หน้าเว็บ

หัวข้อย่อย

ยุคสมัยของอารยธรรม

21 ก.พ. 2561

“ฉิงชิง” จาก “โสเภณี” สู่ "ราชินีโจรสลัดเเห่งทะเลจีนใต้"

โดย ธีรภัทร์ ช้างแก้ว

“ฉิงชิง” ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อ จากอดีตโสเภณีที่ต้องพบกับชะตาชีวิตอันผกผันจนทำให้เธอเป็นโจรสลัดที่น่าเกรงขามที่สุดในทะเลจีนใต้ จนเป็นที่กล่าวขานกันว่า แม้แต่ราชสำนักในยุคราชวงศ์ชิงอันยิ่งใหญ่ของจีน ยังต้องยอมแพ้ต่อโจรสลัดกลุ่มนี้ จนถึงขั้นที่ทางราชสำนักจีนพระราชทานอภัยโทษให้แก่ ฉิงชิง และสมาชิกโจรสลัดกลุ่มนี้ทุกคน เรื่องของฉิงชิงจึงได้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ ด้วยฉายาว่า “ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้”



ฉิงชิง  ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้
ที่มา http://www.liekr.com/post_146786.html 
ชีวประวัติของ ฉิงชิงหรือ เจิ้งอี้เส้า เกิดเมื่อราวปี ค.ศ.1785 ในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เธอได้เติบโตในครอบครัวที่มีฐานะยากจนต้องดิ้นรนต่อสู้ปากกัดตีนถีบเพื่อเอาชนะความแร้นแค้น ประกอบกับเธอไม่ได้รับการศึกษา เมื่อเติบโตขึ้น ต้องผันตัวมาทำงานเป็นโสเภณีในซ่องลอยน้ำ เพื่อเอาตัวรอดจากฐานะทางครอบครัวของเธอ

จนในที่สุดได้พบรักกับเจิ้งยี่ หัวหน้ากองเรือโจรสลัดธงแดงที่จะเข้ามาพลิกผันชีวิตของฉิงชิง จาก โสเภณี สู่ โจรสลัด ทั้งสองร่วมกันก่อตั้งกองโจรสลัด “ธงแดง” ที่มีสมาชิกเริ่มต้นเพียง 200 คน เท่านั้น ซึ่งเธอได้ปกครองกองโจรสลัดร่วมกับ เจิ้งยี่ ในยุคแรกเริ่มก่อตั้ง ทั้งคู่เริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในการต่อสู้กับกองทัพเรือของโปรตุเกสที่เดินทางมาค้าขายกับทางการจีน ซึ่งศึกทางทะเลครั้งนี้เองที่ทำให้กองเรือโจรสลัดธงแดงของฉิงชิง กับ เจิ้งยี่ นั้นเรืองอำนาจไปทั่วทั้งทะเล และมีคนขอเข้าเป็นสมาชิกโจรสลัดกับฉิงชิงเรื่อยๆ จนสมาชิกในกองเรือโจรสลัดธงแดงมีมากถึงถึง 50,000 ถึง 70,000 คน และมีเรือมากถึง 1,800 ลำ

กองเรือโจรสลัด “ธงแดง” ของฉิงชิง
ที่มา http://www.liekr.com/post_146786.html
แต่ต่อมา เจิ้งยี่ หัวหน้ากองโจรสลัดธงแดงได้เสียชีวิตลงจากการรบทางทะเลกับจีน ในทะเลประเทศเวียดนามเมื่อปี ค.ศ.1807 ฉิงชิง ซึ่งเป็นภรรยาของเจิ้งยี่จึงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกองเรือโจรสลัดเพียงผู้เดียวนับตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา  โดยเธอได้จัดการบริหารกองเรือโจรสลัด แบ่งออกเป็น 3 กองเรือย่อย คือ กองเรือของจางเป๋าจ่าย (ชางเป่า) กั๊วะป๋อไท่ และเหลียงเป่า โดยกองเรือทั้งหมดขึ้นตรงต่อฉิงชิงเพียงคนเดียวเท่านั้น

ฉิงชิงได้ฉายแววความโหดเหี้ยมอำมหิตในฐานะผู้นำกองเรือโจรสลัดธงแดง ฉิงชิงไม่ลังเลที่จะสังหารใครก็ตามที่คิดขัดขวางเธอ และปกครองกองเรือโจรสลัดด้วยกฎระเบียบสุดเข้มด้วยกฎที่ว่า “ใครหนีทัพ หากจับได้จะถูกตัดหูทันที” จนชาวทะเลจีนใต้ได้ยินคำเลื่องลือกิตติศัพท์ในความโหดร้ายของโจรสลัดกลุ่มนี้ต่างพากันหวาดกลัว

แต่ในทางกลับกันถ้าหากทำผลงานให้เป็นที่น่าพอใจแก่ฉิงชิง เธอไม่ลังเลที่จะตบรางวัลให้ลูกน้องด้วยการมอบเชลยศึกหญิงให้เป็นภรรยา ภายใต้เงื่อนไขว่า “พวกเขาต้องซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวเท่านั้น” และหากพบว่าใครแอบนอกใจภรรยา ฉิงชิงลงโทษสถานหนักทันที

