หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

2 มิ.ย. 2559

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

โดย กฤตนันท์ วงศ์รัตนชีวิน

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นั้นเป็นสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของอังกฤษเลยทีเดียว โดยสโมสรฟุตบอลนี้นั้นมีสนามของตัวเองคือ โอลด์แทรฟฟอร์ด ในเมืองแมนเชสเตอร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีความสำเร็จสูงสโมสรหนึ่งโดยชนะเลิศแชมป์ลีกถึง 20 ครั้ง ชนะเอฟเอคัพ 11 ครั้งลีกคัพ 3 ครั้ง ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 ครั้ง และชนะ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพอินเตอร์เนชันแนลคัพและ ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 ครั้ง โดยสโมสรแมนยูนี้เป็นสโมสรที่มีความนิยมสูงมาก โดยสโมสรนี้นั้นมียอดผู้เข้าชมหรือเชียร์สโมสรนี้มากที่สุดในฟุตบอลอังกฤษตลอด 34 ฟดูกาล


ที่มา: http://www.manutd.com/

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 สโมสรปรับปรุงรูปแบบกิจการเป็นบริษัทมหาชนและต่อมานักธุรกิจชาวอเมริกัน มัลคอล์ม เกลเซอร์ เข้าครอบครองแบบไม่เป็นมิตร และนำสโมสรออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตั้งแต่ปีค.ศ. 2005

ประวัติศาสตร์ สโมสรสโมสรในช่วงแรก (1878-1945) สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่จริงแล้วชื่อเดิมของสโมสรนั้น คือ "นิวตัน ฮีท " โดยการก่อตั้งทีมฟุตบอลนั้นเกินขึ้นจากพนักงานการรถไฟสายแลงคาเซี้ยร์ แอนด์ ยอร์ดเชียร์ แผนกรถสินค้าของบริษัทกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ ระหว่างนั้นพวกเขาได้หารือกันและพวกเขาจึงได้เริ่มก่อตั้งทีมฟุตบอลนี้ขึ้นมาจนได้ และตระเวณเล่นฟุตบอลอยู่ภายในบริเสณนอร์ธกราวด์ สถานที่ที่พวกเขานั้นใช้ซ้อมก็ใช้พื้นที่ในส่วนของรางรถไฟนั้นเอง โดยใช้เป็นเส้นแบ่งเขตสนาม โดยทีมฟุตบอลของเขานั้นก็สามารถที่จะเล่นฟุตบอลได้ดีเรื่อยมาเสมอๆ โดยชุดแข่งที่ใช้เสื้อสีเขียว-เหลือง อย่างละครึ่ง กางเกงสีดำเป็นชุดเก่ง พนักงานที่อยู่ในแถบนั้น แพ้นิวตัน ฮีท กระจุย

ในปี 1885 สมาชิกในทีมได้ตัดสินใจติดต่อกับการรถไฟ และก่อตั้งทีมเพื่อเป็น บริษัท จำกัด โดยใช้ชื่อว่า นิวตัน ฮีท ฟุตบอลคลับ ผลงานชิ้นแรกของเขาคือการคว้าแชมป์ แมนเชสเตอร์ คัพมาครอง นั้นคือรางวัลแรกของทีมที่เพิ่งก่อตั้งนี้ ในช่วงต้นของสโมสรฟุตบอลทุกๆสโมสร ต่างมีฐานะการเงินที่ย้ำแย่ทั้งนั้น นิวตัน ฮีท ก็เช่นเดียวกัน และในปี 1902 ผู้อำนวยการบริษัทเบียร์ ได้เข้ามาซื้อหุ้นของสโมสร และกรรมการบริหารชุดใหม่ ได้เปลี่ยนชื่อนิวตัน ฮีท เป็น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พวกเขาเริ่มลงเล่นในเสื้อแดงและกางเกงขาสั้นสีขาว


ที่มา: https://th.wikipedia.org/

ภายหลังในยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้สิ้นสุดลงในที่สุด ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประสบกับปัญหาครั้งใหญ่คือนักเตะไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งอายุที่มากไปและสภาพร่างกายของนักเตะที่แย่ลงอีกด้วยทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมร่วมเมือง เพื่อขอใช้สนาม เมน โร้ด เป็นสนามเหย้า พร้อมกับแต่งตั้ง แม็ตต์ บัสบี้ เป็นผู้จัดการทีมชุดนั้น และชายผู้นี้แหละที่ได้สร้าง "เร้ด เดวิลส์" ให้กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้ง โดยไปพบทีมที่เป็นเด็กในท้องถิ่นจนได้คลองแชมป์ลีกในฤดูกาล 1951-1952 เลยทีเดียวและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคต่อไป แต่กลับเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งใหญ่ขึ้นกับสโมสรฟุตบอลนี้ โดยเกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินที่กำลังจะบินขึ้นฟ้า จนทำให้นักฟุตบอลในทีมเสียชีวิตไปถึง 8 คนหลังจากนั้นทีมจึงได้เริ่มต้นสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อคว้าแชมป์อีกครั้ง


