หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

24 ธ.ค. 2559

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง

โดย ณรงค์ พุทธาวันดี

จิ้งจอกเก้าหางเป็นปีศาจในตำนานที่เก่าแก่ ปกติแล้วคิทซึเนะจะเป็นคำเรียกสุนัขจิ้งจอกทั่วๆ ไป ซึ่งผู้คนเชื่อว่าจิ้งจอกที่อาศัยตามป่าเขานั้นจะมีพลังพิเศษต่างๆ สามารถกลายร่างเป็นหญิงสาวได้และอีกทั้งเจ้าเล่ห์ชอบแกล้งผู้คนที่เดินทางไปมาตามป่าเขาทำให้ผู้คนตกใจและหวาดกลัว

ตำนานจิ้งจอกเก้าหางมีที่มาจากอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งคิดว่าเป็นปิศาจตนเดียวกัน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการสืบทอดวัฒนธรรมจากอินเดียไปยังจีนตามเส้นทางสายไหม และต่อเนื่องไปยังญี่ปุ่นโดยการเผยแพร่ทางวัฒนธรรม


ที่มา: http://www.tumnandd.com/

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสามารถพบเห็นได้ตามแถบตะวันออกของเอเชีย ตามความเชื่อแล้วปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นจิ้งจอกที่มีพลังเวทมนต์  มีทั้งพวกศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นข้ารับใช้ของเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งการเพาะปลูก และมีพวกที่จัดว่าเป็นผีร้าย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจะเชี่ยวชาญในเรื่องเวทมนต์มายา และวิชาแปลงกาย เชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกที่มีอายุยืน และมีตบะแก่กล้ามากพอจะสามารถกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกได้ เมื่อปีศาจจิ้งจอกอายุครบ100ปี จะมีหางงอกเพิ่มมา1หาง และเมื่อใดที่จิ้งจอกเก้าหางมีหางครบ9หาง ปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นก็จะมีพลังที่มหาศาลและฉลาดอย่างยิ่ง

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีสังคมที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ มันจะสวมเสื้อผ้าและยืนสองขา บางครั้งก็เข้ามาปะปนอยู่กับมนุษย์ มันสามารถแปลงกายได้แนบเนียนจนมนุษย์ไม่สามารถจับได้ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวใดถูกมนุษย์จับได้ก็จะถูกลงโทษ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั้นจะแปลงกายให้ได้สำเร็จนั้นจำเป็นต้องใช้กะโหลกของมนุษย์มาช่วยจึงจะสามารถแปลงกายได้สำเร็จ

เมื่อปีศาจจิ้งจอกเก้าหางแปลงร่างเป็นมนุษย์ มันก็จะมีความรู้สึกหรือความต้องการเหมือนกับมนุษย์ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจะชอบกินของอร่อยๆ โดยเฉพาะเต้าหู้ทอด ชอบการได้สัมผัสกายมนุษย์ และรวมไปถึงเรื่องเซ็กส์ด้วย ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเป็นหนึ่งในปีศาจที่มีการเล่าถึง สายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับมนุษย์ บางครั้งก็เชื่อว่าที่จิ้งจอกเก้าหางแปลงกายเป็นสตรีที่งดงามนั้นก็เพื่อที่จะตามหาความรัก มีการแต่งงานกินอยู่กับมนุษย์จนมีทายาทสืบต่อ ทายาทปีศาจจิ้งจอกนั้นจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งแปลกไปจากมนุษย์ และก็จะมีพลังพิเศษและเสน่ห์ติดตัวที่แปลกประหลาด

มนต์มายาของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางลึกล้ำมาก ถึงแม้ว่ามนุษย์จะรู้ว่าต้องมนต์ของปีศาจจิ้งจอก แต่สัมผัสของมนต์มายาก็เหมือนจริง จนแทบแยกความจริงกับภาพมายาไม่ออก ปีศาจจิ้งจอกที่มีตบะมากจะรู้จิตใจของมนุษย์ ทำให้สามารถสร้างภาพมายาที่มนุษย์คนนั้นต้องการเห็นได้ ทำให้มนุษย์ปฏิเสธไม่ได้  ในบางครั้งมีการกล่าวไว้ว่าจิ้งจอกเก้าหางจะดูดกลืนพลังชีวิตจากวิญญาณมนุษย์เพื่อเพิ่มกำลังผ่านการจุมพิษกับมนุษย์ จึงไม่แปลกที่ในตำนานจีนจะมีเรื่องของจิ้งจอกจำแลงตัวเป็นนางสนมเอกของฮ่องเต้ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่และควบอำนาจยึดครองประเทศในคราวเดียวกัน

จิ้งจอกเก้าหางในตำนานของจีน

เรื่องจิ้งจอกเก้าหางของจีน ได้กล่าวถึง พระเจ้าโจ้วหวาง (ติวอ๋อง) แห่งราชวงศ์ซางได้ไปสักการะเจ้าแม่หนวี่วา ในวิหารของเจ้าแม่  ปกติรูปเคารพเจ้าแม่จะมีผ้าบางๆ กั้นใบหน้าอยู่ บังเอิญตอนนั้นมีลมพัดผ่านมา ทำให้ผ้าเปิดออก โจ้วหวางได้เห็นใบหน้าของเจ้าแม่หนวี่วาง จึงคิดอยากได้เจ้าแม่หนวี่วามาเป้นสนมของตน จึงพูดออกมาว่า เจ้าแม่งดงามขนาดนี้ หากได้มาเป็นมเหสีน่าจะดี  เมื่อเจ้าแม่หนวี่วาได้ยิน จึงโกรธมาก สั่งให้ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง ปิศาจพิณ และปิศาจไก่ มาทำให้โจ้วหวางเกิดความลุ่มหลงจนบ้านเมืองล่มสลายเพื่อเป็นการลงโทษ แต่อย่าให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน และตอนนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า ต๋าจี เป็นลูกสาวของเจ้าเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งถูกส่งตัวเข้ามาในวังเพื่อเป็นพระสนมของโจ้วหวาง ต๋าจี เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยมาก จิ้งจอกเก้าหางได้แอบลอบฆ่าต๋าจี และสวมรอยเป็นต๋าจีเพื่อแอบเข้าวัง  เมื่อโจ้วหวางได้พบต๋าจีก็รู้สึกชอบในตัวต๋าจีเป็นอย่างมาก