ด้วยกฎที่เข้มงวดเช่นนี้ทำให้กองกำลังของ ฉิงชิง มีความเข้มแข็งขึ้น จนทางราชสำนักชิงของจีนได้ตระหนักว่า ต่อไปกองกำลังโจรสลัดกลุ่มนี้จะเป็นภัยคุกคามทางทะเลต่อราชสำนัก จึงส่งกองกำลังทหารเรือออกรบไปหลายครั้ง แต่ก็ได้พ่ายแพ้กลับไปทุกครั้ง จนกระทั่งทางราชสำนักจีนลงความเห็นว่า “ควรมีการใช้กองกำลังทางทหารอย่างเด็ดขาดกับโจรสลัดกลุ่มนี้” จีนจึงเตรียมเรือหลวงจักรพรรดิพร้อมความช่วยเหลือจากกองทัพเรืออังกฤษและดัตช์โดยส่งไปจมกองเรือของโจรสลัดธงแดงของฉิงชิง แต่แล้วฉิงชิงก็โค่นกองเรือของราชสำนักชิงทั้งหมดและได้เรือจักรพรรดิ 60 ลำ มาไว้ในครอบครอง ทำให้ราชสำนักจีนพ่ายแพ้ต่อศึกทางทะเลครั้งนั้นจนนายพลเรือตัดสินใจฆ่าตัวตาย ในเวลาต่อมาทางการจีนจึงตัดสินใจสงบศึกกับกองเรือของฉิงชิง

ในช่วงสุดท้ายจักรพรรดิราชวงศ์ชิงของจีนตระหนักว่าคงไม่อาจเอาชนะฉิงชิงได้ และเกรงว่า ถ้ามีการทำสงครามกับกลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้ต่อไป อาจเป็นภัยที่ยิ่งสร้างความเสียหาย และมีผลต่อความมั่นคงของราชสำนัก จักรพรรดิจึงตัดสินใจพระราชทานอภัยโทษต่อสมาชิกกองเรือโจรสลัดธงแดงทุกคนและอนุญาตให้ทุกคนกลับบ้านได้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างจากโจรสลัดกลุ่มอื่นๆ ที่ต้องถูกตามล่าตัวเพื่อนำตัวมาลงโทษด้วยการประหารชีวิตเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ฉิงชิงจึงได้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น “ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้”

ส่วนช่วงชีวิตที่เหลือเธอได้แต่งงานกับสามีใหม่ ชื่อ ชางเป่า  หรือ จางเป๋าจ่าย โดยในอดีตเป็นลูกของชาวประมง ที่ถูกฉิงชิงลักพาตัวมา และเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ทำงานเป็นโจรสลัดร่วมกับฉิงชิง  แต่ต่อมาทำความดีความชอบกับทางราชสำนักชิง จนได้รับพระราชทานยศตำแหน่งในกองทัพของราชสำนักชิง  ทำให้ฉิงชิงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านผู้หญิงตามบรรดาศักดิ์ที่สามีได้รับด้วย

ฉิงชิงเลิกเป็นโจรสลัดแต่หันไปทำกิจการเกี่ยวกับบ่อนการพนันแทน จนกระทั่งเธอได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1844 ด้วยอายุ 69 ปี ปิดฉากตำนานราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้ที่แม้แต่กองทัพเรือแห่งราชวงศ์ชิงยังไม่สามารถสยบได้

จะเห็นได้ว่า เรื่องราวของ ฉิงชิง ที่ได้มีฉายาว่า ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้ ได้ให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตของเราซึ่งได้สังเกตว่า เธอมีคุณลักษณะเด่นอยู่ 2 อย่าง คือ ความอดทน กับ ความเป็นผู้นำ ซึ่งช่วงแรกของชีวิต แม้ัมีชีวิตตกอับต้องทำงานเป็นโสเภณีเพื่อความอยู่รอด แต่เธอก็ทนทำจนมีการพลิกผันทางชีวิต เมื่อได้พบรักกับหัวหน้ากองเรือโจรสลัด จนเมื่อหัวหน้ากองโจรสลัดจากไป เธอก็สามารถขึ้นเป็นผู้นำปกครองลูกน้องต่อไปได้ ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดแต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการให้รางวัลเมื่อลูกน้องได้ทำผลงานที่เป็นที่ประทับใจ ทำให้ผู้คนพากันสมัครเป็นพรรคพวก จนกลายเป็นกลุ่มกองโจรสลัดที่ไร้เทียมทาน สมกับฉายาที่เธอได้รับ “ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้”


อ้างอิง

ฉิงชิง จาก โสเภณีในซ่องสู่ ราชินีโจรสลัดแห่งทะเลจีนใต้ แม้แต่รัฐบาลก็ยังสยบไม่ได้. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561, จาก : http://www.liekr.com/post_146786.html

8 โจรสลัด ที่มีจริง. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 , จาก : https://lifestyle.campus-star.com/scoop/65794.html

King of the Sea หรือ Zhang bao zi. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561, จาก : http://printhaha.blogspot.com/2009/07/king-of-sea-zhang-bao-zi.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น