หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

24 พ.ค. 2559

กรุงปักกิ่ง (Beijing)

โดย ธัญญลักษณ์ ชัยเดช

หากพูดถึงประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และเกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอารยธรรมประเทศของตนเองมากที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออก ก็คงหนีไม่พ้น “สาธารณรัฐประชาชนจีน” หรือที่คุ้นหูกันในนาม “ประเทศจีน”

ประเทศจีนนั้นเป็นรัฐเมืองเดียว มีการปกครองโดยระบบคอมมิวนิสต์จีน แบ่งการปกครองเป็น 23 มณฑล 5 เขตปกครองตนเอง มหานคร 4 มหานคร มีสถานะเทียบเท่ามณฑล และ 2 เขตบริหารพิเศษ ซึ่ง5เขตปกครองตนเองที่กล่าวนั้นได้แก่ ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และฉงชิ่ง โดยการที่กรุงปักกิ่งมีการปกครองด้วยตนเองนั้นทำให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจีน และกรุงปักกิ่งก็ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่งและวัฒนธรรม และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปในหลายๆประเทศ

กรุงปักกิ่งกรุงปักกิ่ง หรือ เปย์จิง (Beijing)   กรุงปักกิ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศจีนรองจากเซี่ยงไฮ้ เริ่มตั้งเป็นเมืองตั้งแต่ปี 1928 ปัจจุบัน แบ่งเป็น 16 เขตและ 2 อำเภอ เป็นนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง พื้นที่ทั่วกรุงปักกิ่งมีถึง 16,800 ตารางกิโลเมตรและมีถึงประชากร 1,136,300 คน  และตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า เป็นเมืองศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่งและวัฒนธรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของผู้คนนั้น ทำให้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งถูกยกสถานะเป็นเมืองสำคัญระดับโลกเป็นศูนย์กลางทางการปกครองการค้า การลงทุนที่สำคัญที่สุดของประเทศจีนในแต่ละปีมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาติดต่อการค้าท่องเที่ยว ศึกษาเป็นจำนวนมากประชาชนชาวปักกิ่งมีสภาพความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้นด้วย ปักกิ่งเป็น 1 ใน 4 เมืองหลวงเก่าของจีน และได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2551 อีกด้วย มหานครปักกิ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน นับแต่ สมัยราชวงศ์หยวน สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน  ซึ่งในปัจจุบันนั้นเป็นจุดก่อให้เกิดเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวให้กับประเทศที่ดีมากขึ้น

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆในกรุงปักกิ่งและมีความเชื่อโยงกับประวัติศาสตร์จีนหรืออารยธรรมจีนในด้านต่างๆ  ได้แก่ กำแพงเมืองจีนพระราชวังโบราณ หอสักการะฟ้าเทียนถัน สุสานจักรพรรดิสมัยราชวงศ์หมิง วังพักร้อนอี๋เหอหยวนและภูเขาเซียงซาน เป็นต้น


กำแพงเมืองจีน

1. กำแพงเมืองจีน  เปรียบเสมือนมังกรตัวมหึมา ที่ทอดกายจากทะเลหวงไห่ลัดเลี้ยวผ่านห้ามณฑล สองเขตปกครองตนเอง ไปสิ้นสุดลงที่กลางทะเลทรายโกบี ระหว่างทางจะมีการสร้างป้อมขึ้นตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ หลายแห่งโดยจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้ก่อตั้งและปฐมจักรพรรดิของอาณาจักรจีน พระองค์ทรงบัญชาการสร้างกำแพงนี้ต่อจากกำแพงเดิม เพื่อเป็นเครื่องกีดขวางการรุกรานของชนเร่ร่อน ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก สร้างด้วยแรงงานคนนับหมื่นนับแสนคน มีความยาว 6,350 กม. ตัวกำแพงสูงราว 7 เมตร และกว้าง 6 เมตร ว่ากันว่าหากใช้วัสดุก่อสร้างที่สร้างกำแพงแห่งนี้มาสร้างกำแพงที่มีความหนา 1 เมตร สูง 5 เมตร จะได้กำแพงที่มีความยาวรอบโลก 1 รอบ