ที่มา: http://www.grandprix.co.th/

หลังจากนั้นหลายปีสโมสรฟุตบอลนั้นก็ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมาอย่างมากมาย มีทั้งแย่ลงและดีขึ้นมาบ้างจนถึงสมัย ในปี 2013–ปัจจุบัน หลังจากผ่านมานานสโมสรก็ได้พัฒนาไปอย่างมาก จนกลายเป็นสโมสรชื่อดังต้นๆแห่งอังกฤษ โดยในปี 2013 หลังจากที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ประกาศวางมือจากการคุมทีมไป หลังจากที่คุมทีมมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปีครึ่ง ทางสโมสรก็ได้แต่งตั้ง เดวิด มอยส์ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันชาวสกอต ให้มารับหน้าที่ผู้จัดการ แต่กลับทำให้ทีมมีผลงานที่ย่ำแย่มาก จนในที่สุดจบฤดูกาล สโมสรก็ได้เพียงอันดับที่ 7 ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบภาคพื้นทวีปได้ อีกทั้งยังทำสถิติที่ย่ำแย่อีกหลายสถิติอีกด้วย จนกลายเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของทีมในรอบ 19 ปี ในที่สุดก่อนจะสิ้นสุดฤดูกาลเพียงแค่ 4 นัด ผู้บริหารทีมก็ตัดสินใจปลดมอยส์ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับแต่งตั้งไรอัน กิกส์ ปีกซ้ายชื่อดังของทีมวัย 40 ปี รับผิดชอบหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวและผู้เล่นไปในตัวด้วย จนกว่าจะหาผู้จัดการทีมคนใหม่ได้ ที่สุดในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ทางทีมก็ได้แต่งตั้งลูวี ฟัน คาล ผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และกิกส์ที่ประกาศเลิกเล่นไปก็รับหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีม แต่หลังเปิดฟดูกาลมาใหม่ทีมก็ทำคะแนนได้เพียง 2 แต้มเท่านั้นเอง ทำให้ตกรอบ 2 ไปทันที

ในพรีเมียร์ลีกนัดถัดมา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ชัยชนะนัดแรก แต่ในนัดต่อมาก็กลับมาแพ้ให้กับทีมเลสเตอร์ซิตี้ และกองหลังของทีมยังถูกใบแดงไล่ออกในตอนท้ายของเกมอีกต่างหาก และมีแต้มหลังจากนั้นเพียง 5 คะแนนเท่านั้นและสถิติของทีมมีสถิติแย่กว่าสมัยของ มอยส์ ซะอีก และมีรายงานว่าผู้เล่นบางคนถึงกับกล่าววาจาหยาบคายออกมาในห้องพักหลังจากแข่งขัน ซึ่งแสดงออกถึงความไม่พอใจในตัวฟัน คาล โดยฟัน คาล ได้กล่าวว่าขอเวลาให้ตนเอง 4 เดือนเพื่อที่จะปรับทีมให้ลงตัวตามแผนการเล่น ทั้งที่ก่อนเปิดฤดูกาลผลงานของฟัน คาล พาทีมชนะรวดทั้งหมด 6 นัดในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่อง
เกียรติประวัติ
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง / เอฟเอ พรีเมียร์ลีก: 20
1907-08, 1910-11, 1951-52, 1955-56, 1956-57, 1964-65, 1966-67, 1992-93, 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03, 2006-07, 2007-08, 2008-09, 2010-11, 2012-13
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นสอง: 2
1935-36, 1974-75
เอฟเอคัพ: 11
1909, 1948, 1963, 1977, 1983, 1985, 1990, 1994, 1996, 1999, 2004
ดังนั้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของอังกฤษ โดยมีการเริ่มต้นจากพนักงานที่นั่งทานข้าวกันจนทำให้มีการคุยกันและเกิดเป็นสโมสรฟุตบอลจนได้ และได้ฝึกฝนและมีการเปลี่ยนนายทุนและชื่อทีมจนทีมมีความลงตัวและสมบูรณ์ และทำชื่อเสียงให้กับประเทศมากและขึ้นนำจนกลายเป็นสมสรที่มีชื่อดังทั่วโลกและมีคนรักและเชียร์เป็นจำนวนมากหรือคือสโมสรฟุตบอลนี้นั้นมีสภาพและความสามารถอยู่ในที่ต้นๆของโลกแล้วนั้นเอง ถือว่าประสบความสำเร็จในที่สุด


อ้างอิง

ประวัติสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด. สืบค้นเมื่อ 2 พ.ค 2559, จาก http://www.glory-manutd.com/

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด. สืบค้นเมื่อ 2 พ.ค 2559, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

ประวัติแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด. สืบค้นเมื่อ 2 พ.ค 2559, จาก http://www.redarmyfc.com/history.php



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น