หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

30 ธ.ค. 2559

เฮดีส (Hades) เทพเจ้าแห่งโลกใต้พิภพ

โดย ภาสินี ชัยวรรณคุปต์
   
มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าต่างๆมากมายทั่วมุมโลกที่โด่งดังและผู้คนต่างเคารพบูชา แต่ยังมีอีกหนึ่งตำนานเทพเจ้าที่มีช่อเสียงโด่งดัง สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันโดยมีการจัดทำเป็นภาพยนต์ ละครโทรทัศน์ นิยาย การ์ตูน และบทละครอื่นๆอีกมากมาย นั่นคือ ตำนานเทพเจ้าตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณที่โด่งดังไปทั้วโลก โดยเฉพาะ ตำนานของเหล่าเทพแห่งเขาโอลิมปัส (Olympus) ตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อย่างเช่น ซุส (Zeus) เทพผู้ปกครองเขาโอลิมปัสและบรรดาเทพทั้งหมด โพไซดอน (Poseidon) เทพผู้ปกครองท้องทะเลทั้งหมด และ เฮดีส หรือ ฮาเดส (Hades) เทพเจ้าผู้ปกครองโลกใต้พิภพ

เฮดีส เป็บบุตรของ เทพ โครนอส (Kronos) และ ไกอา (Gia) เทพเจ้าของเหล่าตระกูล ไททัน (Titan) มีพี่น้องทั้งหมด 6 คนรวมเทพเฮดีสเอง ได้แก่ ซุส เทพเจ้าแห่งเขาโอลิมปัส โพไซดอน เทพเจ้าแห้งท้องทะเล เฮดีส เทพเจ้าแห่งโลกใต้พิภพ เฮร่า เทพีแห่งเทพเจ้าทั้งปวง ดีมีเธอร์ เทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวและเกษตรกรรม และ เฮสเธีย เทพเจ้าแห่งบ้าน เมื่อครั้งแบ่งการปกครอง เหล่าทวยเทพทั้งสาม ได้แก่ ซุส เฮดีส และโพไซดอน  ได้ทำบางอย่างเพื่อแบ่งเขตการปกครอง แต่จากหลายแหล่งข้อมูลมีการบันทึกไว้ว่า ซุส โกงการตัดสิน ทำให้เขาได้ปกครองบนเทือกเขาโอลิมปัส และเฮดีสได้ลงมาปกครองโลกใต้พิภพ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เฮดีสไม่ค่อยจะได้รับการต้อนรับจากเขาโอลิมปัสหรือโลกข้างบนซักเท่าไหร่ เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่า เฮดีสเป็นเทพแห่งความตายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่


เฮดีส เป็นแทพแห่งโลกใต้พิภพ ที่ปกครองโลกข้างล่างทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นเทพที่รำ่รวยที่สุดใน บรรดาเหล่าทวยเทพทั้งหลาย เฮดีสเป็นเทพที่มีความยุติธรรมอย่างมาก เพาะเขารู้ว่า ไม่ว่าคนจะมาจากไหนก็ล้วนแต่ต้องตายกันหมด ดั้งนั้นจึงเป็นผู้มีความเที่ยงธรรม และความซื่อตรงอย่างมาก สัญลักษณ์ประจำตัวของเทพเฮดีสคือ หมาสามหัว หรือ Ceberus ผู้คอยปกป้องประตูแห่งโลกใต้พิภพ และ ไม้สองง่าม อีกทั้งยังมีเทพอีกสามองค์คอยให้ความช่วยเหลือในการตัดสินคดีเรียกว่า สามเทพสุภา ได้แก่ เทพราดาแมนทีส เทพไมนอส และเทพไออาคอส นอกจากนี้ ฮิปนอส เทพเจ้าแห่งการหลับไหล และ ทานาทอส เทพแห่งความตายก็ยังเป็นผู้มีส่วนร่วมและให้ความช่วยเหลือในการพิจรณาอยู่อีกด้วย

ตำนานความรักที่เด่นของเทพเฮดีสได้แก่ การครองรักกับเทพี เพอร์เซโฟนี (Persephone) ลูกสาวของเทพี ดีมีเธอร์ เทพเจ้าแห่งเกษตรกรรมและการเก็บเกี่ยวกับซุส ซึ่งถ้าตามหลักการแล้ว เฮดีสและเฟอร์เซโฟนี่ก็มีศักดิ์เป็นอา-หลาน กันนั่นเอง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งเฮดีสได้ขึ้นมายังพื้นโลกและได้พบกับเพอร์เซโฟนี่ก็เกิดเป็นความรักของเฮดีสที่มีความหลงไหลในเฟอร์เซโฟนี่อยู่มาก หลังจากนั้น เฮดีสจึงได้ทำการลักพาตัวเฟอร์เซโฟนี่ลงมาอยู่กับตนเองเพื่อเป็นคู่ครองที่โลกใต้พิภพ แต่ทว่าเมื่อเทพีดิมีเธอร์ผู้เป็นแม่ทราบว่าธิดาของตน ถูกเฮดีสลักพาตัว ก็เกิดความไม่พอใจและได้ไปร้องเรียนต่อเทพซุสให้ช่วยนำธิดาของเธอคืนมา ซุส ได้วานให้เทพเฮอร์มีส (Hermes) ไปเป็นผู้เจรจากับเทพเฮดีส โดยในการเจรจาครั้งนั้นมีเงื่อนไขว่า ถ้าเทพีเพอร์เซโฟนี ไม่ได้หยิบจับกินอะไรในยมโลก เทพเฮดีสต้องส่งนางคืนแก่เทพีดิมีเตอร์โดยทันที แต่หาก เทพีเพอร์เซโฟนี เสวยของในยมโลก เฮดีสก็จะสามารถมีสิทธิในตัวนาง ผลปรากฏว่าเทพีเพอร์เซโฟนีได้กินเมล็ดผลทับทิมไป 6 เมล็ดทำให้เฮดีสมีสิทธ์ในตัวนาง จึงตกลงกันว่าในแต่ละปี เทพีเปอร์เซโฟนี จะกลับขึ้นมาอยู่กับดีมีเธอร์บนพื้นโลก 6 เดือน และต้องกลับไปอยู่กับเฮดีสในโลกใต้พิภพอีก 6 เดือน ช่วงที่เทพีเพอร์เซโฟนีขึ้นมาอยู่บนพื้นโลกนั้น เทพีดิมีเธอร์ มีความยินดีอย่างยิ่ง ทำให้แผ่นดินและพืชพันธุ์คืนสู่ความเขียวขจี พร้อมกับเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในทางกลับกัน เมื่อเทพีเพอร์เซโฟนี ต้องกลับไปอยู่ข้างล่าง พืชพรรณและแผ่นดินที่เขียวขจีก็จะเหี่ยวแห้งไม่เจริญผล พร้อมกับเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว


ที่มา: http://www.tumnandd.com/

อาณาจักใต้พิภพซึ่งเฮดีสปกครองอยู่นั้น(ตามตำนานที่ Homerได้เขียนไว้) แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกของ ทาทารัส (Tartarus) ดินแดนที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า นรก เพราะผู้ใดที่หมดอายุไขต้องถูกส่งมาเพื่อพิจรณาความที่นี่ ส่วนที่สองคือ อิลีเซียม (Elysium) ซึ่งตรงข้ามกับทาทารัส โดยเปรียบเหมือนกับ สวรรค์ ซึ่งเป็นที่ฝังศพเทพโครนอส และยังเป็นดินแดนที่มีความสว่งสดใส วิญญาณตนใดที่อยู่นดินแดนนี้ สามารถกลับขึ้นไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ ส่วนที่สามได้แก่ แอสโฟเดล (Asphodel Fields) จะมีลักษณะคล้ายๆกับ อิลีเซียมแต่ไม่ได้มีความสว่างสดใสเท่า และวิญญาณส่วนใหญ่อยู่ในที่แห่งนี้ และส่วนสุดท้ายได้แก่ อีเรบีส (Erebus) เป็นสถานที่ซึ่งเฮดีสอาศัยอยู่ ทุกคนที่หมดอายุไขแล้วต้องผ่านที่นี่เป็นที่แรก

นอกจากนั้น เราจะมาพูดถึงเรื่องการเดินทางของวิญญาณหลังความตาย  ในดินแดนใต้พิภพยังมีแม่น้ำอีก 5 สายที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำ สติงค์ (Stynx) แม่น้ำ อาคีรอน (Acheron) แม่น้ำ โคซายตัส (Cocytus) แม่น้ำ เฟลกีธัน (Phlegeton) และแม่น้ำ เลธี (Lethe) โดยเมื่อหมดอายุไข วิญญาณทุกตนจะต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำสติงค์เพื่อเข้ามาที่โลกใต้พิภพโดยจะมี ชาร์ลอน เป็นผู้ภายเรือข้าม ซึ่งจากตรงนี้จะทำให้เห็นในแง่ของความเชื่อที่ว่าทำไมเมื่อเวลามีคนตายต้องใส่เหรียญไว้ที่ปากศพ เพื่อมาจ่ายค่าผ่านทางให้กับชารฺลอนในการพาข้ามแม่น้ำไป และหลังจากนั้นก็จะถูกนำมาพิจารณาไปตามลำดับ และมีการดื่มน้ำที่แม่น้ำเลธีเพื่อลืมเรื่องราวข้างบนและมีความสุขกับชีวิตใหม่

และนี่คือเรื่องราวและประวัติเกี่ยวกับเทพเจ้าเฮดีส เทพเจ้าแห่งโลกใต้พิภพในตำนานกรีก หรือเทพเจ้า พลูโต ตามตำนานของชาวโรมัน ที่มีความเชื่อถือและความศรัทาเผยแพร่ไปทั่วโลก หลายคนอาจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องราวของเขาว่าเฮดีสเป็นเทพแห่งความตาย และน่ากลัว แต่จริงๆแล้วเฮดีสไม่ใช่ ท่านเป็นผู้ที่มีความยุติธรรมต่อทุกคนที่ลงมาอยู่ในอณาจักรของท่าน และยังเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดอีกด้วย


อ้างอิง

Danae. (2010). เฮดีสเทพแห่งคนตายและอณาจักรใต้พิภพ. Retrieved September 15, 2016, from https://my.dek-d.com/Gemeaux/writer/viewlongc.php?id=154645&chapter=5

เจ้าข้าเจ้าของ. (2013). ตำนานรักเทพเฮดีสเทพแห่งโลกหลังความตาย กับเทพธิดาเพอร์ซิโฟเนเทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ. Retrieved September 16, 2016, from: http://board.postjung.com/706088.html

Shmoop. PERSEPHONE, DEMETER, AND HADES SUMMARY.  Retrieved September 20, 2016, from: http://www.shmoop.com/persephone-demeter-hades/summary.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น