หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

21 ธ.ค. 2558

เดอะบีทเทิลส์ (The Beatles)

โดย จิรวัฒน์ พานเยือง

อุตสาหกรรมดนตรีถือเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์ทุกเพศทุกวัย เป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงและความสนุกสนานให้กับมนุษย์ทุกคน บนโลกนี้มีศิลปินบินมากมายที่คอยสร้างสรรค์และบรรเลงบทเพลงเมื่อมอบความสุขแก่ผู้ฟัง บทเพลงนับหมื่นเพลงถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้จากบรรดาศิลปินทั่วโลก ในช่วงปีค.ศ.1963 มีเด็กหนุ่ม 4 คนปรากฏตัวขึ้นมาและได้สร้างสรรค์แนวเพลงที่แปลกจนกระทั่งกลายเป็นวงดรตรีที่ปฏิวัติวงการดนตรีไปอย่างสิ้นเชิง และได้ได้กลายเป็นศิลปินที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก วงดนตรีดังกล่าวมีชื่อว่า “The Beatles”

เดอะบีทเทิลส์ (The Beatles) ประกอบด้วยสมาชิก4คน ได้แก่ John Lennon , Paul McCarthny , George Harrison , Ringo Starr. ในปีค.ศ.1956 John และ Paul ได้พบกันเป็นครั้งแรกในขณะนั้น John Lennon มีอายุ 16 ปี และ Paul McCarthny อายุ 15 ปี จากนั้นทั้ง 2ได้เริ่มเล่นดนตรีด้วยกันจนกระทั่งในปี 1958 George Harrison ได้เข้ามาร่วมวงอีกคน ในขณะนั้นได้ใช้ชื่อวงว่า Johny and the moondogs และได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Silver Beatles



ในวันที่ 21 มีนาคม 1958 ทางวงได้แสดงสดครั้งแรกที่ The Carvern club และได้ใช้ชื่อวงว่า The Beatles เป็นครั้งแรก Brian Epstein เจ้าของร้านแผ่นเสียง NEMS ได้ชมการแสดงสดในวันนั้นและเกิดความสนใจจึงได้ทำสัญญากับ The Beatles และกลายเป็นผู้จัดการวงในขณะนั้น ต่อมาวันที่ 1มิถุนายน 1962 The Beatles ได้ไปทดสอบเสียงกับ George Martin โปรดิวเซอร์ของค่าย EMI ต่อมาเมื่อวันที่1สิงหาคม Ringo Starr ได้เข้ามาประจำในตำแหน่งมือกลองแทนที่ Pete Best และในวันที่ 11 สิงหาคม George Martin ได้เข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ในซิงเกิ้ลแรกคือ Love me do

Love me doได้รับความนิยมเป็นอย่างมากหลังจากนั้นทางวงก็ปล่อยซิงเกิ้ลออกมาอีกมากมาย เช่น She Loves You , I Wanna Hold Your Hand , Twist and Shout , Please Please Me ซิงเกิ้ลทั้งหมดได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากบรรดาแฟนเพลงจนเกิดคำศัพท์ใหม่ชื่อว่า “Beatlesmania”

ในปีค.ศ.1964 The Beatles ได้ออกอัลบั้มแรกชื่อว่า Meet The Beatles ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายจนได้รับการบันทึกว่าเป็นอัลบั้มที่ขายเร็วและขายได้มากที่สุดนับเป็นปรากฏการใหม่ในวงการดนตรีขณะนั้นเลยทีเดียว เนื่องจากดนตรีแนวskiffle ในช่วงอัลบั้มแรกเป็นแนวดนตรีที่ค่อนข้างแปลกใหม่ในขณะนั้น รวมไปถึงหน้าตาที่หล่อเหลาของสมาชิกในวง ทำให้ทางวงมีฐานแฟนคลับที่เป็นผู้หญิงค่อนข้างมาก

ในเวลาต่อมาThe Beatles เปลี่ยนแนวดนตรีหลากหลายรูปแบบในแต่ละอัลบั้ม เช่น แนวPsychedelic rock จากอัลบั้มSgt. Pepper Lonely Heart Club Band หรือแนว Rock&Roll ในช่วงยุคหลังของวง ทุกอัลบั้มที่วางจำหน่ายนั้นสามารถขึ้นเป็นอันดับ1ของสถานีวิทยุในอังกฤษได้ทั้งหมด ทำให้The Beatlesทำสถิติเป็นวงดนตรีที่มีซิงเกิลขึ้นอันดับ1ของคลื่นวิทยุได้มากที่สุด(อังกฤษ17ซิงเกิล อเมริกา20ซิงเกิล)

The Beatles ประกาศยุบวงในปีค..1970เนื่องจากมีข่าวว่าสมาชิกแต่ละคนที่ทัศนคติที่ไม่ตรงกันและอยากแยกไปทำดนตรีในแบบของตัวเอง ทางวงจึงตัดสินใจประกาศยุบวงในที่สุด

นอกจากนี้สมาชิกทั้ง 4 คนยังได้รับพระราชทานเครื่องราชย์ MBE จากควีนอลิซาเบธที่ 2 และได้รับรางวัลมากมายตลอดช่วงเวลาเกือบ10ปีของวง เช่น รางวัลแกรมมี7รางวัล รางวัลแผ่นเสียงระดับเพชร 6 ใบ ระดับมัลติแพลทตินัม 28 ใบ ระดัลแพลทตินัม 43 ใบ และระดับทอง 53 ใบ , ได้รับการบรรจุเข้า Rock’n’Roll Hall of  Fame ในปี 1968 และนิตยาสารThe Rolling Stone ได้จัดอับดับให้The Beatles อยู่ในอันดับที่1ในรายชื่อ100ศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดการ

ปัจจุบันเพลงของ The Beatles มีอิทธิพลต่อการงานดนตรีของศิลปินรุ่นหลัง ๆ อย่างมากเนื่องจากThe Beatles นั้นเป็นของการเล่นดนตรีแบบเป็นวง อีกทั้งยังเป็นวงดนตรีแรกๆที่เป็นเพลงแนวRock&Roll และในหลายๆ ประเทศจะมีวงดนตรีที่เรียกว่า “The Beatles Tribute Band” มากมายหลายวง โดยวงเหล่านี้จะเล่นเฉพาะเพลงของ The Beatles เท่านั้น พวกเขาได้สร้างผลงานเพลงที่มีคุณค่าเอาไว้มากมาย ถือว่ามรดกสำคัญในวงการดนตรีเลยทีเดียว และเป็นเรื่องที่น่าแปลก แม้ The Beatles จะแตกแยกกันไปถึง 30 กว่าปีแล้วแต่คลื่นวิทยุต่างๆทั่วโลกก็ยังคงเปิดเพลงของ The Beatles มาจนถึงปัจจุบัน


อ้างอิง

กัญญารัตน์ กันทะวงศ์.2556.ประวัติวงThe Beatles . สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2558, จาก: http://mindmintzzz.blogspot.com/2013/02/beatles.html.

นรินทร์ สวนศิลป์พงศ์ .2557. ประวัติศิลปินคณะเดอะบีตเทิ่ล. สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2558, จาก: http://nakhonsawanradio.blogspot.com/2014/01/beatles.html

Bahblalie . 2555 . ความเป็นมาของ The Beatles(สี่เต่าทอง).  สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2558, จาก: https://bahbalie.wordpress.com/2012/07/19

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น