เนื่องจากต๋าจีมีใบหน้าสวยราวกับเจ้าแม่หนวี่วา กิริยาคำพูดคำจาไพเราะอ่อนหวาน จิ้งจอกเก้าหางจึงทำให้โจ้วหวางลุ่มหลงในตัวนาง ซึ่งไม่ยากเลยเพราะตัวต๋าจีมีความสวยอยู่แล้ว สามารถร้องเพลง และเล่นดนตรีได้ไพเราะ แล้วยังสามารถร่ายรำได้สวยงามอีกด้วย ทำให้โจ้วหวางลุ่มหลงในตัวต๋าจีจนถอนตัวไม่ขึ้น และนางก็ได้ให้โจ้วหวางทำแต่เรื่องชั่วร้าย สร้างความเดือนร้อนและทำให้ประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในที่สุดจิ้งจอกเก้าหางที่อยู่ในร่างต๋าจีก็ได้ให้โจ้วหวางสร้างหอสอยดาวขึ้นมาแล้วเกณฑ์แรงงานมาทำงาน ทำให้ประชาชนตายเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้นปิศาจทั้งสามก็ถูก เจียงจื่อหยาซึ่งเป็นผู้วิเศษ ได้มาปราบปีศาจทั้ง3ลงได้   ปิศาจทั้งสามถูกจับตัวไปให้เจ้าแม่หนวี่วา ตัดสินโทษ จิ้งจอกเก้าหางเห็นว่าตนสามารถทำงานที่เจ้าแม่มอบหมายให้ แต่ทำไมจึงยังมีโทษอีก เจ้าแม่หนวี่วากล่าวว่าได้ใช้ให้ไปทำลายแต่เพียงโจ้วหวาง  เท่านั้น หาได้สั่งให้ไปเข่นฆ่าผู้คนมากมาย เช่นนี้ไม่การทำเกินกว่าคำสั่งแบบนี้  จำต้องถูกลงโทษ ทั้งปิศาจพิณและปิศาจไก่จึงถูกลงโทษให้ตายตกไปตามกัน ส่วนจิ้งจอกเก้าหางนั้นหลบหนีการลงโทษไปได้
   


จิ้งจอกเก้าหางในตำนานของญี่ปุ่น

ในตำนานของญี่ปุ่นได้กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางว่า เป็นปิศาจที่หลบหนีมาแฝงตัวอยู่ในราชสำนักของญี่ปุ่นในรัชสมัยของจักรพรรดิโทบะ หลังจากที่หลบหนีมาจากอินเดีย และจีนมาแล้ว โดยแฝงตัวมาในร่างของหญิงงามนามว่า ทามาโมะ มาเอะ พระสนมของจักรพรรดิโทบะ นางทำให้จักรพรรดิโทบะลุ่มหลงในความงามของนาง และสุขภาพของจักรพรรดิโทบะก็ทรุดโทรมลงทุกวัน จึงได้มีการอัญเชิญนักพรตจากหอองเมียวมาทำพิธีปัดรังควาน พบว่าในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่  เมื่อความแตก ทามาโมะ มาเอะ จึงได้คืนร่างเป็นจิ้งจอกสีทองตัวมหึมา มีเก้าหาง เหาะหลบหนีไปบนท้องฟ้า กองทหารของจักรพรรดิโทบะได้ไล่ตามไปจนถึงที่ราบสูงนาสุ และต่อสู้กับปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง และสามารถสยบจิ้งจอกเก้าหางลงได้ กลายเป็นหินเซ็ทโชเซกิ ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นมาจนปัจจุบันนี้


ที่มา : http://videoburda.ru/burda/

จิ้งจอกเก้าหางมีทั้งฝ่ายที่ดีหรือผู้คนนับถือและฝ่ายที่ไม่ดีหรือพวกปีศาจชั่วร้าย จิ้งจอกเก้าหางมักจะแปลงกายเป็นหญิงสาวล่อลวงผู้ชายเพื่อที่จะได้ดูดกลืนพลังชีวิตของชายผู้นั้น และเมื่อใดที่จิ้งจกเก้าหางครบเก้าหางจิ้งจอกตัวนั้นก็จะมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ จิ้งจอกเก้าหางมักชอบใช้มนต์เสน่ห์ทำให้ผู้คนหลงใหลในตัวมัน และจนทำให้ผู้คนนั้นแตกแยกกันหรือทะเลาะกัน ด้วยเหตุนี้จิ้งจอกเก้าหางจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายอีกอย่างหนึ่ง และเป็นสัญลักษณ์แห่งการใช้เสน่ห์ล่อลวงอีกด้วย


อ้างอิง

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง สืบค้นเมื่อ  5 กันยายน 2559,จาก
http://my.dek-d.com/immortalking/writer/viewlongc.php?id=1355819&chapter=2

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง สืบค้นเมื่อ  5 กันยายน 2559,จาก http://www.online-station.net/entertainment/story/345

ตำนานจิ้งจอกเก้าหาง สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน2559,จาก http://videoburda.ru/burda/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น