2. สุสาน 13 กษัตริย์ หรือ วังใต้ดิน ซึ่งใช้เป็นที่เก็บพระศพของจักรพรรดิจีน และพระมเหสี รวม 13 รัชกาล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 40 ตารางกิโลเมตร นำชมสุสานใต้ดิน "ติ้งหลิง" ที่เก็บพระศพ และสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิว่านลี่และมเหสีอีก 2 พระองค์ ที่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ประมาณการก่อสร้างถึง 8 ล้านเหรียญเงิน ใช้คนงานถึง 30,000 คน ระยะเวลาการก่อสร้างถึง 6 ปีเต็ม บริเวณรอบสุสานเป็นที่ตั้งของใช้ในราชสำนักที่ขุดพบภายในสุสาน


พระราชวังโบราณ (กู้กง)
ที่มา: https://www.ilovetogo.com/

3. พระราชวังโบราณ หรือ กู้กง นครต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ที่มีพื้นที่ถึง 720,000 ตร.ม. วัดโดยรอบกำแพงได้เป็นระยะทางถึง 6 ก.ม. สร้างขึ้นเมื่อราว 600 ปีก่อน มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างรวม 800 หลัง ที่นี่เคยใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิจีนในสมัยราชวงศ์หมิงและแมนจู รวม 24 รัชกาล หมู่อาคารเครื่องไม้ที่ประกอบด้วยห้องหับต่างๆ ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นห้องแล้วมีมากถึง 8,706 ห้อง ท้องพระโรงที่โอ่อ่า พระตำหนักว่าราชการและพระตำหนักชั้นใน พิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ และที่เก็บเพชรนิลจินดาซึ่งประมาณค่ามิได้ พร้อมเครื่องใช้ในราชสำนักที่หาชมได้ยาก

4. พระราชวังฤดูร้อน "อี้เหอหยวน"  อุทยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้รับการออกแบบโดยจักรพรรดินีซูสีไทเฮาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง สถานที่ตระการตา     ( แต่มีราคาค่าก่อสร้างที่สูงมาก ) เสร็จในปี ค.ศ. 1888 นำชมความงามอันวิจิตร และใหญ่โตโอฬารของพระราชวังที่ประกอบไปด้วยทะเลสาบจำลอง ( เก๋งจีน ) ระเบียงยาว เจดีย์ที่สวดมนต์ สะพานหินละเรือหินอ่อน สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อราว 800 ปีก่อน ประกอบภาพเขียนสีเป็นเรื่องราวเทพนิยายต่างๆ ของจีนที่ไม่ซ้ำกันเลยเป็นจำนวนถึง 8,000 กว่าภาพ เคยถูกรุกรานถึงสองครั้ง เมื่อตอนกองทัพพันธมิตรบุกยึดเมืองปักกิ่ง

จะเห็นได้ว่ากรุงปักกิ่งในปัจจุบันได้ยกสถานะเป็นเมืองสำคัญ ได้มีการพัฒนาในหลายด้าน ไม่ว่าจะในด้านเศรษฐกิจหรือการคมนาคมต่างๆ รวมไปถึงการท่องเที่ยวก็เช่นกัน ได้มีชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อการค้าขายแลการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงสภาพความเป็นอยู่ของประชากรในเมืองปักกิ่งก็มีสภาพความเป็นอยู่และคุณค่าชีวิตที่ดี รายได้ก็มีมากขึ้นเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามากมาขึ้น ทั่งนี้ยังได้รับอิทธิพลจากชาวต่างชาติเข้ามาสู่เมืองของตนเองอีกด้วย

อ้างอิง

บ้านเจ้าจอม. เมืองโบราณทั้งเจ็ดของจีน. ค้นเมื่อ 23 พฤษภาคา พ.ศ. 2559, จาก http://www.baanjomyut.com/library/china/09.html

ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยจีน. การเมืองการปกครองจีน. ค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, จาก http://www.thaibizchina.com/thaibizchina/th/about-china/politics-china.php

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (ม.ป.ป.) ประเทศจีน. ค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศจีน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น