com/stephansplatz-st-stephens-cathedral/

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2559).  ชเตฟันสโดม.  สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2559, จาก: https://th.wikipedia.org/wiki/ชเตฟันสโดม

MGR Online.  (2553).  “เวียนนา” นครแห่งเสียงดนตรี งดงาม โรแมนติก.  สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2559. จาก: http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000102956


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น